Monster Hunt 2: ความลงตัวในความไม่ลงตัว

Content พาเพลิน

พุทธิพงศ์  อึงคนึงเวช : เรื่อง

หลังจากรู้ว่า Monster Hunt ภาคแรก ได้กลายเป็นหนังอนิเมชั่นระดับปรากฏการณ์ของประเทศจีน ด้วยรายได้เปิดตัว 880 ล้านบาท และสร้างรายได้รวมไปมากกว่า 7,240 ล้านบาท จนทำให้ถูกบันทึกสถิติเป็นหนังจีนที่ทำรายได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ความคาดหวังก่อนเข้าไปดูภาคต่อของหนังเรื่องนี้จึงสูงลิ่ว หวังว่าคงจะสร้างความประทับใจไม่แพ้กับภาคแรก แต่แล้ว สิ่งที่ผมคิดว่าอาจจะน่าอึดอัดอยู่สักหน่อย และกลายเป็นจุดด้อยที่ไม่น่าเกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ กลับเป็นเรื่องของบท และการดำเนินเรื่องที่ยังดูไม่ลงตัวในหลายช่วง

 

หนังเล่าเรื่องหลังจากที่อสูรน้อยวูป้า ตัวเอกของเรื่อง แยกทางกับ เทียนหยิน (จิ่งป๋อหรัน) และ เชี่ยวหนาน (ไป๋ไป่เหอ) ก่อนที่จะเดินทางไปเจอกับ อาตู (เหลียงเฉาเหว่ย) และอสูรผู้ติดตามที่ชื่อ เบนเบน แล้วหลังจากนั้น เรื่องราววุ่นวายจึงเกิดขึ้น เมื่อทั้งอาตู และเบนบน ต้องการค่าหัวของวูป้า แต่ก็ต้องคอยหลบหนีการจำกุมของเจ้าหน้าที่ และขณะเดียวกันก็ต้องอำพรางวูป้าให้พ้นจากการตามล่าของจอมอสูร

ตัดมาที่ฟากของเทียนหยิน และเชี่ยวหนาน ทั้งคู่เริ่มคิดถึงวูป้าจนทนไม่ไหว และตัดสินใจออกตามหาวูป้า จนได้มาพบกับผู้การหยุน หัวหน้าทีมล่าปีศาจผู้หวังจะได้ตัววูป้าเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ จนนำมาสู่การสู้รบปรบมือกันในตอนท้าย

 

สำหรับผม การดำเนินเรื่องตั้งแต่ช่วงแรกจนถึงกลางเรื่อง ออกจะดูประดักประเดิด และไม่สมเหตุสมผลเกินไปหน่อย แม้จะเข้าใจว่า หนังต้องการนำเสนอองค์ประกอบแบบแฟนตาซีคอมเมดี้ ตั้งใจใส่ไดอะล็อก และฉากเกินจริงให้ดูตลกขบขัน แต่ผมคิดว่า เมื่อมันถูกนำมารวมกับบท และการดำเนินเรื่องที่เน้นไปที่ประเด็นเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกัน และตั้งคำถามต่อชาติกำเนิดที่แตกต่างระว่าง มนุษย์ – ปีศาจ ยังไงหนังก็ควรทำได้ดีกว่านี้ เพราะเมื่อไม่เป็นอย่างนั้น มันกลับทำให้รู้สึกว่า ความตลกเกินจริงที่จะทำให้ดูสนุกก็ยังไปไม่สุด ขณะประเด็นที่ต้องการเน้นย้ำก็ยังไม่แน่นเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะเส้นเรื่องที่เดาได้ง่ายด้วย ซึ่งพอรวมกันแล้ว ภาพรวมของหนังจึงดูด้อยลงอย่างที่ไม่ควรจะเป็นเลย?

แต่ส่วนที่ทีมงานทำได้ดีมากๆ แล้ว ของหนังเรื่องนี้ คือซีจีครับ ที่ออกมาแลดูเนียนตามากๆ และทำให้เหล่าอสูรแต่ละตัวดูน่ารัก น่าติดตามไปตลอดเรื่อง โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่องอย่างเจ้าอสูรน้อยวูป้า ที่ทำให้คนใจแข็งอย่างผมยังตกหลุมรักตามไปด้วย เพราะนอกจากเจ้าหัวไชเท้าน้อยนี้จะน่ารักแล้ว มันยังดูลงตัว ท่าทางน่าเอ็นดูเข้ากับตัวละครอื่นที่เป็นมนุษย์ได้ดีมากๆ ถ้าหากใครมีลูกหลาน หรือกำลังหาภาพยนตร์ที่ดูได้ทั้งครอบครัว ผมแนะนำหนังเรื่องนี้อย่างไม่ลังเลยครับ แต่อาจต้องติดใจบ้างช่วง ที่บทและการดำเนินเรื่องแลดูขรุขระนิดหน่อย เท่านั้นเอง

 

Content Team Matichon Academy
ติดต่อ อีเมล์ : [email protected]
         โทรศัพท์ 0-2954-3971 ต่อ 2111