ชื่อสามัญ : หางตะเข้, ว่านไฟไหม้, Star cactus, aloe
เป็นไม้ล้มลุก รูปร่างหน้าตาประหลาด ชื่อน่าฉงนนี้ มีประโยชน์เหลือคณานับ คำว่า Aloe นี้ มาจาก “allal” ภาษากรีกโบราณ หมายถึงว่า มีรสขมและฝาด จากคัมภีร์ไบเบิ้ล (JOHN 19:39) ได้จารึกไว้ว่า น้ำสำหรับชโลมพระศพของพระเยซูนั้นมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ แสดงว่าผู้คนในยุคสมัยนั้นย่อมรู้คุณค่า ประโยชน์มากมายหลายด้านของว่านชนิดนี้เป็นอย่างดี
ว่านหางจระเข้ มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่แถบเมดิเตอร์เรเนียนและทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา แพร่กระจายพันธุ์ไปทั่วโลก พบว่ามีมากมายกว่า 300 สายพันธุ์ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำต้นมักเป็นกอเตี้ยๆ ใบรูปร่างคล้ายหางจระเข้ อวบน้ำสีเขียวหรือเทา บางพันธุ์อาจมีลายจุดขาวประปราย บางพันธุ์ก็ไม่มี ขนาดของใบก็ต่างกันไป ขอบใบมีหนามแหลมแข็งสั้นๆ ภายในกาบใบมีลักษณะเป็นวุ้นสีเขียวใส เย็น ดอกออกเป็นช่อตั้งตรงขึ้นมาระหว่างซอกใบก้านช่อดอกยาว ตัวดอกดูคล้ายหลอดยาวสีส้มอมเหลือง พอดอกแก่ก็จะกลายเป็นต้นอ่อน เรียกว่า ตะเกียง สามารถนำไปเพาะเป็นต้นใหม่ได้
สรรพคุณและการใช้ประโยชน์…ว่านหางจระเข้ จัดเป็นพวกสมุนไพรครอบจักรวาลตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ คนไทยเราใช้ประกอบเข้าเป็นยาดำ แก้ไข้ได้สารพัดโรค จนมีคำกล่าวว่า “แทรก เป็นยาดำ” ไงครับ นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น สมองไวได้จดสิทธิบัตรการค้นพบสาร Aloctin A ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน บำบัดรอยแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ไว้เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2521
เนื้อเจลสีเขียวใส ภายในมีคุณสมบัตินานัปการ เช่น นำมาขยำชโลมเส้นผม บำรุงหนังศีรษะและรากผม ใช้ทาลดความมันบนใบหน้า ลดรอยขูดขีด จุด สิว ฝ้า กระ ลดอาการปวดแสบปวดร้อนจากการฉายรังสีเอ็กซเรย์ หรือถูกแดดเผา เพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นให้เซลล์ผิวหนัง จึงมีการนำวุ้นจากว่านหางจระเข้ไปสกัดทำเป็นเครื่องสำอางราคาแพงๆ หลายยี่ห้อในขณะนี้ หรือยังใช้ทาแผลสด จากรอยถูกของมีคมบาด รักษาน้ำกัดเท้า ทาส่วนที่หยาบแข็งกระด้าง เช่น บริเวณข้อศอก หัวเข่า ส้นเท้า ฯลฯ จะทำให้คลายตัวนุ่มเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ การดื่มน้ำสกัดจากว่านหางจระเข้ ยังมีสรรพคุณดีต่อร่างกายมากมาย เช่น
– รักษาแผลในกระเพาะอาหาร เคลือบลำไส้
– ช่วยหล่อลื่นข้อต่อกระดูก
– เสริมสร้างการทำงานของระบบเมตาโบลิซึ่ม
– กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอของร่างกาย
– ป้องกันและลดการเสี่ยงของอาการเส้นเลือดฝอยในสมองแตก
– ช่วยผลักดันการสร้างคอลลาเจน, อีลาสติน กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว
– มีสารแอนทราควิโนน (anthraquinone) ที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ฯลฯ
วิธีการปลูก…ว่านหางจระเข้ ขยายพันธุ์โดยการใช้ ตะเกียง หรือต้นอ่อนที่เกิดจากปลายช่อดอก หรือแยกหน่อ ที่บริเวณโคนต้นไปปลูก เมื่ออายุได้ถึงระยะขยายพันธุ์ ก็จะมีหน่อเล็กๆ โผล่ขึ้นมารอบๆ ต้นแม่ รอให้มีขนาดโตสักหน่อย มีใบ 5 ใบ หรือ 6 ใบ จึงตัดไปชำลงในถุง กระถาง หรือลงแปลงเลย ให้ขุดหลุมไม่ต้องลึกนัก เพราะว่านชนิดนี้มีระบบรากตื้นๆ เท่านั้น ความลึกของหลุมแค่ 20 เซนติเมตร ก็น่าจะพอ กว้าง 30×30 เซนติเมตร โรยปุ๋ยคอก แกลบดิบ กาบมะพร้าวสับ ใบไม้แห้งลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันดี ปลูกต้นกล้าลงไป กลบดินให้แน่น รดน้ำแต่พอดีๆ อย่าให้แฉะเกิน เพราะปกติเจ้านี่เขาไม่ค่อยชอบน้ำมากอยู่แล้ว เดี๋ยวรากจะเน่าเสียก่อน
ถ้าหากเป็นการปลูกด้วยตะเกียง ก็ทำเหมือนกัน แต่ปลูกด้วยตะเกียงอาจต้องรอนานกว่าปลูกด้วยวิธีแยกหน่อ
ที่มา | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | สมิทธิชัย สุกปลั่ง |