ไม่พูดพร่ำทำเพลง ปิ่นโตเถาเล็กสุดแสนประทับใจ ขอแนะนำร้านอาหารเทรนด์ใหม่เข้ากับสมัยนิยม มีชื่อว่า ราก (Rark) ร้านนี้มีเชฟทำกันแค่ 2 คนเท่านั้น ทั้งรับจองโต๊ะ จ่ายตลาด ทำอาหาร คิดเงิน เปิดเฉพาะมื้อเย็นวันละ 2 รอบ คือรอบ 6 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม และรอบ 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม และรับแค่ รอบละไม่เกิน 10 คนเท่านั้น
ลักษณะการทำเป็นแบบ เชฟเทเบิ้ล คือ คนกินได้นั่งใกล้ชิดหน้าครัว มองเชฟปรุงอาหารไปด้วย คุยกันไปด้วย เหมือนกินที่บ้านเพื่อนเลยทีเดียว เชฟน่ารักอบอุ่นเป็นกันเองดีมาก
ร้านรากเป็นของเชฟหนุ่มอายุ 30 ต้นๆ น้องใหม่ไฟแรง 2 คน คือ เชฟเซฟ ทรงพล บารมีอนันต์ กับ เชฟเต้า กวี จำปานคร ปิ่นโตเถาเล็กไม่ได้ดัดจริตเรียกเชฟหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าทั้ง 2 คนเคยเป็นลูกมือทำอยู่ที่ร้านแนวหน้าระดับ 2 ดาวมิชลินของไทยชื่อ Mezzaluna สมัยที่เชฟฝาแฝดตระกูลซูริ่ง (Shring) ชื่อก้องโลกเป็นหัวหน้าใหญ่ จากนั้นก็ไปทำที่อื่นอีก 3 ปี จนในที่สุดมาเปิดร้านรากด้วยกัน
แต่ช้าก่อน มาร้านนี้มีสตางค์ก็อาจจะไม่ได้กินทันที เพราะถึงแม้ว่าจะเปิดมาเพียง 3-4 เดือน (เริ่มมีนาคม 2562) แต่ตอนนี้ คิวจองเต็มไปถึงปลายเดือนกันยายน แล้วจ้า
แฟนๆ คงสนใจใคร่รู้ว่าจองอย่างไร วิธีการง่ายๆ คือต้องจองผ่าน Line: @rakthai สถานเดียวเท่านั้น พอเรา add ไลน์ จะมีตอบรับอัตโนมัติ บอกทั้งวิธีการจอง เมนู แผนที่ทางไปครบถ้วน แต่ตอนนี้ยังไม่เปิดให้จอง เราต้องคอยตาม
ดูใน อินสตาแกรม rarkthai และ เฟซบุ๊ก RARK Authentic Thai Cuisine ก็เพราะว่า กลางเดือนกรกฎาคมนี้ ร้านรากจะเปิดจองคิวเดือนตุลาคม แล้ว ถึงเวลาให้รีบวิ่ง 4×100 บอกในไลน์เลยว่าอยากไปรอบไหนวันไหน (จองได้ 2-10 คน) ขอให้โชคดีทุกท่านนะจ๊ะ
ร้านรากอยู่ริม ถนนยานนาวา เลี้ยวจาก ถนนพระราม 3 ตรงสามแยกใกล้ ธ.กรุงศรีอยุธยา เข้ามาเพียง 300 เมตรก็ถึงแล้วอยู่ทางซ้ายมือ จอดรถในโครงการ หูกระจงคาเฟ่ (ถ้ามาก่อนเวลาให้นั่งชิมกาแฟในร้านนี้ก่อน) ตัวร้านเป็นห้องเล็กๆ ชั้นเดียวเหมือนกินในครัวที่บ้านเลย
เขามีลูกเล่นว่าถ้าคนที่จองโต๊ะเป็นผู้หญิงก็จะมีตุ๊กตานางรำประดับที่โต๊ะ ถ้าเป็นผู้ชายจองก็เปลี่ยนตุ๊กตาผู้ชายแทน น่าเอ็นดูซะนี่กระไร
