“ลองยัง” น้ำพริกสูตรเด็ด “กะปิปลาทูแห้ง-หมึกหยอง” ขายดี 5,000-10,000 กระปุก/เดือน
-
ผู้เขียน กนกพร หมีทอง เผยแพร่ วันอังคารที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2560 น้ำพริก อาหารพื้นเพของคนไทย ทานคู่กับผักสด ผักต้ม อร่อยอย่าบอกใคร มีหลายสูตรหลายรสชาติให้เลือกตามแต่พื้นที่ แต่ใครจะคิดว่าอาหารง่ายๆ ที่เราสามารถทำทานเองได้ที่บ้านจะสามารถสร้างรายได้เข้ากระเป๋าได้มากมายขนาดนี้
คุณฟาง- ชโลธร กอพัฒนกุล อายุ 27 ปี เจ้าของน้ำพริก แบรนด์ “ลองยัง” เธอใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ที่ร่ำเรียนมาคิดสูตรน้ำพริกแปลกใหม่จนได้มาถึง 4 สูตร ขายผ่านเฟซบุ๊กและตัวแทนจำหน่ายกว่า 40 ราย ผลิตในจังหวัดแพร่ เปิดขายมา 3 เดือนกว่า
เดิมทีก่อนทำแบรนด์น้ำพริก เธอเคยทำมาแล้วหลายอาชีพทั้งขายของออนไลน์ ทำแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และขายเฟอร์นิเจอร์ไม้สักในลักษณะทำตามออร์เดอร์ ควบคู่ไปกับการขายน้ำพริก แต่ดูเหมือนว่าการขายน้ำพริกจะเป็นอาชีพหลักของเธอมากกว่า
คุณฟาง เล่าอีกว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีพี่ที่รู้จักบอกให้เธอช่วยคิดสูตรน้ำพริกขายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ บรรจุกระปุกแก้วติดฉลากภาษาอังกฤษทั้งหมด เป็นน้ำพริกแบบที่คนไทยคุ้นเคยมีขายทั่วไป เธอจึงทำและขายไปด้วยแต่ไม่ได้คิดจริงจังอะไรจึงเลิกไป
แต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว พี่สนิทคนเดิมมาคุยกับเธออีกครั้งว่า ไม่คิดจะรีแบรนด์น้ำพริกใหม่หรือ ทำขายให้คนไทยได้กิน เรียนทางด้านอาหารมาต้องใช้ประโยชน์มันสิ คุณฟางบอกว่า พูดหลายรอบมากจนต้องคิดทบทวนอีกครั้ง
“เราเรียนทางนี้มา ชอบกินด้วย ชอบขายของอยู่แล้ว อาหารก็เป็นสินค้าที่ขายง่ายทำไมไม่คิดลองดูอีกสักครั้ง จึงเริ่มใช้ความรู้ที่เรียนมาคิดสูตรใหม่ เปลี่ยนแพ็กเกจใหม่ เป็นกระปุก PET Food Grade แบบฝาดึง เราพยายามขุดความรู้ที่เคยเรียนมาใช้ให้มากที่สุด ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร กระบวนการผลิต จนได้น้ำพริกทั้ง 4 สูตร ใช้เวลาคิดไม่นาน แต่ใช้เวลาปรับสูตรให้ลงตัวประมาณ 1 เดือน ตอนนี้กำลังขอจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเพื่อยื่นขอ เครื่องหมาย อย.ค่ะ”
เมื่อได้สูตรน้ำพริกมาแล้ว สินค้าจะสมบูรณ์ได้นั้นต้องมีชื่อแบรนด์ คุณฟางตั้งชื่อแบรนด์น้ำพริกของเธอว่า “ลองยัง” อธิบายว่าเหมือนเป็นคำเชิญชวนให้คนมาลองชิมน้ำพริกสูตรใหม่ที่ไม่มีใครเคยทานมาก่อน เหมือนเป็นการถามลูกค้าว่าลองหรือยัง ควบคู่ไปกับสโลแกน ลองยัง ลองเลย อร่อยทุกอย่าง
ปัจจุบันน้ำพริกแบรนด์ลองยังมีทั้งหมด 4 สูตร ดังนี้
- น้ำพริกกะปิปลาทูแห้ง เป็นสูตรที่ขายดีที่สุด นำเนื้อปลาทูไปอบ ผัดกับกะปิ พริก ปรุงรส เป็นน้ำพริกที่ไม่หมือนน้ำพริกกะปิแบบเดิมๆ ที่เคยทานกัน
- น้ำพริกหมึกหยอง เป็นสูตรใหม่ใช้เนื้อหมึกหยองอย่างดี ผัดกับพริก กระเทียม หอมแดง มีรสชาติหวานนิดๆ ของหมึกหยองรวมกันกับความเผ็ดของพริก ตัดเค็มนิดๆ จากการปรุงรส ทำให้รสออกมากล่มกล่อม ลงตัว
- น้ำพริกหมูกระจก เกิดจากการนำของขึ้นชื่อของจังหวัดแพร่อย่างหมูกระจกมาทำเป็นน้ำพริก ด้วยสูตรและรสชาติเฉพาะตัว นำหนังหมูมาทอดให้กรอบ ผัดกับพริก หอมแดง กระเทียม
- น้ำพริกปลาสลิด น้ำพริกสูตรใหม่ เผ็ดไม่มากเด็กทานได้ เหมาะกับผู้ที่ทานอาหารรักสุขภาพ นำปลาสลิดมาป่น อบแห้ง ผัดกับพริก กระเทียม มีลักษณะป่นสามารถคลุกข้าวทานได้เลย
สิ่งสำคัญที่ทำให้น้ำพริกมีคุณภาพและอร่อย คือ วัตถุดิบ ในการซื้อทุกครั้งคุณฟาง จะลงไปคัดสรรด้วยตัวเองจากแหล่งประจำที่มีคุณภาพ และสะอาด
“ค่อนข้างใส่ใจกับวัตถุดิบมาก เช่น กะปิเลือกซื้อจากแหล่งที่สะอาด ของแท้อย่างดี หนังหมูที่ใช่ทอดหมูกระจกใช้อย่างดี ปลาสลิดปลาทูซื้อเจ้าประจำที่มั่นใจคุณภาพ ทำเหมือนทำให้คนในครอบครัวทาน”
อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญของการผลิตน้ำพริกที่ใส่ใจ คือ หลังจากผัดนำพริกแล้วจะนำน้ำพริกไปอบเพื่อไล่น้ำมัน ฆ่าเชื้อด้วยความร้อนเพื่ออายุการเก็บรักษาที่ยาวนานขึ้น โดยไม่ต้องใส่วัตถุกันเสีย นอกจากนั้น ในขั้นตอนการบรรจุยังเติมก๊าซไนโตรเจนเข้าไปเหมือนที่ใช้ในถุงขนมทำให้น้ำพริกไม่เหม็นหืน กรอบนาน อร่อย
คุณฟาง เสริมว่า ทุกสิ่งทุกอย่างคิดและทำตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ใส่ใจพิถีพิถันให้เหมือนกับลูกค้าทุกคนคือคนในครอบครัวของเธอ
ด้านเงินลงทุน คุณฟาง บอกว่าหนักไปที่เครื่องปิดฝากระปุก เพราะใช้เป็นกระปุกพลาสติกเกรดสำหรับใส่อาหารโดยเฉพาะ มีฝา 2 ชั้นด้านในเป็นฝาดึง ฝาอะลูมิเนียมคล้ายฝาปลากระป๋อง ปิดแน่นหนาต้องใช้เครื่องปิดเท่านั้น และมีฝายางด้านบนอีกชั้น มีข้อดีคือขนส่งง่าย ไม่แตกหัก ลูกค้าสามารถพกพาติดตัวไปทานได้ง่าย นำขึ้นเครื่องเดินทางไปต่างประเทศก็ได้
ถึงแม้จะใช้เงินลงทุนที่ค่อนข้างสูง แต่ราคาน้ำพริกนั้นไม่ได้สูงตาม เป็นราคาที่คนทั่วไปอย่างเราๆ สามารถซื้อทานได้สบาย ราคาเท่ากันหมดทุกสูตรอยู่ระหว่างกระปุกละ 79-90 บาท มียอดขายสูงถึง 5,000-10,000 กระปุกต่อเดือน รายได้ 3-4 แสนบาทต่อเดือน แต่ตัวเลขนี้เป็นรายได้ที่ยังไม่หักต้นทุน
ส่วนเหตุผลที่ขายผ่านตัวแทนจำหน่าย เพราะอยากให้ทุกคนมีรายได้ และกระจายพื้นที่วางจำหน่ายน้ำพริกให้สามารถหาซื้อได้ทุกที่โดยไม่เสียค่าจัดส่ง
“มีคนถามว่า ทำไมไม่คิดเอาน้ำพริกไปวางจำหน่ายในห้างหรือร้านสะดวกซื้อบ้าง ถ้าเอาเข้าห้าง เขาต้องหักเปอร์เซ็นต์การตลาด ค่าวางสินค้า 30-50% งั้นเราเอาเปอร์เซ็นต์ตรงนั้นมาแบ่งให้คนในประเทศเรามีรายได้ไม่ดีกว่าหรอ ช่วยให้หลายคนมีรายได้ มีชีวิตที่ดีขึ้นมันเป็นความสุขของการทำธุรกิจ ฟางเลยไม่คิดนำสินค้าเข้าห้าง หรือร้านสะดวกซื้อเลย เพราะจะทำให้ตัวแทนขายยาก เราจะไม่ทำร้ายคนที่ร่วมสร้างธุรกิจของเรามาตั้งแต่แรก นี่คือสัญญาใจที่ให้กับตัวแทนทุกคน”
สำหรับช่องทางการขายปลีกลูกค้าสามารถติดต่อซื้อได้ที่ตัวแทนในพื้นที่ได้เลย มีอัพเดทรายชื่อตัวแทนไว้ในเพจหลักของแบรนด์ หรือสอบถามเข้ามาได้ที่เพจของแบรนด์ Long Young Chili Paste หรือ ไลน์ @longyoung ถ้าสนใจสมัครตัวแทนสามารถติดต่อเข้ามาได้เช่นกัน การสมัครตัวแทนไม่เสียค่าสมัครใดๆ มีเพียงการเปิดบิลเป็นค่าสินค้า เริ่มต้นลงทุนเพียงแค่ 1,980 บาท
- รู้จัก Matichon Academy
- Course น่าสนใจ
- ตารางเรียน
- ทัวร์สนุกไปกับเรา
- Content พาเพลิน
- Food Story อาหาร
- Review พาชิมพาส่อง
- Recipes สูตรอาหาร
- Tips & Tricks สารพันเกร็ดน่ารู้
- Travel ท่องเที่ยว
- Culture ศิลปวัฒนธรรม
- Journal ข่าวสาร
- Talk with Matichon Academy บทสัมภาษณ์
- Business ธุรกิจ
- Human of Office ชีวิตมนุษย์เงินเดือน
- Money เงินทองต้องรู้
- Lifestyle ไลฟ์สไตล์
- Health สุขภาพดีๆ
- Technology
- Entertainment บันเทิง
- Event อีเวนต์
- Promotion โปรโมชั่น
- บริการของเรา
- ติดต่อเรา