ทุกวันนี้คนไทยกินผักและผลไม้น้อยยยยย..มาก เฉลี่ยแค่วันละ 186 กรัมเท่านั้น ทั้งๆ ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าคนเราควรกินผักผลไม้ อย่างน้อยวันละ 400 กรัม
ใช่ องค์การอนามัยโลกแนะนำให้กิน วิชาสุขศึกษา คุณครูพ่อแม่ผู้ปกครอง นักวิชาการ หรือใครๆ ก็บอกว่า กินผักเยอะมันดีมีประโยชน์ แต่เชื่อเลยว่า จะต้องมีคนตอบว่า “ก็รู้ว่ามันดี แต่….” ไม่ว่าเหตุผลของแต่ละคนคืออะไร แต่ยังไง เราก็…ยังอยากให้คุณกินผักอยู่ดีนะ
ไม่กินผัก ใช่ว่าไม่เป็นอะไร หลายคนโตมาโดยที่หลีกเลี่ยงผักแล้วก็คิดว่า ก็ไม่กินผักก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะเขายังไม่เห็นผลในระยะยาวว่า การบริโภคผักผลไม้อย่างเพียงพอในแต่ละวัน สามารถลดภาวะโรคต่างๆ ได้แก่ หัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองตีบ ลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่
แล้วก็ลองสังเกตตัวเองดูว่า ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่ค่อยจะปกติบ้างไหม เพราะการขาดเกลือแร่และวิตามินจากผักผลไม้ อาจนำไปสู่อาการผิดปกติบางอย่าง เช่น ภาวะซีดและอ่อนเพลียในคนที่ขาดธาตุเหล็ก อาการผิวแห้งและอัตราการเผาผลาญต่ำในคนที่ขาดวิตามินบี รวมทั้งพวกสามวันดีสี่วันไข้ เป็นหวัดบ่อย ติดเชื้อง่าย เจ็บคอ เรียกว่าสารพัดโรคถามหากันเลยทีเดียว
“ยังมีผักอร่อยมากมายให้เลือกกิน ผักอร่อยได้ แค่รู้จักปรุง” หลายคนไม่ชอบกินผัก ไม่ว่าจะด้วย กลิ่น รสชาติ หรืออะไรก็ตาม อยากบอกว่า ผักนั้นมีมากมายหลายชนิด อย่าเพิ่งเหมาหมดสิ ลองเปิดใจลองผักต่างๆดู แล้วจะติดใจ เพราะยังมีผักที่คุณยังไม่เคยกินแล้วค้นพบว่ามันอร่อยมากเลยนะ ถ้ามันยังยากอยู่อาจจะเริ่มจากใช้ตัวช่วยอย่าง น้ำสลัด น้ำยำมาคลุกเคล้าผัก ก็จะช่วยให้กินผักต่างๆง่ายขึ้น หรือเป็นผักชุบแป้งทอดเมนูนี่ก็ใช้ได้เลยนะไม่ว่ากับเด็กหรือผู้ใหญ่ได้หมด ไม่ก็ดัดแปลงอาหารปกติ เมนูที่เราคุ้นเคยอย่าง ต้ม ผัด แกง ทอด ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯแล้วใส่ผักเป็นวัตถุดิบให้มากขึ้น จะลองเปลี่ยนผัดหมูผัดไก่เป็นผัดเห็ด เปลี่ยนก๋วยเตี๋ยวเส้นกับเนื้อสัตว์แบบเดิมให้เป็นก๋วยเตี๋ยวลุยสวน หรือเปลี่ยนแกงที่กินประจำ ให้เป็นแกงเลียง แกงอ่อม เกาเหลาสารพัดผัก ก็ได้
ขอจูงใจเพิ่มเลยว่า ถ้าในแต่ละมื้อกินผักและผลไม้ให้มากพอและลดสัดส่วนอาหารอื่นๆพวกแป้งหรือโปรตีนที่อาจจะมากไป จะช่วยเรื่องรูปร่าง การควบคุมน้ำหนักได้ด้วยนะ เพราะกินจนอิ่มจุกๆ แต่ได้พลังงานต่ำ มีกากใยสูงช่วยเรื่องขับถ่าย พอกินอิ่ม ถ่ายคล่อง ก็ไม่อ้วน แถมผักยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณดี กระตุ้นการทำงานของภูมิต้านทาน ชะลอความแก่ ความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ทีนี้ก็สวยสดใส หล่อแมนแฮนซั่มกันไป
