ขั้นตอนพื้นฐานของการชิมไวน์นั้นไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายในคราเดียวกัน 3 ขั้นตอนสั้น ๆ คือ “ดู-ดม-ดื่ม”
ดู ด้วยการใช้มือจับที่ก้านของแก้วไวน์พร้อมมองสีของไวน์ด้วยความสุนทรีย์ เคล็ดลับคือห้ามจับที่ก้นแก้ว เพราะมือที่สัมผัสนั้นจะทำให้อุณหภูมิของไวน์เปลี่ยน
ดม ขั้นตอนที่สองที่ใช้ประสาทสัมผัสจากจมูก สูดกลิ่นความหอมของไวน์ด้วยการยกแก้วขึ้นมาจดที่ปลายจมูก แล้วหลับตาพร้อมสูดกลิ่นของไวน์ที่ให้ความอบอวลของความอโรมามากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะไปขั้นตอนถัดไป ขอให้ลองแกว่งแก้วไวน์ให้ไวน์ได้สัมผัสกับอากาศ พร้อมสูดดมไวน์อีกครั้งหนึ่ง
ดื่ม ขั้นตอนสุดท้ายถูกใจนักดื่มไวน์ ที่ต้องค่อย ๆ จิบอย่างละเมียดละไม พร้อมอมไว้สักพักเพื่อให้ประสาทสัมผัสได้รับรู้และแยกรสชาติของไวน์ จากนั้นค่อย ๆ กลืน
คำถามที่ตามมานั้นคือเพราะอะไรทำให้ไวน์ที่มาจากขวดเดียวกันมีรสชาติที่ต่างกัน คำตอบไม่ยากก็คือ “รูปทรงของแก้วไวน์”
แก้วที่มีกระเปาะกว้าง มีพื้นที่ให้ไวน์ได้รับออกซิเจนเพิ่มก็จะทำให้ได้ไวน์มีรสชาติอย่างหนึ่ง แก้วทรงสูงที่เด่นในเรื่องของการรับรู้กลิ่นอโรมาก็จะให้รสชาติของไวน์อีกแบบหนึ่ง ส่วนแก้วที่มีปากกระเปาะแคบแต่ฐานแหลมก็จะให้รสสัมผัสของไวน์ที่แตกต่างกันออกไป
เลือกแก้วไวน์ดี เข้าถึงได้มากกว่า
“รูปทรงของแก้วไวน์” ที่ถูกออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์นั้นไม่ได้ให้เกิดความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถเปลี่ยนรสชาติของไวน์ได้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นไวน์ที่ถูกเทออกมาจากขวดเดียวกันก็ตาม