ฉบับนี้พักเบรกจากอาหารมื้อหนัก อยากชวนไปกินขนมจิบกาแฟกันค่ะ
ร้านเป้าหมาย คือ Kumo Cafe เป็นคาเฟ่น้องใหม่สไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมถนนราชวิถี ใกล้กับซอยราชวิถี 32 ตรงข้ามวังสวนจิตรลดา
ร้านนี้แม้จะยังหน้าใหม่ คือ วันที่ 1 มกราคมนี้ ก็จะครบปีพอดี แต่ด้วยฝีมือที่พอตัว รสชาติสุดแสนจะโฮมเมด ก็เลยขึ้นชื่อในมวลหมู่ผู้ปกครองโรงเรียนจิตรลดา โรงเรียนเซนต์แอนดรูว์ และชุมชนละแวกนั้นเป็นอย่างดี
ตัวร้านใช้โทนสีฟ้าเป็นสีหลัก สอดคล้องกับชื่อร้านคุโมะที่แปลว่าเมฆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ที่ดีคือคนไม่พลุกพล่าน การเดินทางไม่ยาก และหลังร้านมีที่จอดรถสะดวกสบาย
ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น เจแปนนิส กรุกระจกใสบานใหญ่รอบร้านให้ความรู้สึกโปร่ง เวลาจะสั่งอาหารเราต้องไปยืนเลือกดูเมนูที่หน้าเคาน์เตอร์แบบคาเฟ่สมัยใหม่ เราสามารถสอบถาม และพนักงานก็แนะนำกันตรงนั้น
ร้านนี้จะเด่นตรงมื้อเช้า หรือบรันช์ เป็นอาหารไม่หนักมาก ให้พลังงานในตอนเช้าได้ดี
แนะนำตัวซิกเนเจอร์ Tamako Sando หรือ แซนด์วิชไข่ ชุดละ 135 บาท เสิร์ฟ 4 ชิ้น จะมีให้เลือกว่าจะเป็นขนมปังธรรมดา หรือขนมปังปิ้ง ประกบกับไข่ที่ใส่มาเป็นชั้นอ้วนๆ กัดคำโตสะใจ รสชาติไข่จะไม่หวานมาก ออกเค็มนิดๆ จากน้ำสต๊อกปลาโอแห้ง ส่วนขนมปังจะทาซอสที่ร้านคิดสูตรขึ้นมาเอง มีเบสเป็นมัสตาร์ดและวาซาบิ เป็นการผสมผสานระหว่างยุโรปกับญี่ปุ่น
หรือใครจะเลือกมื้อเช้าเบาๆ เป็น ขนมปังแผ่นโฮมเมด ที่ร้านทำเองตั้งแต่การเพาะยีสต์กันเลยทีเดียวเชียว! กินกับ แยมโฮมเมด มีให้เลือก 3 แบบ คือ คือ สตรอเบอรี่ ที่ใช้สตรอเบอรี่ป่านำเข้าจากฝรั่งเศส ผสมกับสตรอเบอรี่ปกติ จากรสชาติสตรอเบอรี่ป่าที่ขมและเฝื่อนเมื่อมาผสมกับสตรอเบอรี่สวนก็จะทำให้รสชาติไม่หวานแหลม มีกลิ่นหอมจากสตรอเบอรี่ป่า และซ่อนกลิ่นเฮิร์บหน่อยๆ ส่วนอีก 2 รส คือ มาร์มาเลด ที่ผสมกับผลไม้หลากชนิด และ มิกซ์เบอรี่
มื้อนี้จะสั่งกาแฟมาจิบคู่กันก็ไม่เลว เพราะกาแฟที่นี่แม้จะไม่ได้โดดเด่นเท่าขนม แต่รสชาติถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐาน คุโมะเลือกใช้กาแฟคั่วกลาง มีรสชาติของกาแฟที่ไปด้วยกันกับสไตล์ของคาเฟ่ ได้รสชาติกาแฟแบบผลไม้ คือ ซ่อนเปรี้ยว และมีอาเตอร์เทสที่หวานในลำคอ
พลาดไม่ได้กับซิกเนเจอร์สุดจี๊ด Burnt Cheese ชิ้นละ 160 บาท เป็นชีสเค้กสูตรเฉพาะของร้านนำไปอบจนหน้าไหม้ (แบบอร่อย) ทำให้ด้านหน้าสีค่อนข้างเข้ม ส่วนเนื้อด้านในจะนุ่มๆ เป็นเมนูที่ทุกคนกดเลิฟกันอย่างพร้อมเพรียง
ส่วนอาหารก็มีให้เลือกหลายอย่าง ขนาดพอร์ชั่นไม่ได้ใหญ่มาก กินอิ่มพอดีแบบไม่หนักเกินไป เช่น เมนูพิเศษ ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวหน้าต่างๆ อย่าง คัตสึด้ง บูตะด้ง หรือ ผัดพริกไข่ปลาเมนไทโกะ
