เปิด 10 เพชรที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก และ “แหวนเพชร”ใช้สวมงานหมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

Lifestyle ไลฟ์สไตล์

ความนิยมเพชรในประเทศไทย

เพชรเป็นยอดอัญมณีล้ำค่า ให้คุณค่าทั้งในด้านความสวยงามและความเชื่อในเรื่องสิริมงคล สำหรับชาวไทยนิยมนำเพชรมาเป็นเครื่องประดับตั้งแต่ยุครัตนโกสินทร์ และจำกัดอยู่ในกลุ่มบุคคลชั้นสูง เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ

ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ส่งพระราชสมบัติ (การเวก รัตนกุล) ไปซื้อเพชรพลอยที่กัลกัตตา ประเทศอินเดีย ในพ.ศ.2402

AFP PHOTO / CHRIS J RATCLIFFE

พระราชสมบัติได้ซื้อเพชรเม็ดใหญ่น้ำงามกลับมาเป็นผลสำเร็จ เพชรเม็ดนี้ได้รับพระราชทานชื่อว่า “พระมหาวิเชียรมณี”

ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นิยมเพชร พลอยต่างๆ และไข่มุกเป็นอย่างยิ่ง สามารถนำมาตกแต่งกับเสื้อผ้าแบบไทยและแบบไทยประยุกต์ได้อย่างงดงามอลังการ

ต่อมาความนิยมเพชรได้แพร่สู่ผู้คนหลากหลายที่ร่ำรวยเงินทอง ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มบุคคลเช่นในเดีต

ผู้ที่เริ่มต้นใช้แหวนเพชรเป็นแหวนหมั้นคนแรก คือ แม็กซิมิเลียน ดยุคแห่งออสเตรีย คู่หมั้นของแมรีแห่งเบอร์กันดี หมั้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ.1477 โดยสวมให้ที่นิ้วนางข้างซ้าย กลายเป็นธรรมเนียมนิยมที่มีผู้ปฏิบัติตามตราบจนกระทั่งทุกวันนี้

AFP PHOTO / Daniel LEAL-OLIVAS

ต่อมา แอ็กเนส โชเวล ได้สวมใส่เครื่องประดับเพชรไปในงานของราชสำนักฝรั่งเศสเป็นคนแรก ประกายระยิบระยับของเพชรยามเมื่อต้องแสงไฟอันพร่างพรายส่งผลให้เพชรได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุโรปเวลาต่อมา

เพชรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นทรัพย์สินแสนสวย เป็นเครื่องประดับล้ำค่า

กำเนิดของเพชร

เพชรถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย เมื่อประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว เพชรโบราณที่มีชื่อเสียงเกือบทั้งหมดของโลกต่างถูกค้นพบที่เหมืองในอินเดีย

เพชร เป็นแร่รัตนชาติสูงค่า กำเนิดจากธาตุคาร์บอนที่ตกผลึกอยู่ภายใต้ความดันและอุณหภูมิที่สูงมาก ภายใต้พื้นผิวโลกที่ลึกและนานมาก

AFP PHOTO / JACK GUEZ

เมื่อภูเขาไฟระเบิด ผลึกเพชรจะปะทุขึ้นมาบนผิวโลกพร้อมกับหินภูเขาไฟ ซึ่งมีชื่อว่าคิมเบอร์ไลต์ และแลมโพรไอต์

ผลึกเพชรที่ปะทุขึ้นมาบางส่วนยังตกค้างอยู่ในปล่องภูเขาไฟ จึงต้องมีการทำเหมืองที่ปากปล่องภูเขาไฟ หรือด้วยการทำเหมืองใต้ดิน (เหมืองแบบปล่อง)

ส่วนผลึกเพชรที่ถูกพ่นออกมาจากปล่องภูเขาไฟ เมื่อถูกความร้อน แรงลม แรงฝนเป็นเวลานานๆ ผลึกเพชรก็จะหลุดจากหินภูเขาไฟ และถูกพัดพาสู่ลานแร่หรือแหล่งน้ำต่างๆ การนำผลึกเพชรขึ้นมาจากแหล่งต่างๆนี้จะใช้วิธีทำเหมืองร่อน

เพชรที่ได้จากการขุดหรือทำเหมืองแบบต่างๆนั้นมีคุณภาพแตกต่างกันมาก ดังนี้

เพชรที่ขุดได้ 100%
20% มีคุณภาพดี นำไปทำเครื่องประดับได้
80% ด้อยคุณภาพ ต้องนำไปใช้ในกิจการอุตสาหกรรมต่างๆ เนื้อเพชรมักมีตำหนิแตกร้าวมากหรือมีเนื้อทึบไม่ใส่ ซึ่งเรียกว่า บอร์ต ไดมอนต์

