ปิ่นโตเถาเล็กเพิ่งกลับจาก ประเทศมาเลเซีย บ้านใกล้เรือนเคียง รู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก เพราะเดี๋ยวนี้มาเลเซียมีของอร่อยให้ลิ้มลองมากมายหลากหลายสัญชาติอย่างน่ามหัศจรรย์
เมื่อสิบกว่าปีก่อน บ้านเมืองเขาไม่ค่อยมีศูนย์การค้าใหญ่ๆ ให้เดินเล่นมากนัก แต่เดี๋ยวนี้น่ะหรือ ปีนังและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกัวลาลัมเปอร์เต็มไปด้วยศูนย์การค้ามหึมา เข้าห้างนี้ไปต่อห้างโน้นได้ทั้งวันไม่เบื่อ
ยิ่งอาหารการกินมีให้เลือกตั้งแต่ถูกจนแพงเลย ทั้งตลาดโต้รุ่งที่เรียกว่า Hawker Center ทั่วทุกมุมเมือง ไปจนถึงร้านอาหาร Fine Dining เลิศหรู อยากกินโอมากาเสะแบบญี่ปุ่น อาหารจีนขึ้นเหลา อาหารอิตาเลียน สเต๊กเฮาส์ชั้นดี มีให้เลือกทั้งนั้น
อาทิตย์นี้ปิ่นโตเถาเล็กมีร้านอร่อยในมาเลเซียมาปรนเปรอแฟนๆ ถึง 2 ร้านด้วยกัน ร้านแรกไม่นึกว่าจะมีของดีสัญชาตินี้อยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ได้เลย เพราะเป็นอาหารสไตล์ฮ่องกง
ขอพาแฟนๆ มาที่ บังซาร์ (Bangsar) เขตที่พักอาศัยเก่าแก่ย่านชานเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์เพียง 4 กิโลเมตร บริเวณนี้กำลังพัฒนากลายเป็นเมืองทันสมัยอย่างรวดเร็ว ทั้งตึกรามบ้านช่องและร้านรวง อีกทั้งยังเป็นแหล่งพักอาศัยของชาวต่างชาติซึ่งมาทำงานในกัวลาลัมเปอร์ด้วย
ย่านการค้าของบังซาร์ที่ฮอตฮิตติดอันดับได้รับความนิยมเรียกว่า Telawi เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้งกินดื่ม มีผับ คาเฟ่ ร้านบิสโตรทันสมัย และร้านอาหารเกิดใหม่มากมายหลากหลายสัญชาติ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีร้านซึ่งปิ่นโตเถาเล็กชื่นชอบมากคือ ฮ่องกง ฮอตพอต (Hong Kong HotPot) ร้านสุกี้สไตล์ฮ่องกง ก็อยู่ในย่านบังซาร์นี้เอง ในอาคารเล็กๆ ชื่อว่า Telawi Square ตัวร้านแบ่งเป็น 2 ส่วน ตรงชั้นล่างซึ่งตั้งโต๊ะยื่นออกมาในระเบียงด้านนอกตึก และที่ต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสาม (ที่นี่เรียก Level 2) อีกต่างหาก (ส่วนชั้นสองเป็นร้านอื่นๆ เช่นร้านรับตัดเย็บเสื้อผ้า)
บรรยากาศในร้านเหมือนอยู่ที่ฮ่องกงเพราะมีการตั้งโต๊ะติดกันเป็นพืด ส่วนเราจองห้องส่วนตัวแต่ยังต้องเบียดเสียดกันหน่อยเพราะมากันถึง 9 คน จะสั่งอะไรให้จดในเมนูแผ่นกระดาษ มีช่องให้ใส่จำนวนจานที่ต้องการในแต่ละเมนูเลย (มีภาษาอังกฤษด้วย)
ในเมนูมีน้ำซุปให้เลือก 6 ชนิด ซึ่งเราสั่งน้ำซุป 2 ชนิดแบ่งครึ่งอยู่ในหม้อเดียวกัน มี น้ำซุปกระดูกหมู เรียกว่า Sakura Pork bone น้ำใสแต่รสชาติเข้มข้นมาก ส่วนอีกอย่างเราเลือก น้ำซุปเสฉวนใส่หมาล่า (Szechuan Spicy Soup) เผ็ดร้อนจนเหงื่อไหล
ของอร่อยมีมากมาย ทั้ง เนื้อยูเอสพรีเมียมมันแทรกเป็นริ้วลายหินอ่อน (ราคามี 2 ขนาด 58/98 ริงกิต (RM)) ลิ้นวัวญี่ปุ่น (38/74 RM) หมูเบิร์กเชอร์ (เป็นต้นตำรับหมูดำ) (16/29 RM) หมูซากุระพรีเมียม (15/25 RM) เนื้อแกะมองโกเลีย (35/58 RM) ลูกชิ้นหมึก (12/21 RM) เกี๊ยวกุ้ง (10/18 RM) ตับหมู (8/14 RM) ชิ้นหนาๆ โตๆ สดๆ
เนื้อปลาเก๋า (16/30 RM) ติดหนังชิ้นหนาและสดหนึบมาก กุ้งลายเสือ (19/35 RM) ตัวโตๆ ผักต่างๆ ชื่อแปลกๆ เช่น Yao Mak จะอ่านว่ายาวมากหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆ ซึ่งผักทุกชนิดสดกรอบจริงๆ และเรายังสั่ง เส้นอูด้ง เส้นบะหมี่กรอบ ฟองเต้าหู้ทอดเป็นแผ่นม้วนยาว (16/25 RM) เหมือนที่ฮ่องกง ส่วนน้ำจิ้มนั้นคือความสนุกสนาน ให้ผสมเอาเอง 7-8 อย่าง ปรุงเผ็ดมากเผ็ดน้อยได้ตามใจชอบ
