(คัดและแก้ไขจากบทความเรื่อง ศึก 2 โลก : ล้านนา-สยามยุทธ โดย สมฤทธิ์ ลือชัย)
พระองค์เป็นโอรสของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) กับชายาซึ่งเป็นราชนิกูลจากวงศ์สุโขทัย
ในโคลงดั้นยวนพ่ายกล่าวว่า
“แถลงปางพระมาตรไท้ สํภพ ท่านนา
แดนดำบลพระอุทย ท่งกว้าง
แถลงปางเกลื่อนพลรบ เรืองเดช
เอามิ่งเมืองได้ง้าง แงบร ฯ”
จากโคลงนี้ทำให้เราทราบว่าพระองค์ประสูติในปี พ.ศ.1974 ณ ทุ่งพระอุทัย ซึ่งสันนิษฐานว่าคือทุ่งหันตราในปัจจุบัน ด้วยเหตุที่พระราชมารดาไปส่งเสด็จพระราชบิดาที่กำลังจะยกทัพไปตีเมืองพระนคร (นครวัด-นครธม)
ตอนทรงพระเยาว์มีนามว่า “พระราเมศวร” เมื่อพระชนม์ได้ 7 พรรษา พระราชบิดาส่งไปครองเมืองสองแคว (พิษณุโลก) พงศาวดารอยุธยาฉบับหลวงประเสริฐฯ กล่าวว่า
“…ครั้งนั้น เห็นน้ำพระเนตรพระพุทธเจ้าพระชินราชตกออกมาเป็นโลหิต”
นักประวัติศาสตร์ตีความประโยคนี้ว่าแคว้นสุโขทัยมีปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ทางอยุธยาจึงได้ส่งพระราเมศวรซึ่งเป็นเชื้อสายสุโขทัยขึ้นมาเพื่อช่วยคลี่คลายปัญหา แต่ผมคิดว่าการขึ้นมาครองสองแควของพระราเมศวรนี้ต่างหากที่ทำให้ฝ่ายสุโขทัยจึงสร้างข่าวลือเรื่องพระพุทธชินราชน้ำพระเนตรตกเป็นโลหิต เพราะมันเป็นสัญญาณว่าอาณาจักรสุโขทัยกำลังจะสูญ
การที่สมเด็จเจ้าสามพระยาส่งพระโอรสมาครองเมืองสองแควนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่กษัตริย์อยุธยาวงศ์สุพรรณภูมิส่งพระโอรสมาครองเมืองนี้ ก่อนหน้านั้นกษัตริย์วงศ์นี้จะส่งพระโอรสไปครองเมืองสุพรรณบุรีในพระนาม “พระอินทราชาหรือเจ้านครอินทร์” แต่พอมาถึงรัชสมัยเจ้าสามพระยา พระองค์กลับส่งพระโอรสมาครองที่เมืองสองแควในพระนาม “ราเมศวร” ซึ่งพระนามนี้เดิมเป็นตำแหน่งรัชทายาทของวงศ์อู่ทอง ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้วพระราเมศวรเป็นเลือดผสมระหว่างสุพรรณภูมิกับสุโขทัยไม่เกี่ยวกับวงศ์อู่ทองแต่อย่างใด แต่การที่เจ้าสามพระยาตั้งนามพระโอรสว่า “ราเมศวร” ก็เพื่อจะสื่อว่านี่คือ “โอรสของพระราม” ซึ่งหมายความว่าพระองค์คือรัชทายาทของอยุธยานั่นเอง
และการที่กษัตริย์อยุธยาส่งรัชทายาทมาอยู่ที่เมืองสองแคว ก็ทำให้เมืองสองแควกลายเป็นเมืองลูกหลวงของอยุธยาไปในที่สุด นี่แสดงว่าสมเด็จเจ้าสามพระยาได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์จากเดิมที่ให้ความสำคัญกับเมืองสุพรรณบุรีมาเป็นเมืองสองแคว และสร้างเมืองสองแควให้ยิ่งใหญ่กว่าเมืองสุโขทัยและเมืองกำแพงเพชรที่อยุธยามาวางรากฐานไว้ก่อนแล้ว
ต่อมาพระบรมไตรโลกนาถขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดาในปี พ.ศ.1991 ด้วยพระชนม์เพียง 17 พรรษา ทันทีที่ขึ้นครองราชย์ก็ทำการใหญ่โดยการย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือแล้วสร้างวัดพระศรีสรรเพชญ์ ณ ที่ตั้งของพระราชวังเดิม ออกกฎหมายที่สำคัญ 2 ฉบับคือ พระไอยการตำแหน่งนาพลเรือนและพระไอยการตำแหน่งนาทหารหัวเมือง ซึ่งกฎหมายนี้กำหนดให้ทุกคนมีศักดินาจากต่ำสุดคือ 5 ไร่ไปถึงสูงสุดคือ 1 แสนไร่ และกฎหมายฉบับนี้ก็ใช้มาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ที่สำคัญคือการปฏิรูปการปกครองเพื่อรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง โดยแยกหน่วยงานราชการออกเป็น เวียง วัง คลัง นา และที่สำคัญคือแยกพลเรือนให้สังกัดมหาดไทยและทหารให้สังกัดกลาโหม ด้วยการปฏิรูปนี้แหละที่ทำให้อาณาจักรสุโขทัย แม้จะเป็นเครือญาติกันก็ตาม ถูกผนวกให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอยุธยา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พระยายุทธิเสถียรไม่พอใจจากนั้นก็หันไปเข้ากับฝ่ายล้านนา
หลังจากพระองค์ครองราชย์ได้ 3 ปี ล้านนาก็บุกมาตีชากังราว แรกๆ ฝ่ายอยุธยาก็แค่ส่งกำลังช่วยเมืองเหนือให้ต้านไว้ (คำว่า “เมืองเหนือ” ในสมัยอยุธยาจนถึงต้นรัตนโกสินทร์หมายถึงอาณาจักรสุโขทัย) แต่ส่วนมากต้านไม่อยู่ สถานการณ์ทำให้ฝ่ายอยุธยาเป็นรอง ต่อมาเมื่อพระยาเชลียงหันไปเข้ากับล้านนาอีกในปี พ.ศ.2003 (พงศาวดารอยุธยาฉบับหลวงประเสริฐฯ) พระองค์จึงไม่อาจประทับที่อยุธยาได้อีกต่อไป จึงเสด็จมาประทับที่เมืองสองแควในปี พ.ศ.2006 และประทับอยู่ถึง 25 ปีจนสวรรคตที่นี่
อัพเดตเรื่องราวทัวร์ศิลปวัฒนธรรม ได้ที่ เพจเฟซบุ๊กทัวร์มติชนอคาเดมี