หลังจากกระแสละครบุพเพสันนิวาสทำให้คนไทยทั่วทั้งประเทศมีความตื่นตัว สำนึกความเป็นไทย ติดใจการแต่งกายแบบย้อนยุค การแต่งกายของตัวละคร สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยหันมานิยมการแต่งกายชุดไทย กระทั่งกระทรวงวัฒนธรรมมีนโยบายให้ข้าราชการแต่งกายชุดไทยทุกวันศุกร์ สัปดาห์ละ 1 วัน ทำให้ชุดไทย มีไม่พอกับความต้องการของผู้บริโภค ล่าสุดพบว่า เสื้อผ้าชุดไทยเริ่มขาดตลาด ร้านตัดเย็บเสื้อผ้าชุดไทยต่างได้รับอานิสงส์ มีลูกค้าสั่งตัดเพิ่มขึ้น กระทั่งตัดไม่ทัน ในขณะที่ใกล้วันสงกรานต์ ออเดอร์ตัดชุดไทยยิ่งเพิ่มทวีคูณ ร้านตัดเสื้อชุดไทยต่างรับทรัพย์อื้อตามๆ กัน
เมื่อวันที่ 9 เมษายน น.ส.กาญจนา หรืออุ๋ม จันทร์สง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 14 บ้านหนองผูกเต่า ต.บ้านแก้ง อ.เมือง จ.สระแก้ว หนึ่งในช่างตัดเย็บเสื้อผ้าชุดไทย เปิดเผยว่า เรียนจบปริญญาตรี ด้านคหกรรมศาสตร์ แต่ชอบการตัดเย็บมากกว่าการทำอาหาร จึงได้ฝึกการตัดเย็บและเรียนเพิ่มเติมด้านการตัดเย็บจากช่างผู้ชำนาญการ และชื่นชอบการแต่งกายชุดไทยมาตั้งแต่เด็ก เมื่อมีบุตร 2 คน ก็ได้ตัดชุดไทยให้ลูกใส่เป็นประจำ
“ก่อนหน้านี้ได้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เงินเดือนหลายหมื่นบาท แต่ก็ไม่พอใช้ เนื่องจากสิ้นเดือนต้องกลับบ้านที่ จ.สระแก้ว เพื่อดูแลลูก 2 คน ที่ฝากให้แม่เลี้ยง การอยู่ห่างจากครอบครัว ถึงแม้จะได้เงินมาก แต่ก็รู้สึกขาดความอบอุ่นจากครอบครัว เมื่อปี 2558 จึงได้ลาออกจากงานประจำ กลับมาทำงานที่บ้านเกิด ทำสวนทำไร่ สืบทอดอาชีพของพ่อแม่ แต่สิ่งที่ชอบคือการเย็บผ้าเสื้อผ้า เมื่อกลับมาอยู่บ้าน จึงได้ยึดอาชีพตัดเย็บเป็นอาชีพหลัก แต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่เนื่องจากขาดเงินลงทุน จึงทำได้ในจำนวนจำกัด แต่ละวันจะตัดเสื้อผ้าที่เป็นชุดไทย จำนวน 10 ตัว จากนั้นจะมีแม่ค้ามารับไปขาย โดยขายส่งในราคาตัวละ 100-180 บาท แต่เมื่อมีกระแสละครบุพเพสันนิวาสเข้ามา ทำให้มีลูกค้าเข้ามาสั่งจำนวนมาก มีทั้งกลุ่มเจ้าหน้าที่ สำนักงาน สมาชิก อบต. ได้นำผ้ามาให้ตัดจำนวนมาก และขณะนี้ใกล้กับวันสงกรานต์แล้ว ก็ยิ่งมีหน่วยงานต่างๆ มาสั่งตัดเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ระยะนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 1,000-1,800 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือวันละ 500-800 บาทเศษ” น.ส.กาญจนา กล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์