เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าการประคบร้อนและการประคบเย็นนั้นต่างกันอย่างไร และควรใช้ในกรณีใด ซึ่งการประคบร้อน ประคบเย็น เป็นวิธีหนึ่งในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีการบาดเจ็บที่ไม่รุนแรง เพื่อบรรเทาอาการปวดหรืออักเสบ ทั้งอาการปวดที่เกิดจากการเจ็บป่วย มีไข้ หรือการได้รับบาดเจ็บระหว่างเล่นกีฬา แต่จะเลือกใช้วิธีประคบร้อน หรือประคบเย็นนั้น เรามีข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยามาฝากค่ะ
เมื่อใดควรประคบร้อน
สำหรับการประคบร้อนนั้น ควรทำเมื่อการอักเสบน้อยลงแล้ว หรือมีอาการผ่านไปแล้ว 48 ชั่วโมง ซึ่งสังเกตได้จากไม่มีอาการบวม แดง ร้อน เพื่อลดอาการปวดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่น ปวดตึงของกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า หลัง น่อง ปวดประจำเดือน อาจใช้เจลสำหรับประคบร้อนเย็นแบบสำเร็จรูป ใช้กระเป๋าน้ำร้อน หรืออาจใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน โดยประคบครั้งละ 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
เมื่อใดควรประคบเย็น
และสำหรับการประคบเย็น ควรทำเมื่อมีอาการปวดหรือได้รับบาดเจ็บ เช่น ปวดศีรษะ มีไข้สูง ปวดฟัน ปวดบวมข้อเท้า ข้อเคล็ด เลือดกำเดาไหล หรือ ปวดบวมบริเวณอื่นๆ ที่เกิดจากการได้รับบาดเจ็บหรือเพิ่งมีอาการใหม่ๆ โดยควรประคบด้วยเจลสำหรับประคบร้อนเย็นแบบสำเร็จรูป หรือน้ำแข็ง หรือน้ำเย็นทันที (ภายใน 24-48 ชั่วโมง) ประคบนาน 20-30 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
ทั้งนี้ การประคบร้อนหรือประคบเย็นนั้น ไม่ควรประคบบริเวณที่มีแผลเปิด ไม่ควรประคบร้อนบริเวณที่มีเลือดออก ไม่ควรประคบเย็นกับผู้ที่มีอาการแพ้หรือไวต่อความเย็นมาก เพราะอาจทำให้เกิดผื่น ลมพิษ บวม หรือความดันโลหิตสูงได้ ที่สำคัญ ไม่ควรประคบด้วยความร้อนบริเวณแขน ขา ในผู้ป่วยเบาหวาน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ เกิดเป็นแผลติดเชื้อเรื้อรังได้