ครบรอบ 80 ปี คณะบัญชี จุฬาฯ จัดปาฐกถา ชี้บทบาท Business School ไทย ต้องสร้างนิสิตนักศึกษาตอบโจทย์โลกธุรกิจในบริบท VUCAS
ในโอกาสครบรอบ 80 ปีของการสถาปนาคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ปฏิวัติธุรกิจ ปฏิรูปการศึกษา Business Transformation through Flagship Education” โดย ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ศาสตราภิชานกองทุนเพื่อการบริหารวิชาการและการศึกษาของคณะฯ และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ และกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา กล่าวว่าบริบทของโลกธุรกิจยุคใหม่มีลักษณะที่เรียกว่า VUCAS กล่าวคือมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาจนยากจะคาดเดาเพื่อเตรียมการณ์รับมือ อีกทั้งยังมีความซับซ้อนจนยากที่จะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์สำคัญที่ผลักดันให้ Business School ต้องปรับหลักสูตรในการผลิตนิสิตนักศึกษาให้ออกไปเป็นผู้นำในการนำพาองค์กรก้าวผ่านช่วงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้
ทั้งนี้ VUCAS เป็นการสะท้อนบริบทโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปใน 5 มิติที่สำคัญคือ
ความผันผวน (Volatile) ที่เกิดจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในอัตราเร่งตัว
ความไม่แน่นอน (Uncertain) ปรากฎการณ์จากความผันผวนทำให้หลายเรื่องไม่เป็นไปตามที่คาด เช่น สหรัฐอเมริกา ผู้นำการค้าเสรี แต่กลับมาดำเนินนโยบายกีดกันการค้าเสียเอง หรือแม้แต่รถยนต์ไร้คนขับของ Tesla เกิดอุบัติเหตุในหลายพื้นที่จนเป็นผลให้ราคาหุ้นตกลงอย่างรุนแรง
ความซับซ้อน (Complex) ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้เกิดความซับซ้อน และมีปัจจัยแวดล้อมที่ต้องคำนึงถึงมากกว่าเดิม เช่น การเกิดขึ้นของ Cryptocurrencies หรือ Blockchain ซึ่งผู้กำกับดูแลต้องชั่งน้ำหนักหลายอย่างในการเขียนกฎให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งต้องแยกระหว่างเทคโนโลยีกับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น
ความยากที่จะคาดเดา (Ambiguous) ในโลกที่มีความซับซ้อน ผันผวน และไม่แน่นอนนี้ทำให้การคาดเดาเพื่อเตรียมการณ์ที่เหมาะสมทำได้ยาก สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดคือการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เช่น ธุรกิจค้าปลีกที่ต้องบาลานซ์ระหว่าง online และ offline ในวันที่ยังไม่รู้ว่าทิศทางการปรับตัวของธุรกิจจะไปในทิศทางใดกันแน่
มาตรฐาน (Standard) ธุรกิจกำลังเผชิญกับการกำกับดูแลด้านธรรมาภิบาล สิ่งแวดล้อม การคุ้มครองผู้บริโภค การแข่งขันที่เป็นธรรม รวมถึงการดูแลสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์เข้มข้นขึ้น และมีการแสดงออกถึงจุดยืนในเรื่องเหล่านี้ในทุกระดับ
“ในโลกของ VUCAS ทำให้โจทย์ของ Business School เปลี่ยนไปตามความคาดหวังของภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของโลก นิสิตนักศึกษาที่จะมาเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันองค์กรให้ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลานี้ไปได้จะต้องมีลักษณะของความเป็นผู้นำ ซึ่งไม่ใช่การมาเป็นซีอีโอของบริษัท แต่หมายถึงการมีมุมมองความคิดที่จะนำพาองค์กรไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนได้ ซึ่งลักษณะที่สำคัญของคนที่มีความคิดเป็นผู้นำคือ การดึงความสามารถของผู้ที่เกี่ยวข้องมาตอบโจทย์ที่ซับซ้อน มีกรอบความคิดที่ยืดหยุ่น และพร้อมยอมรับข้อแตกต่าง”
จากผลการสำรวจความเห็นผู้บริหารของบริษัทชั้นนำมากกว่า 70 แห่งทั่วโลก พบว่าส่วนใหญ่มองว่าหลักสูตร Business School ที่สอดคล้องกับบริบทโลก VUCAS ต้องให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติงานบนภาคสนามจริงมากขึ้น และเห็นผลในสิ่งที่ลงมือทำ ขณะที่อาจารย์ต้องมีประสบการณ์หรือรู้จักโลกธุรกิจจริง และประยุกต์เข้าสู่บทเรียนได้
“วิธีออกแบบหลักสูตรมีหลายวิธี แต่วิธีที่ผมคิดว่าน่าสนใจคือ การให้นิสิตนักศึกษาได้ทำงานจริงกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกลุ่มต่างๆ ทั้งชุมชน เอ็นจีโอ ภาคธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ สลับกับการเรียนรู้ในห้องเรียน ซึ่งมีทั้งเทคนิค และซอฟท์สกิล เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้เห็นโลกในหลายมิติ ก่อนเลือกทำโครงการที่สร้างคุณค่า หรือแก้ปัญหาให้บ้านเมืองจริงอย่างน้อย 1 โครงการ” ดร.ประสารกล่าวในตอนท้าย