“ผักปลอดภัยเลือกได้ไม่ต้องกลัวสารเคมี” หลายคนอาจจะกลัวสารเคมีตกค้างในผัก แต่เราสามารถหาผักมากินให้ปลอดภัยได้ แค่เราหาให้ ถูกที่ ถูกเวลา ถูกแหล่งที่มา เท่านั้นเอง เริ่มจากเลือกผักตามฤดูกาลของมัน เพื่อให้ได้ผักที่เติบโตตามธรรมชาติ ได้คุณภาพสดใหม่ ทั้งความต้านทานโรคก็สูง ทำให้เกษตรกรไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงในการปลูก ยิ่งถ้าเลือกเป็นผักพื้นบ้านที่ปลูกง่าย ทนทาน ราคาก็ถูก แถมได้คุณค่ามากมาก แล้วก็ล้างผักก่อนกินทุกครั้ง เท่านี้ก็ได้ผักที่ปลอดภัยได้ประโยชน์แล้ว
“จะรีบไปไหน หาผักเติมหน่อยนะ” คนส่วนใหญ่มักอ้างว่าไม่มีเวลา ต้องพึ่งพาอาหารจานด่วนนอกบ้านจะไปเพิ่มผักได้อย่างไร ก็เข้าใจนะ เลยอยากเสนอเป็นการลองปรับพฤติกรรมการกินในแต่ละวันดู ถ้าอย่างมื้อเช้า เมนูรีบๆที่หาตามข้างทางกินเร็วๆ แล้วหาผักไม่ได้จริงๆก็อาจจะเพิ่มเป็นผลไม้ก่อนนะ แต่ถ้ากินเป็นร้านอาหารตามสั่ง หรือข้าวแกง เลือกสั่งเมนูผักนำเข้าไว้ เสียงดัง ๆ ฟังชัด ๆ ไปเลยว่า “ป้าๆ ขอผักเพิ่มด้วย !!” และบอกลานิสัยชอบเขี่ยผักไปไว้ข้างจาน หรือยามบ่ายแวะหาผลไม้ไว้กินแทนขนมหรือชานมไข่มุกตอนบ่าย ไม่ว่าจะเป็น มะละกอ ฝรั่ง ชมพู่ มะม่วง ฯลฯ ตามชอบใจ (อย่าลืมเลือกที่หวานน้อยด้วยนะ)
“กะไม่ยากเลย ถ้าจะกินให้พอ” การกะปริมาณ 400 กรัมต่อวันตามที่องค์การอนามัยโลกเขาแนะนำกัน อาจจะทำให้ใครๆสงสัยว่า จะรู้ได้ไง หรือบอกว่า ให้คิดเป็น ผัก 3 ส่วน ผลไม้ 2 ส่วน ก็ทำเอางงๆ อยู่ ขอแนะนำแบบง่ายๆเลย ก็ลองคะเนดูด้วยสายตาแบบง่ายๆ แค่ให้มี “ผักครึ่งจาน” ไว้ก่อน ไว้ก่อนอันนี้ไม่ใช่แต่เฉพาะผักใบนะให้รวมเห็ดรวมถั่วด้วยก็ได้ ส่วนอีกครึ่งจานจะเป็น “คาร์โบไฮเดรท” (ข้าวหรือเส้นก๋วยเตี๋ยว) ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ควรเป็นข้าวกล้อง หรือข้าวที่ไม่ขัดขาวทั้งหลายจะเป็นการเพิ่มใยอาหาร บวกกับ “โปรตีน” (หมู เนื้อ ไก่ ปลา ฯลฯ) อีกอย่างละครึ่งของครึ่งที่เหลือ เท่านี้ให้ได้ทุกมื้อ และเพิ่มเติมผลไม้ปิดท้าย หรือเป็นของว่างก็ได้ รวมแล้วรับรองว่าได้กินผักผลไม้มากพอหรือเทียบเท่า 400 กรัมเลยล่ะ ก็หวังว่า ทุกมื้อของคุณจะนึกถึงผัก กินผักเพิ่มขึ้น และทำให้ทุกมื้อมีผักนำได้ในที่สุด
หรือถ้ายังอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกตามเพจนี้ไปไวๆ มีสิ่งน่าสนใจให้อ่านอีกเพียบ https://www.facebook.com/Thai.HealthyLifestyle/
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์