แอปเปิลจัดเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ช่วยขจัดสารพิษได้ดี โดยมีฤทธิ์สมดุล เหมาะกับทั้งผู้ที่ท้องผูกหรือมีปัญหาเรื่องกระเพาะ ลำไส้ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเส้นใยอาหารช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ช่วยในการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีรูปร่างดี ช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ โพแทสเซียมช่วยขับโซเดียมส่วนเกิน กรดอินทรีย์ช่วยบำรุงผิวพรรณ
กรดในแอปเปิลส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันอีกด้วย
ทั้งนี้ แอปเปิลมีมากมายหลายพันธุ์ เราขอแนะนำพันธุ์ที่พบเห็นในท้องตลาดบ่อยๆจะกินสดๆหรือนำมาปรุงก็ได้
แอปเปิ้ลฮันนีคริปส์
แอปเปิลชนิดนี้ต้องปลูกในสถานที่ที่มีความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างเวลากลางวันและกลางคืนสูง จึงจะทำให้แกนแอปเปิลดูดซึมโมเลกุลของน้ำตาลจากรอบๆมารวมไว้ที่เดียวกันได้ และกลายเป็นเส้นสีเหลืองเข้มที่เห็นบนเปลือก แม้ว่าเปลือกนอกไม่น่าดู แต่ชิมแล้วรสหวานหอมเป็นพิเศษ เหมาะกินสดๆ
แอปเปิลเขียว
เปลือกมีสีเขียวออกเหลือง รสหวานอมเปรี้ยว กรอบอร่อย เหมาะกินสดๆ หรือจะนำมาทำเป็นสลัด พาย-แอปเปิล หรืออบเป็นของหวานก็ได้ มักออกผลมากช่วงกลางเดือนกันยายน
แอปเปิลฟูจิ
เป็นแอปเปิลพันธุ์ที่พบเห็นบ่อย แอปเปิลฟูจิจากประเทศญี่ปุ่น มีเปลือกสีแดงสด มีลายเส้น แอปเปิลฟูจิจากหสรัฐอเมริกา มีเปลือกสีแดงแซมเขียว เนื้อออกเหือง กลิ่นหอม รสฉ่ำ หวานกรอบ นำมาทอด ผัด หรือต้มก็ได้ทั้งนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือล้างให้สะอาดแล้วกินพร้อมเปลือกเพื่อคงคุณค่าทางสารอาหาร เก็บได้นาน
แอปเปิลเรดเดลิเชียส
ก้นของแอปเปิลมี 5 หยัก เปลือกสีแดงเข้ม เนื้อสีออกเปรี้ยว ฉ่ำน้ำ กินเป็นของว่างหรือประดับจานของหวานก็ได้ ไม่เหมาะนำไปปรุงด้วยความร้อน เก็บได้นาน
แอปเปิลมุสึ
ผลค่อนข้างใหญ่ เนื้อสีเหลืองอ่อน เนื้อหยาบ กลิ่นหอมฉ่ำน้ำ รสชาติอมเปรี้ยว หวานปานกลาง รูปร่างกลม คล้ายลูกบอลหรืออาจยาวเล็กน้อย ก้นออกสีเขียวอมเหลือง ส่วนที่โดดแดดจะออกสีแดง เก็บรักษาง่าย มักถูกนำมาใส่ลงในกระเช้าของขวัญเพื่อสุขภาพ
Tips
การเลือกซื้อ : ควรซื้อแอปเปิลที่สภาพสมบูรณ์ ผิวมัน ไม่มีหนอนเจาะไม่มีรอยช้ำ หรือเหี่ยว เรียบสม่ำเสมอทั่วทั้งลูก ส่วนหัวมีสีอมเขียว มีกลิ่นหอม เนื้อแข็ง เมื่อใช้นิ้วดีดจะมีเสียงกังวาน
การล้าง : เปิดให้น้ำไหลผ่านเพื่อล้าง ใช้แปรงนิ่มๆขัดเบาๆเพื่อกำจัดขี้ผึ้งและยาฆ่าแมลงที่ติดอยู่บนเปลือก
การจัดการ : แอปเปิลที่หั่นเป็นชิ้นๆจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเพราะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ จึงทำให้สูญเสียคุณค่าทางสารอาหาร แก้ได้โดยนำมาแช่น้ำมะนาวหรือน้ำเกลือ เพื่อป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ
การเก็บ : เก็บได้ 5-7 วัน ในอุณหภูมิห้อง แอปเปิลจะปล่อยแก๊สเอทิลีนทำให้ผักและผลไม้ข้างเคียงเหี่ยวจึงควรแยกเก็บ หากเก็บในตู้เย็นควรใส่ถุงพลาสติกต่างหาก
วิธีปรุงที่เหมาะสมที่สุด : แอปเปิลเหมาะที่จะกินสดๆปั่นเป็นน้ำผลไม้ทำสลัด และทำของหวาน ไม่เหมาะที่จะนำไปปรุงสุกด้วยความร้อนเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สูญเสียรสชาติและคุณค่าทางสารอาหาร
ที่มา หนังสือกินเปลี่ยนชีวิตด้วยอาหาร 100 ชนิด จากธรรมชาติ / สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์
