คุณแดง บุญมี หรือ ลุงแดง เจ้าของไร่พริกไทยสดพันธุ์ซีลอน “ไร่ลุงแดง บ้านเผ่าไทย” บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 8 บ้านเผ่าไทย ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก โทร. (084) 906-0967 เกษตรกรที่ผันตัวเองจากเดิมที่เคยทำไร่ข้าวโพด ทำนา มาปลูกพริกไทย เพื่อจำหน่ายเป็นพริกไทยสด สร้างรายได้นับแสนบาทต่อปี
ลุงแดง ย้อนกลับไปว่า เดิมก็เหมือนเพื่อนเกษตรกรทั่วไปในแถบนี้ที่จะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และทำนาข้าว ได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็ต้องทำทุกปี ซึ่งทำมานานมาก แต่ก็ได้เพียงพอใช้จ่าย เมื่ออายุมากขึ้นก็มองหาพืชชนิดใหม่ที่ทำงานหนักน้อยลง ปลูกครั้งเดียวแต่เก็บเกี่ยวได้นาน
ลุงแดง เล่าว่า เมื่อ 3 ปีก่อนได้เจอเพื่อนเกษตรกรปลูกพริกไทยอยู่ จึงได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องการปลูกพริกไทย และทราบว่าเป็นพืชที่ปลูกเพียงครั้งเดียว แต่เก็บเกี่ยวได้นานนับ 10 ปี แล้วยังให้ผลผลิตเป็นอย่างดีในพื้นที่โซนนี้ ที่สำคัญราคาพริกไทยสดมีราคาค่อนข้างดีและมีความต้องการมากพอสมควร
การลงทุนปลูกในครั้งแรก ลุงแดงได้ขอซื้อพันธุ์กลับมาทดลองปลูกเพียงไม่กี่ต้นเพื่อนำมาทดลอง แต่ผลพบว่าพริกไทยที่นำมาปลูกให้ผลผลิตเป็นอย่างดี ติดผลดก ใช้กินในครัวเรือน แบ่งเพื่อนบ้าน จากนั้นจึงตัดสินใจปลูกแบบจริงจัง จำนวน 360 หลัก โดยใช้ระยะปลูก ระหว่างต้น 2 เมตรxระหว่างแถว 2.5 เมตร และในปีที่ผ่านมาได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 200 หลัก ซึ่งขยายพื้นที่เพิ่มออกไปอีก ประมาณ 1,000 หลัก
ลุงแดง เล่าย้อนกลับไปว่า ตอนที่ปลูกพริกไทยครั้งแรกนั้น กว่าจะเตรียมแปลงและระบบน้ำเสร็จราวปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงหน้าแล้งและอากาศหนาว แต่ลุงแดงก็ลองปลูกดู เพราะดูแล้วว่าพริกไทยค่อนข้างทนแล้งได้ แต่ขอให้มีน้ำช่วยก็ปลูกเลย พอปลูกไป
แม้อากาศจะแล้งแต่เมื่อต้นพริกไทยได้น้ำอย่างสม่ำเสมอพบว่า ต้นพริกไทยอยู่ได้ แตกยอดมาใหม่ใบเขียว จับมัดขึ้นเสาไปเรื่อยๆ จนสูงท่วมหลัก ซึ่งหลักในตอนนั้น ใช้เสาสูง 2.50 เมตร ฝังเสาลงดินไป 50 เซนติเมตร ประมาณ 9 เดือน หลังปลูก ต้นพริกไทยก็ออกดอกเต็มไร่เลย ผลผลิตดีและสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังปีที่ 2 ขึ้นมา
ต่อมาก็ลองขยายพันธุ์ดูบ้าง ก็มีปักชำ โดยตัดกิ่งมาเป็นท่อนๆ ชำในถุงดำแล้วทำกระโจมมุงหลังคาพลาสติกอบไว้สัก 1 เดือน แต่เปอร์เซ็นต์การรอดไม่ค่อยดีนัก จะได้ต้นพันธุ์แค่ 50% เท่านั้น ก็มาเปลี่ยนวิธีการขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่งซึ่งนำขุยมะพร้าวแช่น้ำไว้สัก 1 คืน บีบน้ำให้พอหมาด แล้วยัดใส่ถุงขนาดเล็ก ใช้มีดกรีดถุงผ่าครึ่งถุง นำไปประกบตามข้อพริกไทย เพราะส่วนข้อจะเป็นส่วนที่จะออกราก เพียง 30-45 วัน รากพริกไทยก็จะเดินเต็มถุง พอรากเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีน้ำตาลก็จะเหมาะสมในการตัดส่งขายหรือมาอนุบาลชำลงถุง แต่มีข้อจำกัดคือ สามารถตอนได้เฉพาะหน้าฝนเท่านั้น จึงจะได้ผลดีเกือบ 100% ลุงแดง กล่าว
หลังจากลงเสาเสร็จเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือ วางระบบน้ำ ทางไร่เลือกใช้ท่อ PE สาเหตุที่ใช้ท่อ PE เนื่องจากทนแดด ทนฝนได้ดี เหยียบได้ไม่แตกหัก อายุการใช้งานนานกว่าท่อ PVC โดยท่อใหญ่ที่ต่อจากปั๊มสำหรับจ่ายน้ำแต่ละแถว ใช้ท่อ PE ขนาด 60 มิลลิเมตร และต่อเข้าแถวด้วยท่อ PE ขนาด 20 mm. 2 bar. จากนั้นส่วนที่ต่อเข้าเสาแต่ละเสา ใช้ท่อ PE mini เมื่อเตรียมเสร็จเรียบร้อย ก็จัดการนำต้นพันธุ์ที่เตรียมไว้มาลงปลูกได้เลย โดยปลูกเสาละ 4 ต้น มัดลำต้นพริกไทยติดกับหลักไว้ เพื่อให้ต้นโตเกาะหลักขึ้นไปเรื่อยๆ
ลุงแดงมุงซาแรนพรางแสง 60 เปอร์เซ็นต์ ให้แปลงปลูกพริกไทยใน 1 ปีแรก โดยอธิบายว่า ปัจจุบันอากาศบ้านเราร้อนมาก การปลูกพริกไทยจึงมีต้นทุนเพิ่ม คือต้องมุงซาแรน เพื่อช่วยพรางแสงให้ เพื่อลดความร้อนจากแสงแดดให้ต้นพริกไทยและรักษาความชื้นแต่หลังจากที่ต้นพริกไทยปลูกไปได้สัก 1 ปี ก็จะรื้อซาแรนพรางแสงออกไป เพราะพริกไทยสามารถปรับสภาพได้ และทรงพุ่มสูงถึงยอดเสาปูนซึ่งจะมีร่มเงาขึ้นมาทดแทน
ที่มา | บันทึกไว้เป็นเกียรติ เทคโนโลยีชาวบ้าน |
---|---|
ผู้เขียน | ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ |