โดย สกุณา ประยูรศุข
นักเดินทางและนักท่องเที่ยวทั้งหลายนั้น สิ่งที่พวกเขาต้องการ คือการค้นพบสถานที่แห่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่นเดียวกับบริษัทเอื้องหลวง สังกัดการบินไทย สายการบินแห่งชาติ ก็ต้องการค้นหาสถานที่ใหม่ๆ เปิดเส้นทางบินเพื่อการพาณิชย์ จึงเป็นโอกาสให้ได้ติดสอยห้อยตามไปดู ว่าแหล่งเที่ยวใหม่ๆ ที่เขาไปสำรวจนั้นเป็นที่ไหน น่าสนใจเพียงใด ซึ่งอันนี้เรียกว่าวิน-วิน กันทั้งสองฝ่าย คือเขาได้ประโยชน์และเราก็ประหยัด
ที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้มีแต่หมู่บ้านชาวนาโบราณอย่าง “มิยาม่า” ที่กำลังเป็นเมืองดาวรุ่งพุ่งแรง ยังมีเมืองอื่นๆ ที่ซ่อนตัวในหลืบเขาและแผ่นเมฆที่ปกคลุมเหมือนเจ้าหญิงนิทรา รอวันให้ใครมาจุมพิต จะได้เปิดเปลือกตารับการโปรโมตอย่างต่อเนื่องให้เป็น “Unseen” แห่งใหม่ในเจแปน ซึ่งครั้งนี้เรามุ่งขึ้นไปทางเหนือเมืองเกียวโต จุดหมายปลายทางอยู่ที่ “อ่าวอิเนะ” หมู่บ้านชาวประมงโบราณ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สำคัญสำหรับสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น
หมู่บ้านอิเนะอยู่ทางเหนือของจังหวัดเกียวโต ห่างจากเกียวโตประมาณ 1 ชั่วโมงรสบัสหรือรถโดยสารวิ่ง ที่ต้องบอกกันอย่างนี้เพราะว่าคนญี่ปุ่นนั้นเขาไม่นับระยะการเดินทางเป็นกิโลเมตรเหมือนเมืองไทย แต่นับเป็นเวลา เช่นกี่นาที กี่ชั่วโมง ยกตัวอย่าง เมืองโอซาก้าอยู่ห่างจากเมืองเกียวโตประมาณ 90 นาทีรถวิ่ง อย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นหากไปสอบถามระยะทางจากคนญี่ปุ่นก็ต้องทำความเข้าใจไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นอาจเกิดการเข้าใจผิดกันได้
คนญี่ปุ่นมักเป็นอย่างนี้ เขามักจะกำหนดอะไรต่างๆ ของเขาขึ้นมาใช้เอง ไม่เอาอย่างชาวโลก ที่เห็นชัดๆ และเคยกล่าวไปแล้ว คือการเรียกปี ค.ศ. ที่ใช้การนับจากปีขึ้นครองราชย์ขององค์จักรพรรดิ หรือ มาตราวัดการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ก็ใช้เป็น “ชินโดะ” ขณะที่ชาวโลกเขาใช้เป็น “ริกเตอร์” และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าใครอยากรู้เห็นทีต้องย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ญี่ปุ่น หรือหาแฟนคนญี่ปุ่นกันเอาเอง
หมู่บ้านอิเนะมีความสวยสดงดงาม เงียบสงบ และโดดเด่นจนเป็นที่กล่าวขานในเรื่องสถาปัตยกรรมบ้านโบราณดั้งเดิมของชาวประมง ข้อมูลที่ได้รับจากสำนักงานประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านอิเนะ บอกว่า ที่เมืองอิเนะเป็นแหล่งปลูกข้าวแห่งแรกที่นำมาจากจีน จึงเป็นเมืองมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่โบราณ ในเมืองมีโบราณสถาน อาราม ศาลเจ้าอยู่จำนวนมาก ถือเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านเรือนที่ตั้งเรียงแถวอยู่ริมทะเลติดต่อกันยาวเหยียดถึง 5 กิโลเมตร เป็นบ้านที่สร้างขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกขานย่านบ้านริมทะเลนั้นว่า “อิเนะโนะฟุนะยะ”
ก่อนจะเข้าไปที่หมู่บ้านชาวประมงอิเนะโนะฟุนะยะ ต้องผ่านจุดชมวิวบนยอดเขาสูง ทำให้สามารถมองไปเห็นหมู่บ้านทั้งกลุ่ม ดูแล้วเหมือนกับว่าหมู่บ้านเหล่านั้นลอยอยู่บนผิวน้ำทะเลสีเขียวมรกต เป็นวิวที่สวยงามจริงๆ จากแรกเริ่มที่มีการก่อตั้งเป็นหมู่บ้านชาวประมงราว ค.ศ.1880 มาจนถึงปัจจุบัน อิเนะโนะฟุนะยะ มีอายุ 138 ปีแล้ว ที่แห่งนี้มีบ้านชาวประมงตั้งอยู่ริมทะเล 230 หลังคาเรือน แบบบ้านที่อยู่อาศัยได้รับการอนุรักษ์ เรียกบ้านแบบนี้ว่า “บ้านสไตล์ฟุนะยะ” เมื่อรวมเข้ากับชื่ออ่าวอิเนะ จึงเป็น “อิเนะโนะฟุนายะ”
ความพิเศษของบ้านคือใต้ถุนเปิดโล่ง สามารถนำเรือวิ่งเข้าไปจอดในบ้านได้เลย และถ้าอยากจะออกทะเล เรือที่จอดอยู่ที่ใต้ถุนบ้านชั้นหนึ่งก็สามารถขับออกจากตัวบ้านได้ทันทีเช่นกัน ส่วนชั้นบนของบ้านจะเป็นห้องพักอยู่อาศัยของแต่ละบ้าน บางหลังชั้นล่างนอกจากใช้จอดเรือแล้วยังเป็นอู่ซ่อมเรือไปในตัว บ้านเหล่านี้สามารถใช้ไป-มาได้ทั้งสองทาง คือทางทะเลและทางถนน ซึ่งถ้ามาทางถนนทั้งสองฝั่งถนนก็ดูเหมือนบ้านปกติทั่วไป กล่าวคือเป็นบ้านตั้งอยู่ริมถนนแล้วมีประตูเข้า-ออกบ้าน แต่ถ้าเป็นด้านริมทะเลก็จะเข้าบ้านโดยการนั่งเรือ
อ่าวอิเนะและหมู่บ้านชาวประมงอิเนะโนะฟุนะยะ ยังเป็นแหล่งทำปลาตากแห้งที่มีชื่อ และเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวล่องเรือชมรอบๆ หมู่บ้าน การนั่งเรือเที่ยวชมอ่าวอิเนะจะเป็นการพานักท่องเที่ยวล่องไปตามริมทะเลวนรอบอ่าว ซึ่งรายล้อมด้วยบ้านแบบฟุนะยะ ใช้เวลา 30 นาทีก็จบ นักท่องเที่ยวจะได้ชมภูมิทัศน์ของหมู่บ้าน ดูวิถีชีวิตที่แปลกตาแตกต่างจากมองมาจากบนถนน ที่สนุกสนานก็คือสามารถให้อาหารฝูงนกนางนวลที่บินแวะเวียนมาที่เรือ จิกกินข้าวเกรียบกุ้งที่ต้องซื้อติดมือมาจากร้านค้าบริเวณท่าเรือ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นข้าวเกรียบกุ้งให้คนกิน แต่ที่จริงเขาใช้เป็นอาหารเลี้ยงนกทะเลพวกนี้
เรือท่องเที่ยวชมอ่าวอิเนะเปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. มีเรือสองแบบให้เลือก คือเรือแท็กซี่ และเรือ Sightseeing นั่งล่องไปเรื่อยๆ ชมทัศนียภาพของหมู่บ้าน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมตกปลาสำหรับคนที่ชอบความสงบ ปลาที่ตกได้นำไปทำอาหารได้อีกด้วย มีร้านอาหารที่มีเมนูปลาสดๆ จากทะเลอ่าวอิเนะ เสิร์ฟบริการลูกค้าตามฤดูกาลที่จับได้ ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือประมง ปลาที่มีชื่อและเป็นอาหารจานอร่อยของที่นี่ คือ ปลาบุรี และหอยนางรมตัวใหญ่ เรายังสามารถปั่นจักรยานรอบหมู่บ้านและทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกมากมาย
ที่สำคัญหมู่บ้านอิเนะโนะฟุนะยะ เป็นประสบการณ์ใหม่ทำให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงญี่ปุ่นในท้องถิ่นที่ผ่านมา เพราะที่นี่บรรยากาศเมื่อร้อยปีก่อนเป็นอย่างไร ถึงเวลานี้ก็ยังเป็นเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา