บทเรียนจาก “เสือดำ”
1.3K
คอลัมน์ Market-think โดย สรกล อดุลยานนท์
สมัยเด็ก ผมชอบนิยายเรื่อง “เพชรพระอุมา” ของ “พนมเทียน” มาก
ชอบเรื่องราวการผจญภัยในป่า
ชอบ “รพินทร์ ไพรวัลย์” พระเอกในเรื่อง
เนื้อหาเกือบทั้งหมดเดินเรื่องอยู่ในป่า
พระเอกต้องต่อสู้กับผู้ร้าย ผีสางนางไม้ และสัตว์ป่า
วันนั้น “เสือ” คือสัตว์ป่าที่น่ากลัว
เป็นเหมือน “ผู้ร้าย” ตัวหนึ่งในเรื่อง”รพินทร์” ยิงเสือโคร่งตาย
…เก่ง
ผมเชื่อว่าแฟนนิยาย “เพชรพระอุมา” ในอดีตหลายคนคิดคล้าย ๆ กัน
กาลเวลาผ่านไปหลายสิบปี ใครจะไปนึกว่า “มุมมอง” ต่อเรื่องนี้จะเปลี่ยนไปแบบ “หน้ามือ” เป็น “หลังเท้า”
“เพชรพระอุมา” ยังเป็นนิยายที่อ่านสนุก
แต่ต้องทำความเข้าใจ “วิธีคิด” ของคนในอดีต
เข้าใจบริบทของยุคนั้นว่า ทำไมตัวละครจึงทำแบบนั้น
ถ้าไม่เข้าใจ และใช้มุมมองของคนรุ่นนี้ตัดสิน
“เพชรพระอุมา” จะเป็นนิยายที่ไม่น่าอ่านทันที
เพราะวันนี้ “เข้าป่าล่าสัตว์” ไม่ใช่กิจกรรมของ “ลูกผู้ชาย”
การเอาเปรียบ “สัตว์” ใช้อาวุธที่เหนือกว่าไล่ล่ามันเพื่อความสนุกส่วนตัว
ย่อมไม่ใช่ “ลูกผู้ชาย” อย่างแน่นอน
กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่าแรงขึ้นเรื่อย ๆ
แม้แต่ผมที่เคยชอบนิยายเรื่องนี้ยังรู้สึกเช่นนั้น
คนที่เคยชอบยังเปลี่ยนเลย
ไม่แปลกที่ “คนรุ่นใหม่” จะรังเกียจเรื่องการเข้าป่าสัตว์
ยิ่งนานวันความรู้สึกเช่นนี้ฝังรากลึกในใจคนมากขึ้น
ดังนั้น เมื่อเกิดข่าว “เปรมชัย กรรณสูต” นักธุรกิจใหญ่เจ้าของ “อิตาเลียนไทยฯ” ล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและพบซากเสือดำที่ใกล้สูญพันธุ์ ซากเก้ง ซากไก่ฟ้าหลังเทา ในที่เกิดเหตุ
คนไทยจึงเกิดอารมณ์โกรธแค้นยิ่งกว่าข่าว “นาฬิกาป้อม” หรือ “อดีตผบ.ตร.” ยืมเงิน
“เปรมชัย” กลายเป็น “ผู้ร้าย”
ยิ่งกว่า “เสือโคร่ง” ใน “เพชรพระอุมา”
กระแสที่ถล่มเขาแรงกว่า “ฆาตกร” ฆ่าคนตาย
ไม่ต้องพูดถึงภาพลักษณ์ขององค์กรที่ยับเยินป่นปี้
ในมุมหนึ่ง เป็นเพราะเรื่องกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า
แต่ที่ทำให้เรื่องนี้แรงขึ้น เพราะคนที่ทำผิดเป็น “นักธุรกิจใหญ่”
ยังไม่ทันที่ “เปรมชัย” ขยับอะไรเลย
กระแสสังคมมองไปที่การใช้อิทธิพลปิดคดี
มุมนี้น่าสนใจมาก
เพราะแสดงว่ากระแสสังคมมองว่า “นักธุรกิจใหญ่” เป็น “อภิสิทธิ์ชน”
ลัดขั้นตอน จ่ายใต้โต๊ะ ใช้อิทธิพลปิดคดี ฯลฯ
นี่คือ ประเด็นที่นักธุรกิจต้องระมัดระวัง
ยิ่งโลกยุคนี้เป็นยุคโซเชียลมีเดีย ที่นอกจากจะกระจายข่าวได้รวดเร็ว
ความเห็นที่แสดงออกมาก็ร้อนแรง
การค้นข้อมูลเก่า ๆ ก็ทำได้ง่ายดาย
“เปรมชัย” หลังถูกจับไม่นาน ก็ปรากฏภาพเก่าที่ไปเที่ยวป่าเมืองกาญจน์ เมื่อปี 2559
อีกพักหนึ่งก็มีรูป “เปรมชัย” กับเก้าอี้ทำงานที่มีหนังเสือคลุมอยู่
ถ้ามองเรื่องนี้แบบเป็น “บทเรียน”
ผมคิดว่านักธุรกิจใหญ่หรือองค์กรธุรกิจต้องตระหนักว่าภาพของ “นักธุรกิจ” ไม่ใช่เป็น “ภูมิคุ้มกัน” ที่ดีสำหรับกระแสสังคมไทยในวันนี้
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความแตกต่าง ทางชนชั้นที่นับวันจะยิ่งห่างออกไปเรื่อย ๆ หรือเปล่า
หรือเป็น “ประสบการณ์” ที่เจอ
การใช้ “อภิสิทธิ์” ของ “คนรวย” บ่อย ๆ
หรือว่าเป็นเรื่อง “ความหมั่นไส้” ของคน
เวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา “นักธุรกิจ”
จะเจอกระแสหนักกว่าปกติ
ยิ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่ หรือยิ่งรวย ยิ่งต้องระวัง
เพราะถ้าพลาดขึ้นมา ผลกระทบจะแรงมาก
ด้านหนึ่ง ผมคิดว่านักธุรกิจหรือองค์กรธุรกิจต้องคืนกลับให้สังคมมากขึ้น
อย่า “เอา” มากเกินไป
และต้อง “ให้” แบบอย่าหวังผลตอบแทนมาก
สร้าง “ภูมิคุ้มกัน” ให้กับตัวเอง
อีกด้านหนึ่งที่สำคัญกว่า
นักธุรกิจต้องอย่าเดินบนเส้นทาง “สีเทา” หรือใช้ “วิธีคิด” แบบเดิมที่พยายามหลบตามช่องว่างของกฎหมาย
หรือรู้ว่าผิดกฎหมายแต่ก็ทำไปก่อน
ถ้าโดนจับได้ค่อยใช้เงินแก้ปัญหาทีหลัง
บทเรียนจาก “เปรมชัย” ชัดเจนที่สุด
วันก่อนอาจจะทำได้
แต่วันนี้อันตรายอย่างยิ่ง
“ได้” ไม่คุ้ม “เสีย”
เขียนโดย ประชาชาติธุรกิจ
- รู้จัก Matichon Academy
- Course น่าสนใจ
- ตารางเรียน
- ทัวร์สนุกไปกับเรา
- Content พาเพลิน
- Food Story อาหาร
- Review พาชิมพาส่อง
- Recipes สูตรอาหาร
- Tips & Tricks สารพันเกร็ดน่ารู้
- Travel ท่องเที่ยว
- Culture ศิลปวัฒนธรรม
- Journal ข่าวสาร
- Talk with Matichon Academy บทสัมภาษณ์
- Business ธุรกิจ
- Human of Office ชีวิตมนุษย์เงินเดือน
- Money เงินทองต้องรู้
- Lifestyle ไลฟ์สไตล์
- Health สุขภาพดีๆ
- Technology
- Entertainment บันเทิง
- Event อีเวนต์
- Promotion โปรโมชั่น
- บริการของเรา
- ติดต่อเรา