Tour Update : ทัวร์สนุกไปกับเรา

ทัวร์ เช็กอินถิ่นอีสาน..ท่องตำนานริมฝั่งโขง จ.อุดรธานี-หนองคาย

ทัวร์นี้สิ้นสุดแล้ว
วันที่ไปทัวร์ 26 พ.ย. 2565 - 27 พ.ย. 2565
จำนวนวัน 2
ติดต่อได้ที่

Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124

Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105

เส้นทางท่องเที่ยว อุดรธานี-หนองคาย
วิทยากร
รศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล

15,900 บาท / คน

สอบถาม

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 (1) : กรุงเทพฯ – อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท –วัดศรีชมภูองค์ตื้อ – หอพระแก้ว(เดิม)

05.00 น.      คณะเดินทางพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 2 เคาน์เตอร์เช็กอินพิเศษ ROW B สายการบินไทยสมายล์ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกเช็กสัมภาระแก่ท่าน

06.55 น.      ออกเดินทางสู่ จ.อุดรธานี โดยสายการบินไทย สมายล์ เที่ยวบินที่ WE2

08.00 น.      ถึง ท่าอากาศยานอุดรธานี นำสัมภาระของท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี (75 กม.)

09.30 น.      ถึง อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูพาน ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นหินทรายที่ถูกขัดเกลาจากขบวนการกัดกร่อนทางธรรมชาติมาเป็นเวลาหลายล้านปี ทำให้เกิดเป็นโขดหินน้อยใหญ่รูปร่างต่างๆ กัน  ทั้งยังปรากฏร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อราว 2,000 – 3,000 ปีมาแล้ว อีกทั้งยังมีการผูกความเชื่อกับนิทานพื้นบ้านเรื่องท้าวบารส-นางอุสา ชมจุดสำคัญต่างๆ  เช่น

  • หอนางอุสา ที่ตั้งตระหง่านเป็นเอกลักษณ์ โดยมีลักษณะเป็นโขดหินลักษณะคล้ายรูปเห็ด ตั้งอยู่บนลานหินโล่งกว้าง สันนิษฐานว่าอาจมีอายุเก่าแก่ถึงวัฒนธรรมทวารวดี โดยถูกดัดแปลงเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางพุทธศาสนา
  • ถ้ำมือแดงถ้ำช้าง เพิงหินธรรมชาติที่พบภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยพบเป็นรูปเส้นหยัก และรูปช้าง
  • ถ้ำพระ เพิงหินเตี้ยๆ ที่ผนังใต้เพิงหินมีการสลักเป็นรูปพระพุทธรูปอยู่รอบด้าน ทั้งพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางสมาธิประทับนั่งอยู่ในซุ้มหน้าบัน, พระพุทธรูปยืนขนาดเล็กยืนเรียงกัน 6 องค์ และพระพุทธรูปปางต่างๆ เรียงรายอยู่ทั่วทั้งผนังของเพิงหิน

                   จากนั้น นำท่านสักการะ ‘พระพุทธบาทบัวบก’ รอยพระพุทธบาทมีลักษณะเป็นแอ่งลึกประมาณ 60 เซนติเมตร ที่มีการสร้างพระธาตุเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาท โดยตัวองค์เจดีย์เป็นทรงบัวเหลี่ยมคล้ายองค์พระธาตุพนม

12.30 น.      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้าน ส.กุ้งเผา

13.30 น.      เดินทางสู่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

14.30 น.      ถึง วัดศรีชมภูองค์ตื้อ วัดแห่งนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ.2105 โดยสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พาทุกท่านสักการะ “พระเจ้าองค์ตื้อ” 1 ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองหนองคาย โดยเป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ ปางมารวิชัย ศิลปะแบบล้านช้างซึ่งประดิษฐานภายในพระอุโบสถ

15.00 น.      เดินทางสู่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

15.20 น.      เข้าชม หอพระแก้ว (เดิม) ภายในหน่วยเรือรักษาความสงบตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย สังกัด          กองทัพเรือ โดยเมื่อหลังเสร็จศึกคราวสงครามกรุงธนบุรี-เวียงจันทน์ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้               อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ที่นี่ ก่อนจะอัญเชิญไปประดิษฐานยังกรุงธนบุรี

