หนึ่งในอาหารหลัก 5 หมู่ที่ต้องรับประทานเป็นประจำทุกวันเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง คือ “ผลไม้” เพราะมีวิตามินช่วยซ่อมแซมร่างกาย แต่ปัจจุบันคงปฏิบัติเช่นนี้ได้ยาก เนื่องจากราคาผลไม้ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งไม่อาจซื้อหามารับประทานได้ ทางเลือกหนึ่งที่จะมาทดแทนได้ คือผู้บริโภคทั้งหลายหันไปหา “ผลไม้รถเข็น” แทน ทั้งจำนวนและราคาสอดคล้องกับความต้องการของคนกินหรือผู้บริโภค แต่ถ้าตัดสินใจจะซื้อผลไม้จากรถเข็น ต้องสังเกตให้ดีก่อนซื้อ เพราะหากเลือกไม่ดี อาจมีสารปนเปื้อนทำให้ท้องเสีย หรือก่อโรคอื่นๆ ตามมาได้
ทางออกของผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลไม้รถเข็น สังเกตง่ายๆ ดังนี้
1. ผู้ค้าต้องใส่ใจความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นมือที่ไปหยิบจับผลไม้ หรือจะเป็นสุขภาพของผู้ขาย รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ทั้งหมดล้วนทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ทั้งสิ้น ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องให้ความใส่ใจในการประกอบอาชีพด้วย นอกจากนี้ตัวรถเข็นต้องสะอาด ตู้กระจกใส ไม่มีคราบฝุ่นละออง หรือรอยแตกร้าว อุปกรณ์ที่ใช้สะอาด น้ำแข็งสะอาด มีดและเขียงสะอาด มีการทำความสะอาดก่อนหรือหลังหั่นผลไม้ ผ้าเช็ดอุปกรณ์ต้องสะอาด และแยกประเภทตามการใช้งาน
2. ควรเลือกผลไม้ที่สดใหม่และตามฤดูกาล เพราะจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องสารปนเปื้อน รวมทั้งรอดพ้นจากสารกันบูดอย่างแน่นอน และที่สำคัญการกินผลไม้สดจะทำให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุ รวมทั้งสารอาหารจากผลไม้ได้มากกว่าผลไม้ดอง โดยเฉพาะวิตามินซี ที่มีในผลไม้สดมากกว่าผลไม้ดองหลายเท่า ที่สำคัญพยายามอย่ากินผลไม้ซ้ำกันทุกวัน ควรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยกินให้หลากหลายชนิด เพื่อจะได้รับสารอาหารที่หลากหลายด้วย
3. หลีกเลี่ยงผลไม้หมักดอง เพราะจะได้คุณค่าทางโภชนาการน้อยมาก นายสง่า อธิบายว่า ผลไม้ดองส่วนใหญ่มักใส่สารเคมี เช่น สารโลหะหนัก สารกันบูด บอแร็กซ์ หรือสารเพิ่มความกรอบ เสี่ยงต่อการได้รับสารปนเปื้อนสูง และที่สำคัญการกินผลไม้ดอง จะมีสิ่งหนึ่งเข้าไปในร่างกายด้วย คือ ความเค็ม โดยเฉพาะโซเดียมที่มีอยู่ในผลไม้ดอง ดังนั้นการกินผลไม้ดองบ่อยๆ ทำให้ร่างกายมีโอกาสได้รับโซเดียมสูงไปด้วย โดยจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง และไตทำงานหนัก ยิ่งไตทำงานหนัก ความดันโลหิตก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
4. ระมัดระวังเครื่องจิ้มผลไม้ต่างๆ แม้เครื่องจิ้มเหล่านี้จะช่วยให้มีรสดีขึ้น แต่ผลร้ายจะตามมาคือ ทำให้ร่างกายได้รับเกลือและน้ำตาลมากเกิน เพราะเครื่องจิ้มผลไม้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผงบ๊วย พริกกะเกลือ น้ำปลาหวาน หรืออื่นๆ มักมีส่วนผสมของน้ำตาล เกลือ กะปิ ผงชูรส จึงควรกินแต่น้อย วิธีที่ดีควรลองกินผลไม้ที่ไม่มีเครื่องจิ้ม แล้วเราจะพบว่า ฝรั่ง มะม่วง มะกอก และผลไม้ต่างๆ มักมีรสเปรี้ยว หวาน มัน กรอบ อร่อยอยู่ในตัว โดยไม่ต้องใช้เครื่องจิ้มเลย
ขณะเดียวกันควรเลือกกินผลไม้ที่ไม่ใส่สี เพราะบางครั้งสีสวยๆ ที่เห็นนั้น ไม่ใช่สีผสมอาหารแต่เป็นสีย้อมผ้า รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่ใส่สารแทนความหวาน ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง คือหากกินแล้วมีรสขมติดในคอ แสดงว่าใช้สารแทนความหวานปริมาณมาก ถ้ากินติดต่อกันนานๆ จะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
หมายเหตุ : เรียบเรียงจากบทความของ สสส.