พอพูดถึงคำว่า ‘มินิมอล’ หลายคนคงคิดถึงคอนเซ็ปต์น้อยแบบมีอะไร เรียบแต่โก้ ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความเรียบง่ายผ่านการจัดวางสิ่งของน้อยชิ้น แลดูชิค ดูคูล รู้สึกถึงความปลอดโปร่งเป็นระเบียบ ปราศจากความวุ่นวาย นี่แหละใช่เลย! ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่ใครๆ ก็อยากได้ แต่ทว่าเมื่อตื่นขึ้นมาพบกับโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว เรายังคงต้องเดินทางออกจากบ้านไปทำงานเพื่อหาเงิน ต้องเร่งรีบเดินทาง เบียดเสียดรถราที่วิ่งขวักไขว่บนท้องถนน แออัดแย่งกันสั่งอาหารตอนมื้อเที่ยง นั่งบนโต๊ะทำงานที่เคลียร์เอกสารไม่เคยหมดสักที และใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เพื่อเดินทางกลับถึงบ้านเพื่อพักผ่อน แต่สุดท้ายพบว่าต้องนอนพักกับห้องที่รกๆ เพราะหมดแรงแล้ว ที่จะจัดห้องให้ดูเรียบเก๋แบบมินิมอล
ความเป็นมินิมอลเป็นการแสดงความงามที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ โดยลดทอนองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออกไป และถูกนำมาใช้ในงานศิลปะ การตกแต่งภายใน สถาปัตยกรรม และวงการแฟชั่น ผู้คนจึงไม่เพียงชื่นชมแต่ยังซึมซับแนวคิดนี้มาปรับใช้ในการอยู่อาศัยและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปให้เหลือเฉพาะสิ่งที่ต้องการจริงๆ เท่านั้น เช่น อาศัยอยู่ในบ้านหรือห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์เท่ากับจำนวนผู้อยู่อาศัย มีสิ่งของเครื่องใช้และเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น ไม่ประดับตกแต่งข้าวของมากมาย ไม่สะสมทรัพย์สิน เป็นต้น หากเราลองนำแก่นของการใช้ชีวิตแบบมินิมอลมาปรับใช้กับตัวเอง จะพบว่าการอยู่กับสิ่งที่จำเป็นที่อาจจะดูน้อย แต่ทำให้การใช้ชีวิตของคุณมีคุณภาพมากขึ้น และอาจทำให้คุณ “ได้มากกว่า” ที่เคย โดยคนที่อยากลองใช้ชีวิตแบบมินิมอล สามารถเริ่มจาก 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
จัดลำดับความสำคัญและความจำเป็น
ใครชอบช็อปยกมือขึ้น เวลาที่เห็นป้าย “Sale” แล้วหยุดขาตัวเองไม่ได้ สมองมันสั่งว่า ของมันต้องมี ของมันต้องใช้ เห็นสินค้าใหม่หรือเห็นใครมีอะไรก็อยากได้ ต้องไปหาซื้อมาไว้บ้าง เหล่านี้นับว่าเป็นพฤติกรรมที่นำไปสู่การถมข้าวของไว้เต็มบ้าน ทั้งถุงทั้งกล่องวางระเกะระกะ และยังมีเสื้อผ้าข้าวของมากมายในตู้ที่ไม่เคยแกะห่อออกมาใช้ด้วยซ้ำ ลองเอามารวมกันแล้วคิดเป็นเงินเล่นๆ ถ้าคุณเปลี่ยนของสะสมพวกนี้เป็นเงินเก็บคุณอาจได้เงินก้อนโตก็ได้นะ เพราะฉะนั้นการเริ่มจัดลำดับความสำคัญและความจำเป็นในชีวิตทำให้รู้ว่าอะไรควรซื้อไม่ควรซื้อ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหายอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนทุกคน คือ ไม่รู้เงินหายไปไหนหมด? ได้ดีเลยทีเดียว
จัดระเบียบ
ระหว่างที่เริ่มรู้ว่าตัวเองมีความจำเป็นต้องใช้อะไรบ้าง ก็ควรนำมาจัดระเบียบเพื่อแยกสิ่งที่ใช้และสิ่งที่ไม่ใช้ออกจากกัน ถึงตอนนี้จะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมแล้ว “ความรกที่แท้ทรู” เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าของกระจุกกระจิกทั้งหลายแบ่งออกเป็นกอง เพื่อเก็บแจกจ่ายหรือทิ้ง ส่วนสิ่งของที่มีคุณค่าต่อความทรงจำก็สามารถเก็บใส่กล่องให้เป็นระเบียบ สิ่งที่ไม่ใช้แต่ยังใหม่ก็นำไปบริจาคหรือลองเอาไปขายออนไลน์ตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือขายในเพจของตนเองดู ต้นทุนไม่เสีย หน้าร้านก็ไม่มี คุณอาจได้อาชีพเสริมที่ทำเงินได้แบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ช่วงแรกอาจจะมีเสียดายแต่เชื่อเถอะว่าถ้าไม่ใช่ทองหรือของมีค่าก็ไม่มีราคาคุ้มค่าให้เก็บหรอกนะ
