ยานี ศรีมีชัย ทูตพาณิชย์ไทยประจำเวียงจันทน์ ขนสินค้าไทยไปขายลาว เพิ่มตลาด-เพิ่มโอกาสนักลงทุนไทย

Content พาเพลิน

จากความสัมพันธ์ที่ดีและค่อนข้างแน่นแฟ้นต่อกัน ระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และประเทศไทย จึงเตรียมจัดงานครั้งใหญ่ มหกรรม  “Top Thai Brands 2018” งานแสดงสุดยอดแบรนด์ไทยเครือข่ายไทย-ลาว เพื่อสร้างความโอกาสที่ดีในด้านการค้าระหว่างกัน  โดยจะมีผู้ประกอบการไทย-ลาว กว่า 200 บูทชั้นนำ ที่นำสินค้าคุณภาพและเป็นที่นิยมของคนลาวไปร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับเศรษฐกิจภูมิภาค AEC โดยงานจะมีระหว่างวันที่ 7-11 มีนาคม 2561 ณ ศูนย์แสดงสินค้า LAO ITECC นครหลวงเวียงจันทน์ 

ในโอกาสนี้ “มติชน อคาเดมี” คุยกับ “ยานี  ศรีมีชัย” ทูตพาณิชย์ไทย ประจำนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ถึงการจัดงานครั้งนี้ และโอกาสการลงทุนในประเทศลาว

Q : งานครั้งนี้มีรูปแบบอย่างไร

งานครั้งนี้ชื่อว่า “Top Thai Brads 2018” เป็นการจัดงานแสดงสินค้า โดยนำเอาสินค้าไทยแบรนด์ดังๆ ไปเปิดตัวให้คนลาวรู้จัก รวมถึงคนชาติอื่นๆในลาวด้วยที่เขาสนใจ มีจำนวนกว่า 200 บูท ซึ่งคาดว่าจะมีเงินสะพัดในงานนี้ถึง 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีการจัดเสวนาและบรรยายในหัวข้อที่น่าสนใจหลายเรื่อง มีการแลกเปลี่ยนความเห็นและประสบการณ์ของผู้ประกอบการ นักธุรกิจไทย ที่มาเล่าถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการในลาวได้ฟัง  อาทิ  สมชนะ กังวารจิตต์ นายกสมาคมการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไทย ซึ่งเป็นนักออกแบบระดับโลก มาพูดเรื่องของแพ็กเก็จจิ้ง และยังมีอีกหลายคนที่จะมาให้คำแนะนำในการทำธุรกิจ  เรื่องของการทำแบรนด์ดิ้ง เรามองว่าลาวเองมีวัตถุดิบมากมาย ส่วนทางเรามีไอเดีย มีให้คำปรึกษา เอามาบูรณาการกัน

ในงานยังมี “ขวัญ อุษามณี” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะพูดเรื่องแรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์ “ตั๊ก-มยุรา”  ร่วมออกบูทและพูดคุยเทคนิคการดูแลผิวหน้า,  “บ๊วย-เศรษฐวุฒิ” พูดถึงเส้นทางชีวิตที่มาทำธุรกิจ  ที่ขาดไม่ได้ คือดนตรีเป็นมินิ คอนเสิร์ต ศิลปินทั้งฝั่งไทยและลาวมาร่วมแสดงบนเวที คนลาวชื่นชอบศิลปินไทยมากอยู่แล้ว ซึ่งปีนี้ได้เลือก นนท์ เดอะวอยท์, แจ๊คกี้ เดอะวอยท์, และ ซาร่า เอเอฟ มาร่วมงานบนเวที

 

Q : สิ่งที่ได้จากงานท็อปไทยแบรนด์

ได้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของสินค้าไทย เป็นสินค้ามีคุณภาพและมาตรฐานในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรามีหลายประเทศที่จัดงานไปแล้ว เช่น กัมพูชา เป็นประเทศแรก, สปป.ลาว และต่อไปเป็นเวียดนาม  จีน และ มาเลเซีย 

จริงๆ แล้วเราต้องการสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการลาว ให้มีการค้าขายกันมากยิ่งขึ้น ไม่ได้มองเรื่องส่งออกอย่างเดียว แต่จะเป็นการสร้างเครือข่าย สร้างเน็ตเวิรค์ ด้วยการเดินไปด้วยกัน ขยายมูลค่าการค้าของสองประเทศให้เพิ่มมากขึ้นตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จากการไปเยือนลาว เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 และได้เข้าไปคุยกับภาครัฐ ว่าประเทศไทยและสปป.ลาว จะขยายตัวด้านการค้าให้ได้ 2 เท่าภายใน 5 ปี นับจากปี 2559 อันนี้เป็นบทบาทที่เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะต้องเข้าไปทำ

