อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ ดันนโยบายเชิงรุก ฝ่าโควิด-19

ประชาสัมพันธ์

อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เร่งเครื่องแผนเชิงรุกยุทธศาสตร์ 4.0 ใช้เทคโนโลยี ปรับตัวสู้ภัยโควิด-19 ส่งนโยบายให้สถาบันเครือข่ายทั้ง 8 สถาบัน ขับเคลื่อนไปยังภาคอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ Start Up เอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชนทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม รวมพลังฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน พร้อมเร่งสร้างองค์ความรู้ในภาคอุตสาหกรรมในยุควิถีใหม่ (New Normal)

นายเผด็จภัย มีคุณเอี่ยม ประธานกรรมการอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ และคณะกรรมการอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เปิดเผยว่า ปีนี้ได้มุ่งความสำคัญแบบเชิงรุก 6 เรื่องหลัก  คือ 1.บริการทดสอบ/ตรวจสอบ รับรองมาตรฐานคุณภาพและการบริการรับรองมาตรฐาน ISO และมาตรฐานระบบต่าง ๆ 2.พัฒนาบุคลากร บริการปรึกษาพัฒนาอุตสาหกรรมผู้ประกอบการและองค์กร 3.ให้ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรม (IU) นโยบายอุตสาหกรรมและ Industry Foresight 4.เร่งสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์และพัฒนาช่องทางการตลาด  5.พัฒนาอุตสาหกรรม ยุทธศาสตร์และศูนย์ความเป็นเลิศ และ 6. Industry Transformation หรือการปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต

ปัจจุบันวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบใหม่ ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบ ดังนั้น อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ จึงมีนโยบายเข้มข้นที่จะให้ทั้ง 8 สถาบันภายใต้อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิเข้ามาศึกษาแนวทางบูรณาการงานร่วมกัน ตามวิถีใหม่ (New Normal)  โดยกำหนดให้ยุทธศาสตร์ 4.0 เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก  ซึ่ง 8 สถาบัน ประกอบไปด้วย สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ , สถาบันอาหาร , สถาบันไทย-เยอรมัน , สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ , สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ,สถาบันยานยนต์ , สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย และ สถาบันพลาสติก

“8 สถาบันนี้จะเป็นผู้มีบทบาทมากขึ้นในการให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา ชี้แนะแนวทาง พร้อมให้การสนับสนุน ช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล ต่ออุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมโยง หรือเป็นสมาชิกของสถาบันฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่องทางการตลาด และการขายที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ขายสินค้าได้  ทั้งระบบออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ รวมถึง ภาคแรงงานจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานของไทยที่เรื้อรังมานาน จนต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าว อันเป็นการยกระดับภาคอุตสาหกรรมของไทยจากการผลิตขั้นพื้นฐานไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงอีกด้วย” นายเผด็จภัย กล่าว และเพิ่มเติมว่า

“ผมมองว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เรียกว่า New Normal จะใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบใหม่ ยังคงมีต่อเนื่อง ผู้คนจะสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น ไม่เดินห้าง ไม่เดินตลาด ทำอาหารรับประทานเอง หรือซื้อกลับบ้าน หากนั่งรับประทานก็มีการเว้นระยะ ลดการเดินทางเพราะมีการ Work From Home  ตลอดจนธุรกรรมด้านต่าง ๆ เช่นเดียวกัน ก็ใช้อินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่น มากขึ้นกว่าเดิม”

ทิศทางเหล่านี้ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ ก็ต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ ได้มีการพัฒนาและทำงานศึกษาแนวทางบูรณาการงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศกับทั้ง 8 สถาบัน และได้จัดทำ Work Plan ร่วมกัน ยกระดับความสำคัญยุทธศาสตร์ 4.0 ตามกรอบนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ได้เห็นเป็นรูปธรรมและได้ดำเนินการไปแล้ว ยกตัวอย่าง

สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ได้พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีหน้ากากผ้าที่มีประสิทธิภาพขั้นสูง และวางมาตรฐานของหน้ากาก และชุด PPE เพื่อสนับสนุนงานทางการแพทย์ในช่วงโควิด-19 รวมถึงจัดกิจกรรมเผยแพร่องค์ความรู้การ ทำหน้ากากผ้าให้ได้ Smart Fabric และพัฒนาช่องทางจำหน่ายใหม่แบบ New Normal ผ่านระบบออนไลน์ ให้ผู้ประกอบการ

ด้าน สถาบันอาหาร จัดทำโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลโครงการยกระดับอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร โดยนำมาตรฐานผลิตภาพและนวัตกรรมเป็นเครื่องมือในการเพิ่มขีดความสามารถนักรบอุตสาหกรรมพันธุ์ใหม่ ยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร และให้ผู้บริโภครับประทานอาหารสะอาดปลอดภัย ส่วน สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ดูแลด้านมาตรฐานการบริหารจัดการ รวมไปถึงการเพิ่มองค์ความรู้เรื่องดิจิทัล และเทคโนโลยีในเรื่องอุตสาหกรรมให้ผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรอุตสาหกรรม/อาหารแปรรูป ดิจิทัล สุขภาพและการแพทย์, Wellness Economy/New Normal/Next Normal ตลอดจน สร้างการรับรู้และตรวจสอบรับรองผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ You Tube (MASCI Channel), Website, Facebook, Podcast รับสถานการณ์ที่ไม่ปกติจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

“นอกจากนี้ สถาบันไทย-เยอรมัน ยังมี โครงการพัฒนาต้นแบบเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์เพื่อการผลิตระดับชุมชนสมาร์ทเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย สิ่งเหล่านี้จะเป็นองค์ความรู้พัฒนาให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ใช้เป็นแนวทางการขับเคลื่อนและปรับตัว ตลอดจนยังมีโครงการผลิตช่างเทคนิคแก่ผู้พิการและด้อยโอกาส ให้มีอาชีพเลี้ยงตนเอง และครอบครัวได้ อันเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ความช่วยเหลือการศึกษาวิชาการต่าง ๆ ในทางอุตสาหกรรม ตลอดจนวางแนวทางการบริหารจัดการให้ 8 สถาบันนำไปใช้เป็นเครือข่ายกลไกของรัฐในการสนับสนุนอุตสาหกรรมของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง” นายเผด็จภัย กล่าวปิดท้าย