หากใครมีอาหาร ของสด ของแห้งอยู่เต็มไปหมดจนรับประทานกันแทบไม่ทัน เรามาลองหา วิธีถนอมอาหาร กันสักหน่อยดีกว่า มาดูกันว่าเคล็ดลับไหนที่น่านำกลับไปลองทำที่บ้านกันบ้าง
“ตากแห้ง” วิธีง่ายๆ ใช้แดดยามบ่ายให้เป็นประโยชน์
เป็นวิธีที่ง่าย ประหยัด และเหมาะกับอากาศบ้านเราแบบสุดๆ การตากแห้งเป็นการไล่ความชื้นออกจากอาหาร เพื่อไม่ให้จุลินทรีย์เติบโต อาหารไม่บูดเน่า ซึ่งวิธีตากแห้งสามารถใช้ได้กับอาหารหลายแบบ ทั้งเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ซึ่งวิธีการตากแห้งของอาหารแต่ละชนิดก็จะแตกต่างกัน
- การตากแห้งอาหารประเภทเนื้อสัตว์ จะต้องนำผ่านขั้นตอนการหมักเกลือ หรือลวกด้วยน้ำเกลือก่อนจะนำไปตากแห้ง เพื่อป้องกันการบูดเน่า และเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร
- การตากแห้งผัก การนำผักไปตากแห้งอาจจะไม่ได้นิยมมากนักในบ้านเรา แต่ในประเทศญี่ปุ่นกลับนิยมใช้วิธีนี้กันมากค่ะ เนื่องจากเป็นการเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารและทำให้รสชาติอร่อยมากขึ้น เพราะเมื่อน้ำภายในผักระเหยออกแล้ว ก็จะทำให้ผักมีความหวานมากขึ้นและยืดอายุการเก็บรักษา โดยนำผักไปล้างให้สะอาด ใช้กระดาษทิชชู่ซับน้ำออกให้แห้ง หั่นผักแบบไหนก็ได้ตามต้องการ แล้วนำไปตากในพื้นที่ที่โดนแสงแดดพอดี มีลมพัดนิดหน่อย ตากประมาณ 1-2 วัน ผักก็จะแห้งได้ที่ นำมารับประทานได้
- การตากแห้งผลไม้ ทำได้ง่ายมากๆ เพียงปอกเปลือก จากนั้นหั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปตากแห้งตามปกติ
“ดอง” เก็บไว้ ได้รสใหม่ อร่อยได้นาน
การดองเป็นการใช้จุลินทรีย์บางชนิดที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ โดยจุลินทรีย์นั้นจะสร้างสารบางอย่างขึ้นมาในอาหาร ที่สามารถยับยั้งจุลินทรีย์ตัวอื่นๆ ได้ค่ะ จึงทำให้เป็นวิธีที่เก็บรักษาอาหารได้นาน อีกทั้งยังช่วยสร้างกลิ่นและรสชาติของอาหารให้แปลกออกไปอีกด้วย ซึ่งวิธีการดองมีหลายรูปแบบ
- การดองเปรี้ยว เป็นวิธีการนำเอาอาหารมาเคล้ากับเกลือ โดยผสมน้ำเกลือกับน้ำส้มแล้วต้มให้เดือด จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาเทราดลงบนอาหารที่จัดใส่ไว้ในภาชนะ ให้ท่วมอาหาร ปิดฝาภาชนะป้องกันลมเข้า หมักทิ้งไว้ 4-7 วัน ก็สามารถรับประทานได้
- การดองหวาน นิยมใช้กับผลไม้ โดยต้มน้ำตาล น้ำส้มสายชู เกลือ ให้ออกรสหวานนำ เมื่อต้มจนดือดแล้ว ทิ้งไว้ให้เย็นค่อยนำมาราดให้ท่วมผลไม้ ปิดฝาภาชนะ 2-3 วัน ก็สามารถนำมารับประทานได้
- การดองเค็ม ส่วนใหญ่จะใช้กับเนื้อสัตว์ ซึ่งวิธีการคือต้มน้ำส้มสายชูและเกลือให้ออกรสเค็มจัดเล็กน้อย ต้มจนเดือดแล้วทิ้งไว้ให้เย็น ค่อยกรองใส่ภาชนะ ปิดฝา หมักทิ้งไว้ 4-9 เดือน จึงค่อยนำมารับประทาน
หวานๆ ทานง่าย ต้องใช้วิธี “เชื่อม”
