ดีกว่าอยู่เฉยๆ! แอร์สาวเพื่อนซี้ ผันตัวขายต้นไม้ออนไลน์ กำไรไม่มาก แต่มีเข้ามาทุกวัน
แอร์โฮสเตส คือหนึ่งในหลายอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด จากเคยได้เงินเดือนครึ่งแสน มาวันนี้เหลือเพียงไม่กี่หมื่นบาท สวนทางกับรายจ่ายที่มีมากในแต่ละเดือน หากปล่อยเวลาให้สูญเปล่าคงจะไม่ดีเท่าไหร่นัก เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้สองแอร์โฮสเตสสาว ลุกขึ้นมาสร้างอาชีพเสริม เปิดร้านขายต้นไม้ออนไลน์ “day.of.gardener” เป็นรายได้เสริมเล็กๆ อีกทาง
คุณอุ้ย-ธันย์ชนก ปิงเมือง วัย 28 ปี เล่าให้ฟังว่า ยึดอาชีพแอร์โฮสเตสสายการบินไทยแอร์เอเชียมานาน 4 ปี ผ่านหลายเส้นทางการบินทั้งในและต่างประเทศ มาโควิดรอบนี้ ได้รับผลกระทบอย่างจัง เพราะต้องหยุดงานหนึ่งเดือนเต็ม แม้ปัจจุบันจะสามารถกลับมาบินได้แล้ว แต่ไฟลต์บินก็ไม่ได้มากเหมือนแต่ก่อน เพราะยังบินได้แค่ในประเทศ
ก่อนเล่าต่อ ถึงผลกระทบจากโควิดในช่วงหยุดบินว่า ส่งผลไปถึงรายได้ประจำ หายไปกว่าครึ่งหนึ่ง จนน่าตกใจ
“รายได้หายไปเกินครึ่ง จาก 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน เหลือแค่ 1-2 หมื่นบาทต่อเดือน สวนทางกับรายจ่ายที่มีเข้ามาทุกเดือน ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงการผ่อนชำระหนี้ธนาคารที่กู้มาเกือบ 8 แสนบาท” คุณอุ้ย แจกแจงรายจ่ายที่มี
แม้ธนาคารจะมีมาตรการผ่อนผัน แต่คุณอุ้ย มองว่า หากผ่อนไปเรื่อยๆ แบบนี้ คงไม่ดีนัก เพราะรายรับไม่ได้มากเหมือนเดิม ด้วยเหตุนี้ จึงชวนเพื่อนสนิท คุณหลิว-ธนภัทร ศรีม่วง วัย 29 ปี ที่ทำงานด้วยกัน และได้รับผลกระทบเหมือนกัน มาเปิดร้านขายต้นไม้ออนไลน์ “day.of.gardener” เพื่อหารายได้เสริม แม้ไม่มาก แต่ก็ช่วยลดภาระค่ากินอยู่ในแต่ละวันได้
“เริ่มจากขายกระถางต้นไม้ก่อน สอดรับกับเทรนด์ช่วงนั้น คนนิยมปลูกต้นไม้กันเยอะ กระถางต้นไม้ก็ขายดีมาก ลองปรึกษากับเพื่อนดูแล้ว เราได้เปรียบเพราะอยู่ใกล้แหล่งจำหน่ายกระถางต้นไม้ งั้นไปรับมาขายบ้างมั้ย ลงทุนแค่หลักพันโดยที่เราไปเลือกเอง มีอย่างละแค่ไม่กี่ใบ เจาะรูเองอะไรเอง ซึ่งขายดีมาก ได้ลูกค้าต่างจังหวัดมาอุดหนุนเพียบ” คุณอุ้ย เล่าถึงตอนเปิดร้านแรกๆ
แต่ขายกระถางอย่างเดียว กำไรไม่ได้มาก คุณอุ้ยปรึกษากับคุณหลิวอีกครั้ง ควรเพิ่มมูลค่ากระถางเซรามิกให้มากขึ้น ด้วยการขายกระถางพร้อมต้นไม้
“เรามีความรู้เรื่องต้นไม้อยู่แล้ว เพราะที่บ้านทำสวนเมล่อน ในจังหวัดน่าน ส่วนคุณพ่อจบด้านเกษตรมา เวลามีปัญหา หรือไม่เข้าใจ สามารถโทรไปถามเขาได้ ส่วนบ้านของเพื่อนก็ปลูกต้นไม้ เรามีความชอบเหมือนกัน” คุณอุ้ย ย้ำ