มื้อนี้เราสั่งแล้วสั่งอีก พอกินเสร็จสั่งคิดเงินปรากฏว่าจ่ายแค่คนละประมาณ 700 บาทเท่านั้น นี่ถ้าไปกินที่ฮ่องกง ของดีขนาดนี้ต้องอย่างต่ำคนละกว่า 1,000 บาทแน่นอน นี่คือมหัศจรรย์ในมาเลเซียเลยทีเดียว ร้านฮ่องกง ฮอตพอตเปิดตั้งแต่บ่าย 4 โมง จนถึงดึกๆ ต้องจองล่วงหน้ามิฉะนั้นไม่มีโต๊ะแน่ (เพราะวันนั้นมีป้ายจองเต็มทุกโต๊ะเลย)
ร้านโปรดของปิ่นโตเถาเล็กอีกร้านหนึ่ง เข้าข่ายประเภทของดีประจำท้องถิ่น เหมือนซาลาเปาทับหลีที่ชุมพร นั่นก็คือ ข้าวมันไก่แห่งเมืองอิโปห์ (Ipoh) เมืองเอกของ รัฐเประ หรือเปรัก (Perak) ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เมืองนี้อยู่ระหว่างทางไปปีนัง สามารถจัดเป็นทริปท่องเที่ยวเดียวกันได้ ที่นี่มีโถงถ้ำอันงดงามให้ดูชมหลายแห่ง
ใจกลางย่านเมืองเก่าอิโปห์ มีอยู่ถนนหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยร้านข้าวมันไก่ คนขับรถชาวมาเลย์ของเราเป็นคนช่างกิน พามาแวะที่ร้านดังระดับตำนาน เปิดมานานกว่า 60 ปี มีชื่อว่า Lou Wong เรียกได้เต็มๆ ว่า Restoran Lou Wong Tauge Ayam อยู่ในตึกแถวห้องหัวมุมขนาดใหญ่ แต่เราไปนั่งในตึกส่วนขยายเป็นห้องปรับอากาศ (อยู่ถัดจากร้าน Onn Kee) มีลูกค้าแน่นขนัดเลย
เมนูดังร้าน Lou Wong ก็คือ ไก่ต้มสับติดกระดูก (11-21-33 (ครึ่งตัวกิน 3 คน)-43-53-66 (ทั้งตัว) RM) หนังบางสีเหลืองหอมมัน เนื้อสะโพกนุ่มหนึบ เนื้อหน้าอกนุ่มและชุ่มฉ่ำไม่แห้ง ราดน้ำซอสที่มีส่วนผสมของ น้ำมันงากับซีอิ๊ว รสอมหวาน อารมณ์คล้ายกินข้าวมันไก่สิงคโปร์ แต่มีน้ำราดที่ออกหวานหอมอร่อยมาก กินคู่กับ ข้าวมัน (2 RM) หรือ ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ (2 RM) ก็ได้
ชื่อร้านนี้เต็มๆ มีคำว่า Tauge หรือ เต้าเหย่ ในภาษามาเลย์ แปลว่าถั่วงอก เพราะที่นี่มีทีเด็ดคู่กับข้าวมันไก่คือ ผัดถั่วงอก (3-5-10-12-15 RM) ใหญ่อวบอ้วน ราดด้วยน้ำซีอิ๊วหอมหวานเช่นกัน ช่างเข้ากันดีเสียนี่กระไร วันนั้นผมซัดไก่สับไปคนเดียวเกือบครึ่งตัวเลย ทุกวันนี้ชาวคณะนักกินแหลกยังฝันถึงร้าน Lou Wong อยู่ตลอด
นอกจากนี้ ยังมี ไก่อบ หนังกรอบหอม สับติดกระดูกเช่นกัน เหมือนกินไก่อบ ร้านเลี้ยงฟ้าใหม่ สุราษฎร์ธานี ร้านโปรดของผม และก็มี ซุปลูกชิ้นปลากับลูกชิ้นเนื้อ ผัดผักกาดขาว ขาหมู กับเมนูอื่นๆ อีกหลายอย่างให้เลือก
พวกเราชาวคณะรวมถึงลูกเล็กเด็กแดงต่างตกลงกันว่าคราวหน้าจะต้องกลับมาเยือนอิโปห์กินข้าวมันไก่อีกให้ได้ ต่อให้นั่งรถมาจากกัวลาลัมเปอร์เพื่อมากินก็ยอม
มาเลเซียยังมีของดีให้ลิ้มลองอีกมาก รับรองว่าโอกาสหน้าจะมีร้านอร่อยแนะนำภาคสองต่ออีกแน่นอน
ฮ่องกง ฮอตพอต (Hong Kong HotPot) ที่ตั้ง Lot 9&10, Level 2, Telawi Square, no.39 Jalan Telawi 3, Bangsar Baru Kuala Lumpur, Malaysia 59100 โทร +60 12-320 6071 เปิดบริการ 16.00-24.00 น. ทุกวัน
แนะนำ ฮอตพอตหรือสุกี้สไตล์ฮ่องกง Lou Wong (Restoran Lou Wong Tauge Ayam) ที่ตั้ง 49, Jalan Yau Tet Shin, 30000 Ipoh, Perak, Malaysia โทร +60 5-254 4199 เปิดบริการ 10.30-24.00 น. ทุกวัน แนะนำ ข้าวมันไก่กับผัดถั่วงอก ราดซอสน้ำมันซีอิ๊ว (กินกับเส้นก๋วยเตี๋ยวได้)
ที่มา อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน
ผู้เขียน ปิ่นโตเถาเล็ก (ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์)