16.00 น.      เดินทางกลับตัวเมืองหนองคาย

17.00 น.      รับประทานอาหารเย็น ณ สวนอาหารบ่อปลา วี.เอส. หรือร้าน เลอของ

19.00 น.      เข้าที่พัก อมันตา โฮเทล หนองคาย*** หรือเทียบเท่า จากนั้นให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2565 (2) : พระธาตุหนองคาย – วัดโพธิ์ชัย – อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ – ตลาดท่าเสด็จ – วัดพระธาตุบังพวน – กรุงเทพฯ

08.00 น.      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

09.00 น.      นำท่านสู่ พระธาตุหนองคาย หรือพระธาตุกลางน้ำ เดิมชื่อพระธาตุหล้าหนองเป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำแม่น้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ หรือ   ตำนานพระธาตุพนม จากการสำรวจใต้น้ำของหน่วยโบราณคดีพบว่าองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 17.2       เมตร ย่อมุมที่ฐานและมีความสูงประมาณ 28.5 เมตร หักออกเป็น 3 ท่อน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราว                   พุทธศตวรรษที่ 20–22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวน (ชมจากบนฝั่ง**)

10.00 น.      เดินทางไปยัง วัดโพธิ์ชัย

10.10 น.      วัดโพธิ์ชัย วัดคู่บ้านคู่เมืองของหนองคาย สักการะหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปศิลปะแบบล้านช้าง พร้อมฟังตำนานการสร้างและการอัญเชิญพระพุทธรูป 3 พี่น้อง คือ พระสุก พระเสริม และพระใส จากนครหลวงเวียงจันทน์มายังกรุงรัตนโกสินทร์

11.00 น.      เดินทางไปยัง อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ

11.30 น.      ถึง อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ เป็นอนุสาวรีย์เทิดทูนความดีของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วในการปราบฮ่อ ในปี ร.ศ. 105 (พ.ศ. 2429) เสด็จในกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม รับสั่งให้สร้างอนุสาวรีย์ไว้ที่เมืองหนองคายเพื่อบรรจุอัฐิของผู้ที่เสียชีวิตในการปราบฮ่อ เดิมตั้งอยู่ที่หลังสถานีตำรวจภูธร จังหวัดหนองคาย ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 ทางจังหวัดหนองคายได้รับงบประมาณให้เสริมสร้างอนุสาวรีย์ปราบฮ่อให้สง่างามสมกับเป็นอนุสาวรีย์ของผู้ที่ได้เสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองให้เป็นศรีสง่าแก่เมืองหนองคายสืบไป จึงย้ายมาสร้างใหม่ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด มีคำจารึกที่อนุสาวรีย์ทั้ง 4 ทิศ ทั้งภาษาไทย จีน ลาวและอังกฤษ

12.00 น.      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านแดงแหนมเนือง

13.30 น.      แวะซื้อของฝากที่ ตลาดท่าเสด็จ แหล่งรวมสินค้าเป็นแหล่งซื้อขายผลิตภัณฑ์ จ.หนองคาย เช่น อาหารพื้นเมือง สินค้าโอทอป ของที่ระลึก และเครื่องใช้ต่างๆ นอกจากนี้ริมถนนมีชัยใกล้กับตลาดท่าเสด็จ มีตึกแถวโบราณเรียงรายอยู่ บางอาคารยังอยู่ในสภาพดี ให้เดินชมและถ่ายภาพเล่นอีกด้วย

15.00 น.      ถึง วัดพระธาตุบังพวน ให้ท่านได้สักการะ ‘พระธาตุบังพวน’ พระธาตุเจดีย์เก่าแก่และสําคัญที่สุดของจ.หนองคาย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มโบราณสถานที่เรียกว่า สัตตมหาสถาน ที่สร้างขึ้นตามคติพุทธศาสนา จำนวน 7 แห่ง คือ โพธิบัลลังก์, อนิมิสเจดีย์, รัตนจงกรมเจดีย์, รัตนฆรเจดีย์, อชปาลนิโครธเจดีย์, มุจลินทเจดีย์ และราชายตนะเจดีย์ ซึ่งที่วัดแห่งนี้นับเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง 7 แห่ง

16.00 น.      เดินทางสู่ ท่าอากาศยานอุดรธานี

17.30 น.      ถึง ท่าอากาศยานอุดรธานี เจ้าหน้าที่ให้การอำนวยความสะดวกเช็กสัมภาระแก่ท่าน

19.35 น.      ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย สมายล์ เที่ยวบินที่ WE9

20.50 น.      ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความประทับใจ

                          ***กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า***

***พักเดี่ยวจ่ายเพิ่ม 1,000 บาท