ทัวร์ ศิลปะหลังรัฐประหาร ของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง จ.พระนครศรีอยุธยา
วันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563
06.00 น. | ลงทะเบียน รับของที่ระลึก พร้อมรับประทานอาหารเช้าที่มติชนอคาเดมี |
07.00 น. | เดินทางสู่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา |
09.00 น. | ถึง ปราสาทนครหลวง สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างขึ้นเป็นพระราชมณเฑียรที่ประทับในฤดูร้อน เดิมเชื่อว่าสร้างเลียนแบบปราสาทนครวัด แต่ปัจจุบันเชื่อว่าถ่ายจำลองและปรับปรุงแบบจากปราสาทบาปวนใกล้กับพระราชวังหลวง เมืองพระนคร ที่สร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าอุทยาทิตวรมันที่ 2 ปัจจุบันปราสาทชั้นบนสร้างใหม่เป็นพระมณฑปพระพุทธบาท ร่วมค้นหาว่าเหตุใดพระองค์จึงเลือกจำลองปราสาทบาปวนแทนที่จะจำลองปราสาทนครวัดที่ใหญ่โตและน่าจะมีความสำคัญมากกว่า |
10.30 น. | เดินทางกลับไปยังตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา |
11.00 น. | ถึง วัดหน้าพระเมรุ สันนิษฐานว่าสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างเป็นพระอารามขนาดใหญ่ ชมความงดงามของ “พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ” พระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ขนาดใหญ่ที่สุดในศิลปะอยุธยา ปางมารวิชัย ภายในพระอุโบสถ ที่น่าจะมีนัยสื่อถึงสมเด็จพระเจ้าปราสาททองในฐานะที่ทรงเป็นทั้งพระอนาคตพุทธเจ้าและพระเจ้าจักรพรรดิราช จากนั้นชม “พระคันธารราฐ” พระพุทธรูปประทับห้อยพระบาทสลักศิลาภายในพระวิหารน้อย ซึ่งอัญเชิญมาจากวัดพระเมรุ จ.นครปฐม แต่เดิมเคยประดิษฐานที่วัดมหาธาตุก่อนจะได้รับการเชิญมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นต้นแบบให้กับการสร้างพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ในรัชกาลของพระองค์ซึ่งเริ่มสร้างเป็นพระพุทธรูปประทับห้อยพระบาทเช่นกัน |
12.10 น. | รับประทานอาหารกลางวัน |
13.10 น. | เดินทางไปยัง วัดไชยวัฒนาราม |
13.20 น. | ถึง วัดไชยวัฒนาราม พระอารามสำคัญอันเปรียบได้กับเพชรยอดมงกุฎแห่งรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทรงสถาปนาเมื่อปลายรัชกาลบนสถานที่ถวายพระเพลิงสมเด็จพระราชชนนี พระอารามแห่งนี้มีความหมายถึง ‘ความรุ่งเรืองแห่งชัยชนะ’ พุทธสถาปัตยกรรมของที่นี่รวมความหมายทั้งคติจักรวาลตามคัมภีร์โลกศาสตร์พุทธศาสนา, คติทักษาตามคัมภีร์โหราศาสตร์และตำราพิชัยสงครามเข้าไว้ด้วยกัน ชมปรางค์ประธานขนาดใหญ่ที่เคยหุ้มทองจังโกทั้งองค์ ล้อมรอบด้วยปรางค์มุมบริวารทั้ง 4 มุม และระเบียงคดที่เชื่อมเมรุทิศ ทั้ง 8 เข้าด้วยกัน พร้อมชมการวางตำแหน่งของพระอุโบสถ ที่สื่อถึงชมพูทวีปที่ตั้งของพระมหาโพธิบัลลังก์ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงมีชัยเหนือพญามาราธิราช และตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหินทราย 3 องค์ เพื่อสื่อความหมายถึงพระอดีตพุทธเจ้า พระปัจจุบันพุทธเจ้า และพระอนาคตพุทธเจ้าที่น่าจะหมายถึงพระองค์เองในอนาคต ซึ่งได้ตรัสรู้หรือจะมาตรัสรู้บนพระมหาโพธิบัลลังก์ศูนย์กลางแห่งชมพูทวีปดุจเดียวกัน |
15.00 น. | เดินทางไปยัง พระราชวังหลวง |
15.20 น. | ถึง พระราชวังหลวง หรือพระราชวังโบราณ อยุธยา เลือกชมเฉพาะที่เกี่ยวข้องในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ได้แก่ · ร่องรอยของ “พระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์” ที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างและพระราชทานนามไว้ว่า “พระที่นั่งศิริยศโสธรพิมานบรรยงก์” ให้สอดคล้องกับนามของเมืองพระนคร หรือยโศธรปุระ อดีตราชธานีของกัมพูชา สะท้อนนัยการสืบสันตติวงศ์จากกษัตริย์กัมพูชาโบราณ · วัดพระศรีสรรเพชญ์ อดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ อยุธยา ชมปูนปั้นครุฑแบก สิงห์แบก ที่ฐานชุกชีในพระวิหารหลวง และที่ฐานของพระมณฑปหลังกลางระหว่างพระเจดีย์ประธานสามองค์ อันเป็นประจักษ์พยานของงานช่างตามแบบอย่างศิลปะกัมพูชา ก่อนจะถูกครอบไว้ด้วยฐานใหม่ในสมัยต่อมา จากนั้นชมพระวิหารพระปาลิไลยก์ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้เคยทรงสร้างเป็นมณฑปเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ด้วยความเชื่อว่าพระองค์เคยเสวยพระชาติเป็นช้างปาลิไลยก์ปรนนิบัติพระพุทธเจ้า · วิหารพระมงคลบพิตร แต่ก่อนมีนามเดิมว่า “วัดสุมงคลบพิตร” เข้านมัสการ “พระมงคลบพิตร” หรือพระนามอย่างเป็นทางการว่า “พระสยมภูวญาณโมฬี” ภายในพระวิหาร ซึ่งแต่เดิมเป็นพระมณฑปที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างถวาย หลังจากชะลอพระพุทธรูปองค์นี้มาจากวัดพระชีเชียงของสมเด็จพระชัยราชาธิราช เพื่อสร้างความหมายใหม่ให้กับพระพุทธรูปองค์นี้ว่าเปรียบได้กับพระอนาคตพุทธเจ้า ในฐานะที่พระองค์จะทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตพระนามว่า “พระสุมังคลพุทธเจ้า” |
17.30 น. | เดินทางกลับกรุงเทพฯ |
19.30 น. | ถึง มติชนอคาเดมี โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ |
***กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า***