เมนูร้านรากคิดมาจากของกินอร่อยที่บ้านในวัยเด็ก อีกทั้งเมนูพื้นบ้านที่ทำขึ้นมาใหม่อย่างมีหลักการ เซฟกับเต้าบอกเราว่าเขาศึกษาจากตำราฝรั่งด้วย มีทั้งคัมภีร์เรื่องรสชาติหรือเฟลเวอร์ ว่าวัตถุดิบอะไรรสชาติเข้ากันได้ และหนังสือเจาะลึกถึงผักในโลกนี้ว่าอะไรเข้าพวก อะไรไม่เข้าพวก
ถ้าแฟนๆ จองคิวได้แล้ว ก่อนมา 2-3 วัน ต้องสั่งอาหารล่วงหน้า ทางไลน์ ดูในไลน์มีอยู่ 20 กว่าอย่างเท่านั้น ถ้ามา 10 คน ขอแนะนำว่าให้สั่งอย่างละ 2 จานนะจ๊ะ
ตอนกลางคืนหลังเลิกร้าน เชฟเต้าจะไปจ่ายตลาดที่คลองเตย ส่วนเชฟเซฟไปอีกตลาดตอนเช้า จ่ายของเท่าที่ลูกค้าสั่งล่วงหน้า สั่งเพิ่มตอนกินไม่ได้ และห้ามสั่งกลับบ้าน แต่ถ้ากินไม่หมดห่อกลับได้ และไม่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใดๆ ทั้งสิ้น
ขอสาธยายเมนูที่ชื่นชอบมากๆ เริ่มจาก หมูสะเต๊ะเยาวภา (190 บาท) หมายถึง เชฟเรียนรู้จากหนังสือตำรับสายเยาวภา ของสายปัญญาสมาคม หมูสะเต๊ะนุ่มๆ หอมผงกะหรี่ ทีเด็ดอยู่ที่ตำรับนี้มีสูตรน้ำจิ้มคล้ายอาจาด ทำจากผลแอปเปิลเขียวใส่น้ำตาล น้ำส้ม เกลือ ได้เคี้ยวแอปเปิลหนึบหอมมาก ซึ่งยังมีอีกเมนูที่จิ้มน้ำจิ้มนี้ด้วยคือ ขนมปังหน้าหมูชุบไข่ทอด (130 บาท) ที่เอาขนมปังไปตากจนแห้งแล้วย่างเพื่อไม่ให้อมน้ำมันเวลาทอด
อาหารจานพล่าร้านนี้อร่อยเหาะที่สุด มีทั้ง พล่าปลาทรายแดงใส่มังคุด (295 บาท) ทอดกินได้ทั้งเกล็ดกรอบนอกนุ่มใน พล่าถึงเครื่องเผ็ดใช้ได้เลย ราดกะทิ โรยมะพร้าวคั่วหอมๆ เข้ากันดีกับมังคุดหวานอมเปรี้ยว น่าเสียดายว่าหน้ามังคุดกำลังจะหมดแล้ว อีกพล่าหนึ่งที่ห้ามพลาดคือ พล่ากะปิหมูหวาน (195 บาท) ทำจากหมูสามชั้น เข้ากันดีกับเครื่องพล่ารสเข้ม ใส่กากหมูและโรยเม็ดกระถินให้อีกด้วย สุดยอดจริงๆ
ถ้ากินเผ็ดและกินดิบได้ต้องสั่ง ก้อยกุ้ง (250 บาท) ทำจากกุ้งขาวสดๆ แช่น้ำเกลือ ซับให้แห้ง เวลากินเนื้อกุ้งเด้งมาก และหอมข้าวคั่ว แกล้มด้วยใบมะตูมแขกกับผักกระโดนรสฝาดนิดๆ อีกอย่างเผ็ดร้อนแรงคือ แสร้งว่ากะเพรา (210 บาท) หมูสับผัดกับใบยี่หร่าและโหระพาแทนกะเพรา ใส่พริกแห้งเผ็ดวาบๆ ผัดมาแห้งๆ แต่ไม่แห้งเพราะเน้นหมูสับติดมัน ควรสั่ง ไข่เจียว (ใส่หอมแดง) (85 บาท) มาแก้เผ็ดด้วย กินกับข้าวสวยร้อนๆ มีให้เต็มหม้อใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีเมนู ข้าวใหม่ปลามัน (120 บาท) เชฟใช้ข้าวหอมมะลิเชียงราย (เชฟเต้าเป็นคนเชียงราย) มียางหอมมากๆ คลุกกับปลาทูย่างเตาถ่าน แกล้มหอมแดง ต้นหอมและพริกขี้หนูซอย มีกากหมูให้ด้วย เวลากินให้บีบมะนาวแล้วคลุก เขาจะเอาไฟพ่นเผาใบตองที่ใช้รองข้าวให้หอมอีกต่างหาก