ก่อนบอกต่อ ถึงแหล่งซื้อต้นไม้สำหรับจำหน่ายภายในร้าน ว่า “โชคดีว่าบ้านอยู่แถวดอนเมือง ซึ่งเป็นแหล่งตลาดต้นไม้ จึงสะดวกในการเลือกซื้อ ไปกับหลิวสองคน ช่วยกันเลือกต้นที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นโรค ใบมีจุดหรือมีรามั้ย ถ้าไม่มีให้ยกดูว่ามีราก หรือรากแน่นหรือเปล่า เพราะถ้าไม่มีราก เอาไปส่งต่อให้ลูกค้าก็ตายอยู่ดี หรือถ้าเราเพิ่งเห็นตอนเปลี่ยนดินว่าต้นนี้ไม่มีราก จะยังไม่ขาย แต่จะอนุบาลไว้ก่อนที่โรงเรือนซึ่งตั้งอยู่ในบ้านของหลิว เราจะช่วยกันดูให้ต้นสมบูรณ์แข็งแรงที่สุด พร้อมขนส่งข้ามจังหวัดได้ เมื่อลูกค้าเปิดกล่องพัสดุมา ต้นไม้ควรอยู่ในสภาพดีเหมือนรูปที่ลงไว้” คุณอุ้ย อธิบาย
นอกจากต้นที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว หลักการเลือกต้นไม้ที่สำคัญ คือ ต้องเลี้ยงง่าย ราคาไม่แพงจนเกินไป ลูกค้าซื้อแล้วไม่เสียดายเงิน
“เราจะเน้นขายต้นไม้ราคาไม่แพง เลี้ยงง่าย ไม่รดน้ำสองอาทิตย์ก็ไม่ตาย ส่วนใหญ่เป็นไม้มงคล ขนาดกะทัดรัด ใส่กระถางสวยงาม ต้นทุนแต่ละต้นไม่เท่ากัน มีทั้งถูกและแพง ถัวเฉลี่ยกันไป ส่วนกำไรจะมากจะน้อยก็ยังได้ ขายแบบนี้ครบวงจร ลูกค้าซื้อไปแล้วสามารถนำไปตั้งตามมุมที่ต้องการได้เลย โดยไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว ต่างจากช่วงแรกที่เราขายแค่กระถาง แบบนั้นลูกค้าต้องซื้อดิน ซื้อต้นไม้แยก หลายขั้นตอนมากๆ” คุณอุ้ย บอก
ด้านการขนส่ง คุณอุ้ย เล่าว่า เพื่อนของเธอเก่งเรื่องการแพ็กต้นไม้ จึงแทบไม่มีปัญหาเลย เพราะต้นไม้มีขนาดเล็ก การขนส่งจึงทำได้ง่าย และรัดกุม
“จะคอยถามฟีดแบ็กจากลูกค้าตลอด ว่าต้นไม้ถึงปลอดภัยมั้ย ช่วงแรกมีสะดุดบ้าง ดินหก ใบหลุด จะกลับมาคุยกับเพื่อนตลอด คิดว่าแพ็กดีแล้วนะมาพลาดตรงไหน ก็เอาจุดนั้นมาปรับแก้ จนตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการขนส่งแล้ว โดยหลิวจะทำหน้าที่แพ็กของ ซึ่งเขาชำนาญเรื่องนี้มาก” เจ้าของร้านต้นไม้ เล่า
จากการจำหน่ายต้นไม้ ถึงรายได้ไม่มากเท่าอาชีพแอร์โฮสเตส แต่ก็ขายได้เรื่อยๆ
“รายได้จากการขายต้นไม้ ประมาณ 3,000-5,000 บาทต่อเดือน ยังไม่ได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่รายได้ตรงนี้ ที่มีเข้ามาเกือบทุกวัน ช่วยลดภาระค่ากินอยู่ในแต่ละวันได้ ไม่ต้องไปรบกวนเงินก้อนใหญ่ ดีกว่าไม่มีอะไรเข้ามาเลย” คุณอุ้ย ว่าอย่างนั้น
ก่อนทิ้งท้ายว่า หากอยากขายต้นไม้ออนไลน์ ซึ่งมีคู่แข่งเยอะมาก ต้องรู้จักใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์
“ใช้ช่องทางโซเชียลให้เป็นประโยชน์ได้มากที่สุด เปิดไอจีก่อน หลังจากนั้นสักพัก ให้เริ่มเปิดเพจเฟซบุ๊ก และเปิดไลน์ตามลำดับ หรือแม้แต่เฟซบุ๊กส่วนตัวก็โพสต์ด้วย ต้องจับทุกช่องทาง ให้ร้านเป็นที่รู้จัก ไม่เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเป็นการตัดโอกาสตัวเอง ลูกค้าเรามีอยู่ทุกที่ บางคนไม่เล่นไอจี แต่เล่นเฟซบุ๊ก บางคนไม่ซื้อ แต่ไปแนะนำต่อให้เพื่อนที่สนใจ เป็นไปได้ทั้งหมด ฉะนั้น ใช้โซเชียลให้เป็น”
หากสนใจสามารถเข้าดูรายละเอียด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก/อินสตาแกรม day.of.gardener หรือ แอดไลน์ @767ctqyv
ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์