เพชรที่ขุดได้มีหลากหลายสีสัน ได้แก่ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีชมพู สีฟ้า สีอ่อนๆ หลากหลาย สีน้ำตาล สีดำ สีขาวนวล และไร้สี

AFP PHOTO / JACK GUEZ

เพชรสีที่มีสีสันเข้มสดใส หาได้ยากมาก และมีราคาสูงมาก ส่วนที่มีสีสันอ่อนๆ มีราคาสูงลดหลั่นกันลงมา ยกเว้นสีชมพู ซึ่งแม้จะมีสีอ่อนๆ ก็ยังแพงลิบลิ่ว เพราะเป็นที่ปรารถนาของนักเล่นอัญมณีมากไม่แพ้สีเข้มสดใสอื่นๆ

ในกลุ่มเพชรสีขาว เพชรที่ไร้สี (คล้ายน้ำเปล่าหรือหยดน้ำค้าง) มีราคาสูงที่สุด รองลงไปได้แก่สีขาวนวล และสีแกมเหลืองจางๆ ถ้าสีเหลืองเข้มสดใสมาก ราคาจะไม่แพงไม่แพ้พวกไร้สีเช่นกัน

เพชรสีดำหรือคาโบนาโด (Cabonado) มีราคาถูกที่สุด เพราะธรรมชาติสร้างมาให้มีเนื้อทึบตัน มีความแข็งสูงมาก บึกบึนเหมาะกับการขุดเจาะ ตัดแต่ง และเจียระไนเพชรด้ยกัน หรือใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ แต่ด้วยผิวที่มีความวาวปลาบแบบเพชร สะท้อนแสงได้แรงกล้ากว่าอัญมณีสีดำชนิดอื่นๆ เพชรสีดำจึงมีโอกาสเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ด้วย

เพชรที่มีชื่อเสียงของโลก

1.เพชรกาญจนภิเษก (Golden Jubilee)

พบที่เหมืองพรีเมียร์ น้ำหนักก่อนเจียระไน 755.50 กะรัต มีสีทองแกมน้ำตาล หลังการเจียระไนเหลือน้ำหนัก 545.67 กะรัต มีรูปทรงสี่เหลี่ยมมุมบน

2.เพชรคัลลิแนน (Cullinan)

พบที่เหมืองพรีเมียร์ ในแอฟริกาใต้ น้ำหนักก่อนเจียระไน 3,106 กะรัต มีสีขาวใส ต่อมาได้รับการตัดแบ่งออกเป็น 9 เม็ด มีน้ำหนัก ขนาด และรูปทรงแตกต่างกันไป เรียกกันว่าเพชรคัลลิแนน 1-9

เพชรคัลลิแนนที่ 1 เหรือดาวดวงที่หนึ่งแห่งแอฟริกา (The First Star Of Africa) หนัก 530.20 กะรัด รูปทรงหยดน้ำ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งอังกฤษ ทรงโปรดให้นำเพชรเม็ดนี้มาประดับบนคทาหลวงแห่งเซเวอเรน

เพชรคัลลิแนนที่ 2 หรือ ดาวดวงที่สองแห่งแอฟริกา (The Second Star Of Africa) หนัก 317.40 กะรัต รูปทรงสี่เหลี่ยมมุมมน ประดับบนมงกุฎอิมพีเรียลสเทต (The Imperial State Crown)

AFP PHOTO / JACK GUEZ

3.เพชรเซ็นเท็นนารี (Centenary)

พบที่เหมืองพรีเมียร์ น้ำหนักก่อนเจียระไน 599.10 กะรัต มีสีขาวใสบริสุทธิ์ (ไร้สี) หลังการเจียระไนเหลือน้ำหนัก 273.85 กะรัต รูปร่างคล้ายสามเหลี่ยม (แฟนซี)

4.เพชรออร์ลอฟ (Orlov)

เชื่อกันว่าเพชรเม็ดนี้เคยฝังไว้ในดวงตาข้างหนึ่งของพระวิษณุปางไสยาสน์ในวัดฮินดู ประเทศอินเดีย เพชรออร์ลอฟมีสีขาวใส งดงาม หนัก 194.75 กะรัต มีรูปร่างคล้ายครึ่งวงกลม (แฟนซี) ประดับอยู่บนคทาของจักรพรรดินีแคเทอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย

5.เพชรรีเจนต์ (Regent)

พบที่เหมืองพาร์คาล ประเทศอินเดีย น้ำหนักก่อนเจียระไน ประมาณ 410 กะรัต มีสีขาวใสบริสุทธิ์ หลังการเจียระไนเหลือน้ำหนัก 140.50 กะรัต มีรูปทรงสี่เหลี่ยมมุมมน เพชรเม็ดนี้เคยประดับอยู่บนมงกุฎของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เคยประดับอยู่บนเทียร่าของพระราชินีมารีเลสซ์ซินสกา เคยประดับบนพระมาลาของพระนางมารี อองตัวแนต และท้ายที่สุดนโปเลียน โบนาปาร์ต ได้ให้นำเพชรเม็ดนี้ไปประดับไว้ที่ด้ามดาบของพระองค์

AFP PHOTO / JACK GUEZ

6.เพชรทิฟฟานี (Tiffany)

พบที่เหมืองคิมเบอร์ลีย์ (Kimberley) ในแอฟริกาใต้ ก่อนเจียระไนหนัก 287.42 กะรัต มีสีเหลืองทองสดใส หลังการเจียระไนหนัก 128.5 กะรัต รูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมมุมมน

7.เพชรโคอินัวร์ (Kohinoor)

หรือภูเขาแห่งแสงสว่าง พบที่บริเวณริมแม่น้ำโกทาวารีทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย มีสีขาวใสงดงาม น้ำหนัก 108.93 กะรัต พระราชินีนาถวิกตอเรียโปรดให้ฝังเพชรเม็ดนี้ไว้บนเข็มกลัดชิ้นงาม และทำพินัยกรรมมอบเพชรเม็ดนี้ให้แก่กษัตริย์ที่เป็นสตรีเท่านั้น ต่อมาเพชรเม็ดนี้ได้ถูกนำไปประดับอยู่บนด้านหน้าของมงกุฎ ที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธ

8.เพชรกงเด (Gonde)

เพชรเม็ดนี้เคยเป็นของพระเจ้าหลุยส์อดีตเจ้าชายแห่งกงเด และในที่สุดได้ตกเป็นสมบัติของดยุคแห่งโอมาล เพชรกงเดมีสีชมพูหวานใส งดงามมาก ได้รับการเจียระไนเป็นรูปทรงหยุดน้ำ หนัก 90.10 กะรัต ต่อมาท่านดยุคได้มอบเพชรเม็ดนี้ให้เป็นสมบัติของสถาบันแห่งฝรั่งเศส

AFP PHOTO / Tolga Akmen

9.เพชรโฮป (Hope)

เพชรที่มีชื่อเสียงโด่งดังเม็ดนี้พบที่เหมืองเพชรในกอลคอนดา ประเทศอินเดีย ก่อนเจียระไนหนัก 112 กะรัต มีสีน้ำเงินเข้มสด หลังการเจียระไนมีรูปทรงคล้ายรูปไข่ หนัก 44.50 กะรัต

เพชร์โฮปมีชื่อเสียงทางด้านให้โชคร้ายแก่ผู้ครอบครองเกือบทุกคน เดิมเป็นของชอง-แบปติส ทาแวร์นิเย และได้เปลี่ยนเจ้าของหลายครั้งคราว จนกระทั่งตกเป็นสมบัติของเอ็ดนา วินสัตน ซึ่งได้บริจาคเพชรเม็ดนี้ให้แก่สถาบันสมิทโซเนียน กรุงวอชิงตัน นับแต่นั้นมาอาถรรพณ์ร้ายได้เงียบหายไป เหลือไว้แต่ประกายสีน้ำเงินโดดเด่น ที่ดึงดูดผู้คนทั่วโลกให้ได้มายล

10.เพชรเดรสเดน (Dresden)

พบที่เหมืองเพชรในกอลคอนดา มีสีเขียวอ่อนใสสวยงามมาก หลังการเจียระไนแล้วหนัก 40.70 กะรัต รูปทรงคล้ายหยดน้ำ ปัจจุบันเพชรเดรสเดนได้อวดโฉมในพิพิธภัณฑ์อัลเบอร์ทีเนียม เดรสเดน ประเทศเยอรมนี

เพชรที่มีชื่อเสียงของโลกยังมีอีกมากมาย แต่ละเม็ดล้วนงดงามมีคุณภาพดี และมีขนาดใหญ่เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งเรื่องราวอันน่าทึ่งที่เดินทางผ่านวันเวลามากับประกายความงามของเพชร

