เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมสกินแคร์ต้องแบ่งแยกสินค้าสำหรับผู้หญิงกับผู้ชาย ทำไมต้องแบ่งกันใช้ ทำไมใช้ร่วมกันไม่ได้ ทั้งๆ ที่ส่วนผสมก็ไม่น่าจะมีอะไรที่เป็นอันตราย เพราะส่วนใหญ่ก็มีคุณสมบัติบำรุงผิวหน้าเหมือนๆ กันหมด หรืออาจจะแบ่งตามสภาพผิว ซึ่งผู้ชายและผู้หญิงย่อมมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่จะแตกต่างกันอย่างไรนั้นก่อนอื่นเรามาดูกันว่าผิวของผู้ชายกับผู้หญิงนั้นต่างกันตรงไหนบ้างค่ะ
ผิวของผู้ชาย
1. จะมีผิวที่หนากว่า
หากเทียบกันระหว่างชายกับหญิงจะพบว่าผู้ชายมีผิวที่หนากว่าผู้หญิงถึง 25%
2. มี Collagen ที่มากกว่า
นอกจากจะมีผิวที่หนาแล้ว ยังมีปริมาณของ Collagen เยอะกว่าผู้หญิงและพอผู้ชายอายุมากขึ้นก็มีโอกาสสูญเสีย คอลลาเจน (Collagen) ได้น้อยกว่าผู้หญิงอีกด้วย
3. ผิวแก่ช้า
จากเหตุของข้อ 1 และข้อ 2 จึงเป็นคำตอบที่ว่า ทำไมผู้ชายถึงดูแก่ช้ากว่าผู้หญิง เพราะว่าผู้ชายมีผิวที่หนา และมี คอลลาเจน (Collagen) เยอะกว่า แถมมีโอกาสถูกทำลายได้น้อยกว่า เลยส่งผลให้ผิวพรรณของผู้ชายจะแก่ช้ากว่า
4. รูขุมขนกว้าง ผิวมัน
จะมีฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน (Testosterone) เยอะกว่าผู้หญิง ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เป็นตัวกำหนดขนาดของต่อมไขมัน จึงทำให้ผู้ชายมีต่อมไขมันที่ใหญ่กว่า รูขุมขนกว้างกว่า ส่งผลให้มีผิวที่มันกว่านั่นเอง
5. ผิวขาดน้ำได้ง่ายกว่าผู้หญิง
แม้ผู้ชายจะมีผิวที่มันกว่า แต่ผิวผู้ชายกลับกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวได้ไม่ค่อยดี ซึ่งเป็นกลไกทางธรรมชาติที่น้ำในผิวของผู้ชายจะระเหยออกมาได้ง่าย ฉะนั้น ผู้ชายต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพราะถ้าขาดความชุ่มชื้นก็ยิ่งทำให้ผิวที่มันอยู่แล้ว มันหนักยิ่งกว่าเดิมได้
ผิวของผู้หญิง
1. มีผิวที่บางกว่าผู้ชาย
ในเมื่อผู้ชายมีผิวที่หนากว่า ในทางกลับกันผู้หญิงจึงกลายเป็นฝ่ายที่มีผิวบอบบางกว่า
2. สูญเสีย Collagen ได้ง่ายกว่า
ผู้หญิงหลายคนคงรู้สึกอิจฉาผู้ชายเอามากๆ เพราะว่าผู้หญิงมีคอลลาเจนในชั้นผิวน้อยกว่าและง่ายต่อการถูกทำลายจากมลภาวะต่างๆ ได้
3. ผิวแก่เร็ว
จากเหตุผลในข้อ 1 และ 2 สรุปได้ว่า ผิวผู้หญิงจะแก่เร็วกว่าผู้ชาย พอผิวบาง มีคอลลาเจน (Collagen) น้อยก็จะทำให้เกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นได้
4. ผิวไม่มันเท่าผู้ชาย
ถือว่าเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของผู้หญิง แม้ว่าสาวๆ บางคนจะออกปากว่า ตัวเองเป็นคนผิวมัน แต่ก็คงไม่มันเท่าผิวของผู้ชาย เพราะว่าผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศชายอย่างฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน (Testosterone) น้อยกว่า แต่จะมีฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรเจน (estrogen) เยอะกว่า ทำให้ผู้หญิงมีต่อมไขมันขนาดเล็ก จึงส่งผลให้มีรูขุมขนที่เล็กกว่าและผิวมันน้อยกว่า พอผู้หญิงมีอายุมากขึ้น พวกน้ำมันในชั้นผิวก็เริ่มลดลง เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ลดลง จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวผู้หญิงเกิดริ้วรอยได้ง่าย
5. ผิวเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
ถ้าให้เทียบกับผู้ชาย ผู้หญิงจะสามารถเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวได้มากกว่า แม้จะมีจำนวน collagen น้อยกว่า แต่อย่างน้อยก็ยังกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ช่วยในเรื่องความเปล่งปลั่งของผิวได้เช่นกัน
แล้วความแตกต่างระหว่างสกินแคร์ของผู้หญิงและผู้ชายล่ะ
สกินแคร์ของผู้ชาย
- จะมี มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) เป็นส่วนผสมหลักซึ่งช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีและเร็ว
- มี น้ำมันมิเนอรัล (Mineral Oil) ซึ่งเป็นส่วนผสมเริ่มต้นของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้น
- มี กลีเซอรีน (Glycerin) ที่ช่วยให้ผิวชั้นนอกคงความชุ่มชื้นไว้ได้
สกินแคร์ของผู้หญิง
- จะมีส่วนผสมของ วิตามิน เอ ซี อี (Vitamin A C E) และ แลคติก เอซิด (Lactic acid)
- ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์จะช่วยลดเลือนริ้วรอย ซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น
- สกินแคร์ของผู้หญิงจะเน้นในเรื่องของกลิ่นที่หอมหวาน และความสวยงามของแพ็คเกจรวมไปถึงสีสันของตัวผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน
แล้วใช้สกินแคร์ร่วมกันได้หรือไม่?
จริงๆ แล้ว ทั้งผู้หญิงและผู้ชายสามารถใช้ครีมบำรุงผิวร่วมกันได้ แต่อาจจะให้ผลลัพธ์ต่อผิวได้ไม่เต็มที่นัก โดยเฉพาะผิวหน้า เนื่องจากชั้นผิวหนังของทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะมีความแตกต่างกันมาก หากไม่ใช้สกินแคร์โดยเฉพาะของแต่ละสภาพผิวก็อาจทำให้ผิวหน้าได้รับการดูแลที่ไม่มากพอ เช่น ผิวหน้าของฝ่ายชายจะมีความหนากว่าฝ่ายหญิง 25% ทำให้มีคอลลาเจนมากกว่าและสามารถผลิตน้ำมันในผิวได้เยอะกว่า รวมไปถึงมีรูขุมขนที่มากกว่า หากใช้สกินแคร์ของผู้หญิงก็อาจทำให้เกิดสิว และมีริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย
เพียงเท่านี้เราก็รู้กันแล้วว่าผู้หญิงกับผู้ชาย ควรเลือกใช้สกินแคร์แบบไหน เพราะสภาพผิวผู้ชายที่มีความหนากว่า และผู้หญิงผิวหน้าก็มีความบอบบางง่ายกว่า ดังนั้น การเลือกใช้ในแบบสภาพผิวของใครของมันไปเลยจะดีที่สุด ไม่ควรใช้รวมกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าเราจะมีสภาพผิวแบบไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับการบำรุงผิวของเราด้วย ถ้าเราหมั่นดูแลผิวเป็นประจำปัญหาผิวก็จะเกิดได้ช้าลงและเสริมวิตามินเพื่อให้ผิวแข็งแรงด้วยจะดีมากค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.spokedark.tv/beauty/beauty-beauty/mw-use-products-together/
https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/171/ผู้ชายใช้เครื่องสำอางผู้หญิงได้หรือไม่/
https://www.sanook.com/women/131385/