ส่วนเมนูแกง เราสั่ง แกงเผ็ดเป็ดย่างใส่ลิ้นจี่ (310 บาท) และมะเขือเทศลูกเล็กๆ ร้านนี้ไม่ว่าสั่งแกงอะไร จะตำเครื่องแกงสดๆ วันนั้นเลย
มีอีกอย่างที่เชฟเซฟนำมาจากความทรงจำที่คุณย่า (เชื้อสายลาวโซ่ง) ทำให้กินตอนเด็กก็คือ ยำวุ้นเส้นโบราณ (160 บาท) ใส่หอมแดง ถั่วลิสง กระเทียมเจียว โรยหน้าด้วยกุ้งแห้งทอดกรอบๆ เต็มจาน
ยังมีของกินในคืนนั้นอีกเยอะมาก ทั้ง หมูปั้นรากบัวทอด (195 บาท) ทำเป็นก้อนๆ เนื้อเหนียวหนึบดี หมึกคั่วพริกเกลือ (250 บาท) กุ้งทอดกระเทียม (380 บาท) ใช้กุ้งแม่น้ำตัวเล็กสดๆ มีน้ำราดใส่น้ำตาลกับมะขามเปียกรสออกหวานอมเปรี้ยวด้วย อีกทั้ง ต้มจิ๋วกุ้งสมุนไพรย่าง (260 บาท) ที่เผาเปลือกกุ้งและสมุนไพรต่างๆ ให้หอมก่อนทำน้ำซุป
ปิดท้ายด้วยขนมเมนูดัง ข้าวเม่าน้ำกะทิ (130 บาท) ซึ่งจะมีตามฤดูกาลช่วงข้าวเริ่มออกรวงเท่านั้น ข้าวเม่าเขียวจากอุดรฯหนึบหอมเข้ากันดีกับกล้วยไข่มาก
ยังมีของดีอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ลอง เช่น แกงส้ม 1 คืน ตำรับไม่เหมือนใคร ทำทิ้งไว้ 1 คืนก่อนเสิร์ฟ ยำรากชู หรือ หอมชู เมนูของชาวเขาเชียงรายใช้ส่วนราก ที่เชฟเต้านำมาประยุกต์เข้ากับน้ำพริกขี้กาของคุณย่าเชฟเซฟ และ ยำไก่ย่างถ่านใส่ชมพู่ เมนูใหม่อีกอย่าง
เอาเป็นว่าให้ตั้งหน้าตั้งตารอเปิดจอง แข่งกับปิ่นโตเถาเล็ก และถ้าได้ไปชิม อย่าลืมพกเงินสดไปด้วย เพราะเขาไม่รับบัตรเครดิต ขอให้โชคดีจองได้ทุกคนนะจ๊ะ
ราก
โดย เชฟทรงพล (เซฟ) บารมีอนันต์ เชฟกวี (เต้า) จำปานคร
ที่ตั้ง 999/35 ถนนยานนาวา ช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทร 09-8253-4317
เปิดบริการ วันละ 2 รอบๆ ละ 10 คน 18.00-20.00 น. และ 20.00-22.00 น. อังคาร-อาทิตย์ ต้องจองผ่าน Line id : @rarkthai เท่านั้น
หยุด วันจันทร์ แนะนำ เชฟเทเบิ้ล เมนู 20 กว่าอย่าง เมื่อได้คิวแล้วต้องสั่งอาหารล่วงหน้าเท่านั้น
หมายเหตุ จอดรถในโครงการหูกระจงคาเฟ่
ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ปิ่นโตเถาเล็ก |