“ความอร่อยของข้าวขาหมู อาจารย์อดุลย์โรจน์ ก็คือ น้ำซุปจะต้องเคี่ยวจนได้กลิ่นหอมกรุ่นของเครื่องเทศนานาชนิด เจือด้วยรสหวานของโอวัลติน โดยปราศจากผงชูรส พร้อมขับรสอร่อยของเนื้อหมูออกมาให้ได้อย่างครบถ้วน เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วนักปรุงหลายคนตกม้าตายกับเรื่อง “น้ำซุป” นี้มานักต่อนักแล้ว…”
“สูตรอาหารจะให้กำหนดอัตราส่วนตายตัวไม่ได้หรอก เพราะต้องปรับรสชาติตามความชอบของผู้ทาน และปริมาณของอาหารที่ทำว่ามากน้อยแค่ไหน”
คือ หัวใจของเสน่ห์ปลายจวักของพ่อครัวแม่ครัวไทยนับแต่อดีต ที่สามารถเรียกลูกค้าให้กลับมาใช้บริการครั้งแล้วครั้งเล่า และเป็นสูตรลับเฉพาะตัวที่ผ่านการสั่งสมประสบการณ์ ค่อยๆ ปรุง ค่อยๆ ทดลอง กระทั่งได้สูตรความอร่อยที่ลงตัว เพราะการปรุงอาหารก็คือวิทยาศาสตร์ ทุกกระบวนการความอร่อยล้วนมีเหตุมีผล เช่นเดียวกับ “ขาหมูสูตรโอวัลติน” ของ อาจารย์อดุลย์โรจน์ อังสนันท์สุข ที่ไม่ได้ใส่โอวัลตินเพื่อความเท่อย่างเดียว แต่โอวัลตินยังเป็นหนึ่งในเคล็ดลับความอร่อยที่ช่วยเพิ่มรสชาติของน้ำแกงให้หอม ออกหวานนิดๆ
สำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตร์บัณฑิต เอกชีววิทยา จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง แม้จะไม่ได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาโดยตรงกับธุรกิจการค้าขายอาหารที่ทำมาร่วม 30 ปี แต่ก็ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ดูแลต้นไม้ ดูแลอาหารการกินของคนของสัตว์ รวมทั้งทำให้รู้จักดูแลร่างกายตนเอง
“ผมเองมีคนชวนไปอยู่กองพิสูจน์หลักฐานเหมือนกัน แต่พ่อบอกว่า อย่าเลย เงินเดือน 2,000 บาท ขายของดีกว่า” อาจารย์อดุลย์โรจน์ ระบายรอยยิ้มน้อยๆ ขณะเล่าถึงชีวิตเมื่อตอนเริ่มตัดสินใจเลือกวิชาชีพ
เมื่อก่อนพ่อเซ้งตึกแถว 21 ปี แถวประดิพัทธ์แบ่งเป็นห้องๆ ให้เช่าขายอาหาร ตัวผมเองช่วยพ่อขายเครื่องดื่ม ขายกาแฟโบราณ ระหว่างนั้นก็คอยดูๆ ว่าคนอื่นค้าขายกันอย่างไร ในใจคิดว่าน่าจะได้ลองขายอาหารดูบ้าง
หลังจากสำเร็จการศึกษา เป็นเซลส์แมนขายเครื่องครัว ก่อนจะเปิดทำธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายร่วมกับคู่ชีวิต คุณนิภา อังสนันท์สุข ได้ระยะหนึ่ง มาตกลงใจเปลี่ยนอาชีพหันมาจับธุรกิจขายอาหารจริงจัง เพราะเราเองเป็นลูกคนโต น้องๆ อีก 6 คนก็ยังเรียนไม่จบ เห็นว่าขายอาหารได้เงินสด จึงปรึกษาภรรยาจับมือกันลุยเต็มที่กับการขายอาหาร
ใหม่ๆ หุงข้าวก็ดิบ ต้มไก่ก็ยังแดงๆ ทดลองด้วยตนเองอยู่ปีสองปีกระทั่งได้ออกมาเป็นสูตรความอร่อยที่ลงตัว
