ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ คลื่นไส้ นอนไม่หลับ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว “พาราเซตามอล” มักจะเป็นยาที่คนส่วนใหญ่นำมากินเป็นอันดับต้นๆ กันเลยทีเดียว แต่คุณสมบัติหรือสรรพคุณของพาราเซตามอล ไม่ได้ครอบจักรวาลถึงขนาดนั้น
ทำให้เกิดปัญหาการใช้ยาแบบผิดๆ เช่น อาการไม่พึงประสงค์ในลักษณะการแพ้ยา ผลข้างเคียง เช่น เกิดพิษต่อตับ การใช้ยาไม่เหมาะสม การได้รับยาซ้ำซ้อน การใช้ยาเกินขนาดโดยไม่ตั้งใจ และการใช้ยาร่วมกับการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค
ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้ปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาพาราเซตามอลให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยอิงตามน้ำหนักตัวของผู้บริโภคเป็นหลัก ดังนี้
การใช้ยาพาราเซตามอลขนาด 325 มิลลิกรัม | การใช้ยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม | ||
น้ำหนักตัว ( กิโลกรัม ) | วิธีการใช้ยา | น้ำหนักตัว ( กิโลกรัม ) | วิธีการใช้ยา |
22 ถึง 33 | ครั้งละ 1 เม็ด | 34 ถึง 50 | ครั้งละ 1 เม็ด |
มากกว่า 33 ถึง 44 | ครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง | มากกว่า 50 ถึง 67 | ครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง วันละไม่เกิน 5 ครั้ง |
มากกว่า 44 | ครั้งละ 2 เม็ด | มากกว่า 67 | ครั้งละ 2 เม็ด วันละไม่เกิน 4 ครั้ง |
โดยการกินยาแต่ละครั้ง ควรกินห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง และใช้ไม่เกิน 8 เม็ด หรือ 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน และใช้เฉพาะเมื่อมีอาการ เช่น ปวดหรือมีไข้ และไม่กินยาพาราเซตามอลร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ หากไม่มีอาการควรหยุดใช้ยาทันทีเพื่อลดการเกิดผลข้างเคียงจากยา
ที่มา : Fda Thai ผู้เขียน : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์