เลือกซื้ออย่างคุ้มค่าใช้จ่ายอย่างจำเป็น
เมื่อข้าวของที่จำเป็น อยู่เป็นที่เป็นทางแล้ว จะพบว่าสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่มีระเบียบขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาหาของ ทำความสะอาดง่ายขึ้น และถ้าของบางอย่างกำลังจะหมดก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องซื้ออะไร ดังนั้นเมื่อเริ่มเห็นว่าชีวิตจัดระเบียบได้ลงตัวแล้ว การเลือกซื้อสิ้นค้า และใช้จ่ายให้คุ้มค่าก็มีความจำเป็นด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่นำเสนอสินค้าสไตล์มินิมอล มีทั้งแบรนด์ราคาสูง ราคาปานกลาง หรือจะเลือกซื้อสินค้าที่มีดีไซน์ดีมีคุณภาพแต่ราคาไม่แพง ก็เลือกได้ตามรสนิยมและความมั่นคงทางการเงินของคุณ เพียงแต่ยึดหลักการเลือกซื้อสิ่งของต่างๆ ตามความจำเป็น ความคงทน ความคุ้มค่าและราคาที่เหมาะสม หรือแม้กระทั่งเรื่องใกล้ตัวที่ต้องพบเจอในชีวิตประจำวันอย่างการจ่ายบิลต่างๆ ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต จิปาถะมากมาย อย่างต่ำๆ ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมต่อบิล 10 บาทแล้ว เหล่านี้ถ้าเรามีการจัดระเบียบอย่างดี เลือกจ่ายบิลแบบไม่เสียค่าธรรมเนียม เงินเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ก็สามารถแปรผันเป็นเงินออมได้มิใช่น้อยเช่นกัน
เก็บออมเพื่อความมั่นคง
เริ่มรู้สึกแล้วใช่ไหมว่าการใช้ชีวิตเท่าที่จำเป็นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ไม่ต้องอด หรือต้องเพิ่มความตระหนี่ขี้เหนียวแต่อย่างใด คุณยังสามารถกินอาหารอร่อย ใส่เสื้อผ้าแฟชั่นที่ชอบ ใช้ของที่อยากใช้ บนพื้นฐานของการใช้ชีวิตที่สามารถอยู่ได้ด้วยสิ่งของที่จำเป็น ซึ่งจะรู้ว่าความต้องการในชีวิตแท้จริงนั้นไม่ได้มากมายอะไรเลย และยังส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อที่ลดลงทำให้มีเงินเหลือเก็บ สามารถออมไว้ใช้ยามจำเป็นหรือฉุกเฉินได้มากกว่าที่เคยเป็นด้วย รวมไปถึงการสร้างความมั่นคงในชีวิตเพื่ออนาคต ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่จำเป็นสำหรับทุกคนด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าเรารู้จักการวางแผนการเงิน และบริหารเงินให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกองทุน ประกัน หรือลงทุนในหุ้นก็ดี ล้วนเป็นการลงทุนซึ่งจะต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ แต่นั่นเป็นไอเดียที่ดีแล้ว ที่คุณเริ่มคิดหาแหล่งลงทุนเพื่อให้เงินของคุณงอกเงย และสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต
ดังนั้นการปรับใช้ชีวิตแบบมินิมอลให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองนั้น จึงไม่ได้ยึดติดอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าเครื่องใช้ดีไซน์เรียบง่ายเท่านั้น แต่อยู่ด้วยการมีสิ่งของเท่าที่จำเป็น และการใช้ชีวิตอย่างมีแบบแผน และคุ้มค่าต่างหาก ดังนั้นหากคุณสามารถนำความชอบมาปรับใช้กับไลฟ์สไตล์แบบมินิมอลของตัวเองให้เป็น ก็นับว่าเป็นคนที่ ‘ใช้ชีวิตอย่างฉลาด’ แล้วความสุข ความสมดุล และความมั่นคงก็อยู่ไม่ไกลแน่นอน
ขอบคุณบทความจาก ME by TMB