จากข้าวมันไก่ เริ่มเติมเมนูเป็นข้าวหมูแดงหมูกรอบ, ข้าวขาหมู, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น-หมูตุ๋น ฯลฯ จนมาทำอาหารตามสั่ง ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่ขายได้เพียง 5-6 ปี ตึกแถวที่เซ้งอยู่หมดสัญญา จึงย้ายไปอยู่ถนนปากทางเข้าเมืองทองธานี ในปี 2530 ขายได้ไม่นานก็ย้ายมาอยู่ถนนด้านในบริเวณปากซอยเยื้องสำนักงานที่ดิน จังหวัดนนทบุรี สาขาปากเกร็ด
ปรากฏว่า ข้าวมันไก่ที่ว่าขายดีตั้งแต่ตอนอยู่ประดิพัทธ์ พอมาขายที่เมืองทองธานี ยิ่งขายดีขึ้นไปอีก วันหนึ่งขายไก่เป็น 6-7 ตัว หุงข้าววันละ 4-5 กระสอบ ยิ่งเทศกาลตรุษจีน สารทจีน ต้มไก่ขายจนปวดหลัง มีรายได้เฉลี่ยวันละ 20,000 บาท
ที่เมืองทองธานีนี่เองที่ คุณประพันธ์ ผลเสวก เมื่อครั้งที่เป็นบรรณาธิการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หนึ่งในนิตยสารภายใต้ชายคา “มติชน” เป็นลูกค้าขาประจำ และทำหน้าที่แมวมองกิตติมศักดิ์แนะให้เชิญเข้ามาเป็นวิทยากรอบรมหลักสูตรการทำอาหารระยะสั้น ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน หรือ มติชนอคาเดมี
“สมัยก่อนไม่คิดว่าจะมีคนมาเรียนวิชาเหล่านี้ ผมเล่นตัวอยู่นาน มาตอนหลังเห็นว่า ลูกๆ ไม่เอา เกรงว่าความรู้จะหายหมดจึงตัดสินใจเลิกขายอาหาร แล้วมาสอนแทน”
อาจารย์อดุลย์โรจน์ สารภาพยิ้มๆ เพราะเมื่อตกลงใจเป็นวิทยากรสอนการทำอาหารแล้ว นั่นหมายความว่า สอนแบบไม่มีกั๊ก ไม่มีเก็บ เปิดใจเทสูตรลับให้หมดหน้าตัก ตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบ ไปจนถึงการถนอมอาหารในขั้นตอนสุดท้าย
“เคล็ดลับวิชาตอนนี้หวงไม่ได้แล้ว ปล่อยหมด เพราะถ้าให้เขารู้ให้หมด รู้ให้จริง แล้วยกเหตุการณ์ที่เราเจอมาเล่าให้ฟัง เมื่อเขาเจอปัญหา เขาจะได้แก้ไขได้ถูก รวมทั้งสอนการถนอมอาหารด้วย ถ้าขายไม่หมดต้องทำยังไง”
สำหรับท่านที่สนใจอยากจับจองคอร์สเรียน ขาหมูเมืองทอง สูตรใส่โอวัลติน อีกหนึ่งหลักสูตรที่มีความอร่อยระดับ 5 ดาว ที่การันตีความอร่อยมายาวนานกว่า 20 ปีของ อาจารย์อดุลย์โรจน์ อังสนันท์สุข พร้อมเปิดเผยสูตรเด็ด-เคล็ดลับกันแบบไม่มีกั๊ก ก็สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมมาได้ที่ ศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน (มติชน อคาเดมี) หรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทรศัพท์ (02) 954-3977-85 ต่อ 2123, 2124 , (082) 993-9097, (082) 993-9105 ,Inbox Facebook : Matichon Academy – มติชนอคาเดมี , line : @matichonacademy
ผู้เขียน : พนิดา สงวนเสรีวานิช
