ถอดบทเรียน 3 วิกฤติใหญ่ ข้าวผัดปูเมืองทอง 1 ต้นตำรับ คุณหมู พิมพร กับความตั้งใจส่งมอบความอร่อย สไตล์ภัตตาคารริมทาง

15 ปี ข้าวผัดปูเมืองทอง 1 ต้นตำรับ คุณหมู พิมพร กับ 3 บททดสอบครั้งใหญ่

กว่าจะสร้างชื่อเสียงกลายเป็นร้านข้าวผัดปูร้านโปรดของใครหลายๆ คน ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติใหญ่ถึง 3 ครั้ง โดยทายาทรุ่น 2 คุณปุ๋ม-ณัฐกานต์ วิศวจินดา เล่าว่า “กว่าจะมีวันนี้ได้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมาเยอะมาก ทั้งปัญหาเล็กน้อยในเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบ หรือการเทรนพนักงาน รวมถึงวิกฤติใหญ่ที่ส่งผลต่อยอดขายจนทำให้รู้สึกท้อแต่ไม่ถอย เพราะเชื่อว่าปัญหาคือ บททดสอบให้เราเติบโตอย่างมั่นคง”

เริ่มวิกฤติแรกเลยเมื่อปี พ.ศ. 2554 น้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่ ตอนนั้นยังมีแค่สาขาเดียวคือ สาขาเกษตร-นวมินทร์ สุคนธสวัสดิ์ ซึ่งบริเวณนี้น้ำไม่ท่วม ลูกค้ายังมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง แต่เราไม่มีของจะขาย เพราะปัญหาวัตถุดิบขาดตลาด ตอนนั้นแก้ไขตามสถานการณ์ เมื่อเจ้าประจำไม่สามารถส่งของให้ได้ก็ต้องวิ่งหาเจ้าใหม่ที่สามารถส่งวัตถุดิบในคุณภาพที่พรีเมียม หรืออย่างน้องต้องใกล้เคียงมากที่สุด

ถัดมา ปี พ.ศ. 2561 รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวอ่อน (สายสุขุมวิท) เริ่มสร้าง ซึ่งตอนนั้นเปิดสาขา 2 คือ สาขาพหลโยธิน ช่วงเวลานั้นถนนเส้นนั้นแทบจะไม่มีรถวิ่งเลย เรียกว่าเงียบมากๆ ขายของไม่ได้ ยอดขายตกลง 50% เผชิญกับปัญหานี้มา 1 ปี เราก็มาคิดว่า “ถ้าลูกค้ามาหาเราไม่ได้ เราก็ต้องไปหาลูกค้าเอง” ตอนนั้น Line man, Grab food ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าปัจจุบัน ประกอบกับเห็นว่า KFC มีเดลิเวอรี จึงแก้ปัญหาด้วยเพิ่มบริการเดลิเวอรี แจกใบปลิวตามคอนโด หมู่บ้านบริเวณนั้น จัดโปรโมชั่นส่งฟรี ได้เสียงตอบรับจากลูกค้าดีมากๆ และพอสาขาพหลโยธินเจ้าของที่ไม่ต่อสัญญาก็ย้ายมาอยู่เมเจอร์รัชโยธิน ลูกค้าก็ยังคงเหนียวแน่นเหมือนเดิม

อีกหนึ่งอุปสรรคที่ตามติดมา คือ โควิด-19 วิกฤติครั้งใหญ่กับปัญหา “นั่งทานในร้านไม่ได้” ทำให้ยอดตก 30% ทายาทรุ่น 2 คุณปุ๋ม-ณัฐกานต์ จึงหาทางออกด้วยการเพิ่มบริการ Drive thru เสิร์ฟอาหารแบบห่อกลับบ้านแบบที่ลูกค้าไม่ต้องลงจากรถ จึงทำให้ปัจจุบันที่ร้านมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าครบทุกมิติ ทั้งนั่งทานในร้าน  เดลิเวอรี และ ไดร์ฟทรู