หลายคนคงรู้จักกับ “ไบโอติน” กันมาบ้างแล้ว ว่ามีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องการบำรุงผม ลดปัญหาการขาดร่วง และยังช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ทำให้ผิวดูสุขภาพดี ซึ่งเจ้าไบโอตินยังมีประโยชน์ในด้านต่างๆ อีกมากมาย วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับเจ้าไบโอตินให้มากขึ้นกันค่ะ
ไบโอตินคืออะไร?
ไบโอติน หรือ วิตามินเอช หรือ วิตามินบี 7 เป็นวิตามินในกลุ่มวิตามินบี ซึ่งสามารถละลายน้ำได้ สำคัญต่อการเจริญของเซลล์ การผลิตกรดไขมัน การเผาผลาญไขมัน และกรดอะมิโน
ไบโอตินพบในอาหารประเภทใด?
ไบโอตินพบได้มากในอาหารหลายประเภท เช่น ไข่แดง ตับ ไต ยีสต์ น้ำนม ผักและผลไม้สด และพบได้น้อยมากในเนื้อสัตว์ ธัญพืชและแป้ง
ประโยชน์ของไบโอติน
- ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคส
- ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของโปรตีนและไขมัน
- ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ตามปกติ
- ช่วยให้กล้ามเนื้อในกระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยบำรุงผิวหนัง เส้นผม ตา ปากและตับ
อาการของผู้ที่ได้รับไบโอตินไม่เพียงพอ
- อ่อนเพลีย และอาจเจ็บปวดกล้ามเนื้อ
- คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาจมีความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร
- มีอาการทางระบบประสาท เช่น ซึมเศร้า ประสาทหลอน นอนไม่หลับ
- เกิดความผิดปกติของระบบผิว เช่น เป็นผื่น ผิวแห้ง ผิวคล้ำ
- เกิดปัญหาผมขาดหลุดร่วง
- ระบบการเผาผลาญไขมันผิดปกติ ทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดสูง
ผู้ที่เสี่ยงต่อการได้รับไบโอตินไม่เพียงพอ คือ ผู้ป่วยโรคทางพันธุกรรม ผู้ที่รับประทานไข่ดิบจำนวนมาก ผู้ติดสุราเรื้อรัง หรือผู้ป่วยทางเดินอาหาร
แม้ว่าร่างกายของเรานั้นสามารถสร้างไบโอตินขึ้นมาได้ แต่เราก็ต้องหมั่นดูแลสุขภาพของตัวเองควบคู่กันไปด้วย โดยการทานอาหารที่มีไบโอตินให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการไม่พึงประสงค์เมื่อได้รับไบโอตินไม่เพียงพอนะคะ