Q : โอกาสธุรกิจไทยในลาวเป็นอย่างไร

ทาง สปป.ลาว เข้มงวดโครงการต่างๆ มากขึ้น รัฐบาลลาวได้ปรับปรุงกฎหมายการลงทุนเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง เป็นสิ่งขับเคลื่อน ใน สปป.ลาว  รถไฟฟ้าลงมาจากจีนมาทางเหนือของลาวและเข้ามาทางเวียงจันทน์ เชื่อว่าจะทำให้คนจีนทะลักเข้ามาที่ สปป.ลาว ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน เป็นศักยภาพของทาง สปป.ลาว ที่จะขยายตัว

 ส่วนด้านการท่องเที่ยว ก็เกี่ยวข้องมาด้วย สปป.ลาว มีทรัพยากรสมบูรณ์มาก และเขามีนโยบายจะเป็น “แบตเตอรี่แห่งเอเชีย”  ซึ่งทาง สปป.ลาวมีป่าอุดมสมบูรณ์ มีน้ำตกสวยงาม ฉะนั้น ท่องเที่ยวน่าจะขยายตัว โรงแรม สปา ร้านอาหาร  จะมีการขยายตัวและเติบโต และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง กลุ่มของเครื่องใช้ไฟฟ้า แพ็กเกจจิ้ง เครื่องจักร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ไทยเน้นในส่วนของธุรกิจเหล่านี้เป็นพิเศษ ตรงนี้เรามองเห็นโอกาสที่จะสามารถเข้าไปสร้างการเติบโต สร้างโอกาสในการส่งออกต่อไปประเทศที่ 3

กระทรวงพาณิชย์ พยายามเชิญชวนให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาวมากขึ้น รัฐบาลลาวก็ให้ความสำคัญทางด้านการศึกษา โรงพยาบาล การแปรรูปวัตถุดิบ เขาต้องการพัฒนาธุรกิจเหล่านี้ ใครที่อยากเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว แวะมาปรึกษา ศึกษากฎระเบียบให้ครบถ้วน ซึ่งทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มีเจ้าหน้าที่ ผู้เชี่ยวชาญในตลาดนี้คอยให้คำแนะนำในการลงทุน การจดทะเบียน กฎหมายการลงทุน การนำเข้าสินค้า 

การลงทุนมีโอกาสเสี่ยง แต่จะทำยังไงให้เสี่ยงน้อยที่สุด ซึ่งถ้ามาปรึกษาเราตั้งแต่ต้นจะทำให้การลงทุนเป็นไปได้ด้วยดี  ที่ สปป.ลาว มีการขยายทั้งถนน โรงพยาบาล โครงการใหญ่ๆ ยังมีโอกาสเกิด เพราะลาวทุกวันนี้เป็น “แลนด์ลิงค์” โดยทิศเหนือเชื่อมกับประเทศจีน ทิศตะวันออกเชื่อมเวียดนาม-ไทย ทิศใต้เชื่อมกับกัมพูชา เส้นทางคมนาคมลิงค์กันหมด มองเป็นโอกาสของตลาดในการลงทุน ผู้ประกอบการต้องมองให้ออก

Q : ธุรกิจแฟรนไชส์ในลาวดีไหม

 

ไปเป็นด้วยดี ปีที่แล้วมีสมาคมแฟรนไชส์ไปร่วทงานด้วย สามารถขายได้ถึง 10 แบรนด์  ปีนี้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จอย่างมากเหมือนเคย และผู้ประกอบการที่นำบูทไปเปิดตัวเขามีการจัดกิจกรรมส่งเสริม กระตุ้นการขายและทำการตลาดไปด้วย  เพื่อให้คึกคักและได้รับความสนใจ

ประการสำคัญอีกอย่าง คือปีนี้เป็นปีการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเยอะมาก มองศักยภาพ มองเห็นโอกาส ซึ่งเราจะเป็น “เซ็นเตอร์” ให้กับผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการ สปป.ลาว ทำให้เกิดการเชื่อมโยงของธุรกิจต่อไปในอนาคต

 

—————

 

Content Team Matichon Academy
อีเมล์ : [email protected]
โทรศัพท์ 0-2954-3971 ต่อ 2111