การเชื่อม เป็นวิธีการถนอมอาหารโดยใช้น้ำตาลเป็นตัวป้องกันไม่ให้อาหารนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง หรือเน่าเสีย ซึ่งการเชื่อมก็มี 3 วิธีที่สามารถทำได้ค่ะ
- การเชื่อมแบบธรรมดา ทำได้ง่ายๆ เพียงเคี่ยวผลไม้กับน้ำตาลจนข้นเหนียว เพื่อให้น้ำเชื่อแทรกซึมลงไปในเนื้อผลไม้ค่ะ
- การแช่อิ่ม เป็นการถนอมอาหารที่ใช้น้ำตาลในปริมาณมาก ซึ่งมักจะใช้กับผลไม้ที่มีรสขม รสฝาด หรือเปรี้ยวจัด โดยส่วนใหญ่จะนำผลไม้เหล่านั้นไปแช่น้ำเกลือ หรือน้ำปูน ให้มีรสจืดลงก่อน แล้วค่อยนำไปแช่ในน้ำเชื่อม พอวันรุ่งขึ้น ค่อยรินน้ำเชื่อมออกจากโหล ใส่น้ำตาลเพิ่มอีก 10% แล้วค่อยนำไปเทใส่โหลที่แช่ผลไม้อีกรอบ ทำซ้ำๆ แบบนี้ประมาณ 6-7 วัน เมื่อผลไม้อิ่มตัวแล้วค่อยนำไปผึ่งหรืออบแห้ง
- การฉาบ คือการนำผักหรือผลไม้ที่สุกแล้ว เช่น กล้วยทอด เผือกทอด มันทอด ฯลฯ ไปคลุกเคล้ากับน้ำเชื่อมแก่จัดจากนั้นเมื่อทิ้งไว้ให้เย็น เพื่อให้น้ำเชื่อมเกาะจนเป็นเกล็ด
ทำ “แยม” แบบง่ายๆ เก็บไว้ปาดขนมปัง
ใครที่ชอบทานแซนวิชหรือขนมปังในมื้อเช้า ก็ลองทำแยมเก็บเอาไว้นะคะ เพราะวิธีทำแยมนั้นง่ายมากๆ เพียงนำผลไม้ เช่น สตรอว์เบอร์รี ส้ม ฯลฯ ไปต้มกับน้ำตาลด้วยไฟอ่อนๆ ในระยะแรก จากนั้นค่อยๆ เพิ่มไฟทีละน้อย หมั่นคนให้สม่ำเสมอ จนกระทั่งได้แยมที่เหนียวตามต้องการ แล้วเก็บใส่ขวดโหลมีฝาปิด ก็เป็นอันเสร็จ
“รมควัน” เพิ่มความหอมถนอมอาหารได้อีกนาน
การรมควันแตกต่างไปจากการตากแห้งธรรมดา ตรงที่นอกจากอาหารจะแห้งแล้ว ยังช่วยให้เก็บรักษาได้นาน อาหารมีกลิ่นหอมและเพิ่มรสชาติ โดยการรมควันจะนิยมสุมไฟด้วย ไม้กาบมะพร้าว ซางข้าวโพด หรือขี้เลื่อย จากนั้นนำอาหารไปแขวนไว้เหนือกองไฟ โดยจะใช้ไฟอ่อนๆ เพื่อรมควันอาหารส่วนไอร้อนก็จะช่วยให้อาหารแห้งเร็วอีกด้วย
แปรรูปเพิ่มรสอร่อยด้วย “วิธีการกวน”
เป็นการที่นำเนื้อผลไม้ที่สุกแล้วมาผสมกับน้ำตาลโดยใช้ความร้อน เพื่อให้ส่วนผสมกลมกลืนกัน จึงทำให้มีรสชาติหวาน เข้มข้น โดยการกวนจะต่างจากการทำแยมตรงที่ ใช้ปริมาณน้ำตาลมากกว่า อย่างเช่น การกวนผลไม้แบบแห้ง เช่น กล้วยกวน สับปะรดกวน ทุเรียนกวน เป็นต้น
ถนอมอาหารสไตล์แม่บ้านยุคใหม่ต้อง “แช่แข็ง” เอาไว้ก่อน
การถนอมอาหารในยุคปัจจุบัน ต่างก็ต้องพึ่งพาการแช่แข็งกันทั้งนั้นเลยนะคะ โดยเฉพาะการเก็บเนื้อสัตว์ เพราะนี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเก็บรักษาอาหาร ซึ่งการเก็บเนื้อสัตว์ในช่องแช่แข็งควรตัดแบ่งใส่ถุงซิปล็อคไว้ในปริมาณเท่าๆ กันเพื่อนำมาใช้ทำอาหารได้ง่าย และต้องแยกเนื้อสัตว์แช่ไว้จากอาหารอื่นๆ ช่องแช่แข็งเพื่อสุขอนามัยที่ดีนะคะ
คุณแม่บ้านที่ต้องการถนอมอาหารรูปแบบไหน ก็อย่าลืมนำไปใช้กันอย่างถูกวิธีและให้เหมาะสมกับอาหารประเภทนั้นๆ นะคะ นอกจากจะยืดอายุอาหารได้นานขึ้นแล้ว การถนอมอาหารยังช่วยสร้างรสชาติใหม่ๆ อีกด้วย ใครอยากลองถนอมอาหารด้วยตัวเอง ก็ลองเริ่มจากอาหารสดในครัวกันดูเลยค่ะ
ที่มา : Tesco Lotus