ถามว่าเพชรคุณภาพดีดูอย่างไร

เบื้องต้นให้ใช้หลัก 4 C ในการเลือกซื้อ คือ

1.Colour สี
เพชรสวยที่สุดต้องไร้สี (Colourless) ซึ่งก็จะมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ไร้สีระดับ 100% 99% 98% และระดับเกือบไร้สี ตั้งแต่ 97-94% ลงมา ตามมาด้วย แบบเหลืองจาง เหลืองอ่อนมาก เหลืองอ่อน

การประเมินสีเพชรต้องทำโดยนักอัญมณีหรือผู้เชี่ยวชาญ ผู้ซื้อนิยม

AFP PHOTO / JACK GUEZ

2.Clarity ความสะอาด
ควรมีเนื้อใสสะอาด ไม่มีตำหนิให้เห็นด้วยกล้องขยายขนาด 10 เท่า ซึ่งระดับความสะอาดและรอยตำหนิก็จะแบ่งระดับ ตั้งแต่ปราศจากตำหนิ มีเพียงตำหนิเล็กน้อยบนผิวภายนอกเท่านั้น กระทั่งถึงมีตำหนิน้อยมาก และการมีตำหนิที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งมีผลต่อความงามและความแข็งแรงของเพชร และจะส่งผลต่อราคาที่แตกต่างกันทุกระดับ

3.Cutting การเจียระไน
เพชรที่จะสะท้อนแสงได้ดีต้องมีการเจียระไน ประณีต และได้สัดส่วนทุกเหลี่ยมทุกมุม มีความหนาของหน้าเพชรและมีความลึกของก้นเพชรได้สัดส่วน

เพชรทรงกลมเจียระไนเหลี่ยมประกาย (เหลี่ยมเกสร)
มีเหลี่ยมหน้า (Crown) 33 เหลี่ยม (Facets)
มีเหลี่ยมก้น (Pavillion) 24 เหลี่ยม
เพชรจึงมีเหลี่ยมทั้งหมด 57 เหลี่ยม เป็นเกณฑ์มาตรฐาน
เพชรที่มีก้นบางเกินไป หรือหนาเกินไปจะสะท้อนแสงได้ไม่ดี

4.Carat น้ำหนักกะรัต
น้ำหนักของเพชรวัดเป็นกะรัต ยิ่งมีน้ำหนักมาก ขนาดเพชรก็ใหญ่มากขึ้นตามลำดับ

เพชรเลียนแบบ คืออะไร?

คือเพชรสังเคราะห์ที่มีขายในตลาดอัญมณีอย่างแพร่หลาย ได้แก่
เพชรโมอีส (Synthetic Moissanite) เหมือนเพชรมากที่สุด
เพชรรัสเซีย (Synthetic Cubic Zirconia) หมือนเพชรมาก

นอกจากนี้ยังมีพลอยสังเคราะห์สีขาวใสอื่นๆอีก แต่ความเหมือนเพชรนั้น เทียบกับเพชรโมอีสและเพชรรัสเซียไม่ได้

การดูแลรักษา

1.เพชรอาจบิ่นหรือแตกร้าวได้ไม่ยาก ถ้าหล่นหรือกระทบกระแทกของแข็งแรงๆ
2.อย่าเก็บเพชรร่วง (ยังไม่ได้ขึ้นตัวเรือน) ไว้ปนกัน เหลี่ยมอาจขูดกันเองทำให้เกิดริ้วรอยได้
3.เพชรดูดน้ำมันหรือครีมต่างๆได้ดี จึงควรหลีกเลี่ยง
4.หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยการต้มจนเดือด เพราะเพชรอาจร้าวมากยิ่งขึ้น
5.ใช้น้ำยาล้างจานชนิดเหลวใส หรือน้ำยาล้างเพชรพลอยให้ดูสวยสะอาดและเปล่งประกายได้เต็มที่เสมอ

สิริมงคล เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ครอบครองเพชรจะมีอำนาจเหนือผู้อ่าน ร่ำรวย และมีชัยชนะแก่ศัตรูทั้งปวง

เพชรถูกโฉลกกับผู้ที่เกิดวันศุกร์ หรือเดือนเมษายน หรือปีมะเส็ง


ข้อมูล หนังสือเพชรพลอย อัญมณีแห่งความงาม โดยมณิขจิต สนพ.มติชน