แต่ที่เราลองชิมวันนี้เป็นอาหารขายดีของที่ร้าน คือ ข้าวแกงกะหรี่ทงคัตสึ 175 บาท คุโมะนำเข้าผงกะหรี่จากญี่ปุ่น นำเอามาเคี่ยวเอง ใส่ส่วนผสมของผลไม้เนื้อสัตว์เพื่อให้ได้ครบรสชาติ เคี่ยวประมาณ 3 วัน เพื่อให้เนื้อเนียนละเอียด รสชาติละมุนเผ็ดนิดๆ แบบญี่ปุ่นแท้
ส่วนไฮไลต์ไม่พูดถึงไม่ได้ Kakigori คากิโกริ หรือ น้ำแข็งไสญี่ปุ่น ที่คนมักสับสนว่าเป็นบิงซู ทั้งสองอย่างมีความเหมือนกันคือเป็นน้ำแข็งไส แต่กรรมวิธีต่างกัน บิงซูจะเน้นความมันและครีม เกล็ดน้ำแข็งแน่นและแห้ง แต่คากิโกริที่นี่จะใช้น้ำแร่ในการทำน้ำแข็ง มีการราดซอสต่างๆ มีท็อปปิ้ง มีไส้ใน เกร็ดน้ำแข็งจะเบาและฉ่ำ ที่ร้านมีหลายรสชาติให้เลือกต้องมาลองกันดูค่ะ
“มด-ศิริธร ไหมสกุล” หัวหน้าทีมเชฟ บอกว่า จริงๆ เราเน้นคอนเซ็ปต์ คือ ของที่ร้านทำเองหมด ดังนั้น แต่ละอย่างจะออกมาไม่เยอะมาก จะเป็นโฮมเมดจริงๆ และด้วยความชอบของเจ้าของร้าน (ชวนท รัตตกุล ฟู้ดดี้ นักกินนักชิมเจ้าสำราญ) อยากทำคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น เห็นว่าเมืองไทยยังมีน้อย เราเลยดึงจุดเด่นในการทำโฮมเมดมาทำให้ได้ลองกัน อย่างขนมปังเราโฮมเมดกันตั้งแต่ยีสต์ คือ เลี้ยงยีสต์เองมีตายบ้างดีบ้างช่วงแรกตอนนี้ก็อายุได้เกือบ 1 ปี เท่าอายุร้านแล้ว
ส่วนตัวแล้วเชฟมดจริงๆ จบอาหารยุโรป ฝึกสายฝรั่งเศส แต่เมื่อตัดสินใจมาเริ่มกับร้านที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่น การทำงานก็ต้องฝึกฝนเพิ่มขึ้น ทั้งการแกะสูตร การทำลอง ทำซ้ำอยู่อย่างนี้จนเริ่มเข้าที่
“ก่อนเปิดร้านเราทดลองเมนูกันอย่างเดียวประมาณ 3 เดือน ทำเทสต์ ทำทิ้ง ทำแจก อยู่อย่างนี้ จนเราได้เมนูที่เราคิดว่าขายได้ แล้วก่อนเปิดร้านจริง เราเปิดให้ลูกค้าเข้ามาชิมฟรี สั่งซื้อเครื่องดื่มทานอาหารฟรี ขนมฟรี 1 คน 1 เซต เพื่อเอาฟีดแบ๊กจากลูกค้าว่าตัวไหนคนชอบ ตัวไหนมีคอมเมนต์อะไรบ้าง ทำกันอยู่ 1 เดือน ก็ได้ข้อสรุปว่าเมนูเด็ดอะไร”
เชฟมดมองว่า ร้านขนมสมัยนี้เขาแข่งกันเรื่องพรีเซ็นเตชั่นสูงมาก แต่ร้านเราการพรีเซ็นต์อาจไม่หรูหราอลังการดังนั้นเราเน้นรสชาติ และความเป็นศิลปะเข้าไปแข่งกัน เราอาจจะเป็นเทรดดิชั่นแนลหน่อยๆ แบบญี่ปุ่น
ที่ร้านยังมีขนมโฮมเมดอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น “พุดดิ้ง คาราเมล คัสตาร์ด” รสชาติไม่หวานมาก เค็มนิดๆ เป็นคัสตาร์ดที่ใช้เวลาสตรีมถึง 2 ชั่วโมง เพื่อให้ได้เนื้อที่เนียนนุ่มที่สุด หรือคุกกี้ที่ไม่ได้ทำจากแป้ง ใช้อัลมอนด์บดผสมเนย และคุกกี้อัลมอนด์รสเข้มขมผสมกับไส้ตรงกลางเป็นไวต์ช็อกโกแลตให้รสชาติกลมกล่อมพอดี
อ้อ ที่ร้านเขามีบริการทำสแน็คบ็อกซ์ด้วยนะคะ สนใจไปสอบถามไปชิมกันได้ วันอังคาร-อาทิตย์ 07.00-19.30 น. ปิดวันจันทร์ สอบถามโทร 09-7037-1246 หรือเข้าไปส่องได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Kumo Cafe
| ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ชม นำพา [email protected] |
