เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน ที่ ห้องโถงมติชนอคาเดมี สโมสรศิลปวัฒนธรรมจัดเสวนา “รัฐประหาร 2490” โดยพล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ และ ศ.ดร.ธเนศ สุวรรณ ร่วมเสวนา และดำเนินรายการโดย เอกภัทร์ เชิดธรรมธร
พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ กล่าวว่า ผลกระทบจากรัฐประหาร 2490 หลังจอมพล ป.พิบูลสงคราม ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างสมบูรณ์จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งในฝ่ายผู้มีอำนาจ ผู้เสียอำนาจและผู้ที่อยากได้อำนาจ จนเกิดความไม่สงบในพื้นที่บ้านเมือง ส่งผลไปยังระบบเศรษฐกิจแบบวงกว้างทั้งในประเทศและนอกประเทศ วันที่ 1 ตุลาคม 2491 พล.อ.เนตร เขมะโยธิน หัวหน้าคณะนายทหารกบฏเสนาธิการ เกิดความไม่พอใจคณะรัฐประหารที่เข้าไปก้าวก่ายและแสวงหาผลประโยชน์ในกองทัพ จึงได้วางแผนการยึดอำนาจ สุดท้ายถูกจับศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 3 ปี หลังจากนั้นจึงทำให้เกิดสงครามการต่อสู้ที่เป็นไปอย่างรุนแรงจากกบฏวังหลังหลวงโดยมีนายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้นำ
ด้าน ศ.ดร.ธเนศ สุวรรณ กล่าวว่า รัฐประหารนำมาสู่อุปสรรคในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยแสดงถึงความเหนียวแน่นและความต่อเนื่องของระบอบอำนาจนิยม และคณาธิปไตยในการเมืองไทย การใช้กรอบรูปแบบความคิดเดิมวนเวียน โดยขาดการยอมรับกติการะหว่างชั้นผู้นำ ซึ่งผู้นำไม่สามารถประนีประนอมหรือเป็นพันธมิตรกันระหว่างกลุ่มต่างๆ โดยระบอบการปกครองแบบใดก็ตามไม่ว่าจะระบอบแบบใหม่ หรือสังคมนิยม ถ้าจะทำให้มีความก้าวหน้าได้ ต้องยอมรับกติกา แพ้ก็ต้องแพ้ ต่อรองได้ก็ต่อรอง ไม่ใช่ล้มกติกา ระบบราชการไทยจึงไม่เสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง สังคมไทยจึงไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้