นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่าวิกฤตโควิด-19ทำให้โลกเปลี่ยนอย่างมหาศาลไม่เฉพาะในประเทศไทย เช่นองค์กรต่าง ๆ มีการทำงานจากที่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในช่วงที่ผ่านมาจึงคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีทำให้ต่อไปสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ
และเชื่อว่าวิถีชีวิตปกติใหม่ (New Normal) นี้จะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาเติบโตมากขึ้นเช่นกันกับการศึกษาออนไลน์ การซื้อสินค้าออนไลน์ และสังคมไร้เงินสด
“ถ้าคนทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศก็หมายความว่าไปเที่ยวก็ทำงานได้ วิกฤตเป็นแค่สิ่งชั่วคราว ไม่ได้อยู่ตลอด สิ่งที่เราต้องทำคือ เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสใหม่ที่จะมีเข้ามา เช่นเรื่องการท่องเที่ยวจะฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด ถ้าทำให้คนเชื่อมั่นว่ามาเมืองไทยแล้วปลอดภัย ไม่ต้องรอจนมีวัคซีน ต้องทำเดี๋ยวนี้ ถ้าทุกอย่างสงบทำไมเขาต้องมาบ้านเรา เพราะไทยน่าจะเป็นโควิดมากกว่าหลายประเทศ แต่เราติดน้อยที่สุด และเสียชีวิตน้อยที่สุด แสดงว่าหมอไทย การแพทย์ไทยเก่งที่สุด”
นายธนินท์กล่าวว่าการฟื้นการท่องเที่ยวไทยอาจเริ่มได้จากการเจาะกลุ่มมหาเศรษฐีในประเทศต่าง ๆ เช่น ในจีน, อเมริกา และยุโรป ให้มาท่องเที่ยวในเมืองไทยโดยใช้จุดแข็งเรื่องการแพทย์ทำให้เห็นว่ามาเมืองไทยปลอดภัยและสะดวกสบาย ซึ่งรัฐบาลต้องมีมาตรการอำนวยความสะดวก
“โรงแรมห้าดาวในบ้านเราอาจไปลิงก์กับบริษัททัวร์ห้าดาวให้เขาไปชักชวนมหาเศรษฐีอเมริกา จีน และยุโรปมาเที่ยว เหมาเครื่องบินทั้งลำมาเลย เราก็เตรียมพร้อมทั้งโรงแรมห้าดาว ดิวกับโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง มาแล้ว ก็ให้พักผ่อนอยู่ในโรงแรมอย่างดี ผมเชื่อว่ามีคนที่อยากมาถ้าเขาเห็นว่ามาแล้วเขาปลอดภัยกว่า ถ้าเราดึงมาได้สักล้านคนก็เท่ากับ 4-5 ล้านคน คนมีเงินมาอยู่ได้เป็นเดือน บางคนสองสามเดือนยังได้ เป็นกลุ่มหนีตาย เพราะอยู่บ้านเขาเตียงไม่พอ ยาไม่พอ ”
อย่างไรก็ตามในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ประเทศสูญเสียรายได้เฉลี่ยวันละหมื่นกว่าล้านบาท เดือนละ 4-5 แสนล้านบาท จากการปิดประเทศแต่ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของรัฐบาลเพื่อลดการระบาดของเชื้อไวรัสจนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายทำให้เริ่มคลายล็อกได้บ้างแล้ว
“รัฐบาลควรออกพันธบัตร อายุ 30 ปี กู้มาสัก 3 ล้านล้านก็ได้ รัฐบาลนำมารักษากำลังซื้อ ให้ธุรกิจก็พออยู่ได้ เพื่อไปขายต่างประเทศ นำเงินมาช่วยบริษัทไทยที่ดี ๆ ให้เขาทำธุรกิจต่อได้อาจให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ 10 ปี เพื่อให้ธุรกิจเขาไปต่อได้ ถ้าบริษัทปิดโรงงานปิดเครื่องจักร กว่าจะกลับมาฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ไม่ง่าย เหมือนการสร้างบ้านสร้างตึกต้องใช้เวลาหลายปีแต่ระเบิดทิ้ง่ายนิดเดียวแค่ไม่กี่วินาที หากธุรกิจไปต่อได้รัฐบาลก็จะยังได้กลับคืนเป็นภาษี”
นายธนินท์ย้ำว่า เครดิตด้านการเงินการคลังของประเทศไทยถือว่าอยู่ในระดับท็อปของโลกและดีกว่าหลายประเทศในโลก รัฐบาลจึงควรใช้ เครดิตที่ดีไปนำดอกเบี้ยถูก ๆ มาจากทั่วโลก ไม่ใช่ออกพันธบัตรมาเอาเงินของคนไทยด้วยกัน ซึ่งไม่ได้เพิ่มเติม เหมือนอยู่ในบ่อเดียวกัน ทำไมไม่เอาบ่อคนอื่นมาเติมให้น้ำเราเต็ม และถ้าบริษัทต่างๆ สามารถประคองธุรกิจให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้ ไม่ต้องปลดพนักงานยังจ่ายเงินเดือนได้ก็ทำให้มีกำลังซื้อในตลาด
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์