ต้นจาก เป็นพืชจำพวกปาล์ม และเป็นปาล์มเพียงชนิดเดียวที่เป็นพืชในป่าชายเลน และมีลำต้นอยู่ใต้ดิน นับเป็นพืชเก่าแก่มากชนิดหนึ่งที่มีซากดึกดำบรรพ์อายุถึง 70 ล้านปี ต้นจาก พบได้ทั่วไปในเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในบริเวณน้ำจืด และน้ำกร่อย ที่มีน้ำเค็มขึ้นถึง มักจะขึ้นเป็นดงขนาดใหญ่ เรียกว่า ป่าจาก หรือ ดงจาก ต้นจากสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินโคลน ตามป่าชายเลน หรือบริเวณริมคลองที่มีไม้ให้ร่มเงาปะปนอยู่ด้วย มักอยู่ในช่วงที่มีน้ำจืดและน้ำกร่อยปนกัน แต่บนบกที่น้ำท่วมถึงก็พบจากได้บ้างเช่นกัน หากดินไม่แห้งแล้งนานจนเกินไป
การใช้ประโยชน์
ต้นจาก เป็นพืชที่คนไทยรู้จักกันมานาน และสามารถนำต้นจากมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ตั้งแต่ใบจนถึงผล ใบจาก มีลักษณะคล้ายใบมะพร้าว แต่มีความเหนียว และกว้างกว่า ทำให้สามารถใช้นำมาเย็บเป็นตับ เรียกว่า ตับจาก แล้วนำไปมุงหลังคา กันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะใช้งานไปนาน ใบจากจะกรอบเปลี่ยนจากสีเขียวเข้มเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล กระทั่งเกือบเป็นสีดำ แต่ก็ยังคงกันฝนและแดดได้จนกว่าจะแห้งกรอบและผุไป
ใบจาก ใช้ทำหมวก ที่เรียก เปี้ยว ท่อนจากใช้ทำเชื้อเพลิง ส่วนใบจากอ่อน ตากแห้งใช้มวนยาสูบ ห่อขนมต้ม ทำที่ตักน้ำ เรียก หมาจาก ตอกบิด เสวียนหม้อ และที่สำคัญคือใช้ห่อ ขนมจาก ซึ่งเป็นขนมที่ทำจากแป้ง น้ำตาล และมะพร้าว ผสมกันจนเหลวได้ที่ แล้วนำห่อด้วยใบจากปิ้งบนไฟจนมีกลิ่นหอม แม้อาจมีการใช้ใบมะพร้าวมาห่อ แต่ก็ไม่อร่อยเท่าใช้ใบจาก นอกจากนั้น ใบจากยังใช้ต้มน้ำดื่มแก้อาการท้องร่วงได้อีกด้วย…
ช่อดอก นำมาทำแกง หรือกินกับน้ำพริก ก้านช่อดอกปาดเอาน้ำหวานมาทำเป็นน้ำตาลได้ หรือนำไปหมักเป็น เหล้า และน้ำส้มสายชู กลีบดอกนั้นนำไปเป็นส่วนผสมของชาสมุนไพรได้ ผลจากที่สุกแล้ว จะมีเนื้อในเมล็ดเป็นเยื่อสีขาว ใส นุ่ม มีรสหวาน นิยมรับประทานเป็นของหวาน เรียก ลูกจาก ผลอ่อนที่แตกหน่อ จะมีจาวอยู่ข้างใน นำมารับประทานได้เช่นเดียวกับจาวตาล หรือจาวมะพร้าว
การทำน้ำส้มสายชู ในการทำน้ำส้มสายชู นั้น จะมีขั้นตอนทุกอย่างคล้ายกับการทำน้ำตาล แต่ไม่ต้องนำน้ำหวานขึ้นเตาเพื่อเคี่ยว เพียงแต่หมักไว้ในไห ประมาน 10 วัน ก็จะเกิดกรดน้ำส้มและนำมาใช้ได้
การใช้ส่วนต่างๆ มาประกอบอาหาร ผลอ่อนอายุประมาณ 4 เดือน ของจาก สามารถนำมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ เพื่อทำเป็นผักดอง หรือเป็นผักแกง ส่วนผลจากอายุประมาณ 5-7 เดือน นั้น เนื้อในผลจากก็สามารถนำมากินได้โดยทำขนมหวานน้ำเชื่อม ลักษณะคล้ายลูกชิดแต่มีขนาดใหญ่กว่า นอกจากนี้ ช่อดอกอ่อนอายุประมาณ 1 เดือน สามารถนำมาหั่น ทำเป็นผักจิ้มน้ำพริกโดยการลวกหรือกินสดๆ และสามารถทำเป็นผักดองกับน้ำส้มที่ทำจากต้นจากใช้กินเป็นผักดองขนมจีน ซึ่งเป็นที่นิยมของท้องถิ่นภาคใต้
หนมจาก ที่ไม่จากไปไหน
ขนมจาก เป็นขนมไทยที่มาจากภูมิปัญญาของคนโบราณสมัยก่อน คือ การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงการใช้ประโยชน์จากต้นไม้ในการใช้เป็นภาชนะห่ออาหารหรือขนมชนิดนั้นๆ ขนมจาก เป็นภูมิปัญญาของคนโบราณ ได้ขนมไทยแท้ๆ ได้จากแป้งที่โม่จากข้าวเหนียว มะพร้าวที่ให้กะทิ และน้ำตาลที่ได้จากอ้อย หรือมะพร้าว ขนมจากนั้นมีหลายๆ สูตร แต่ส่วนมากเป็นขนมจากที่ผสมจากมะพร้าวอ่อน และมะพร้าวทึนทึก กับแป้งข้าวเหนียวดำและน้ำตาลปี๊บ
ขนมจาก เป็นขนมพื้นบ้านที่มีประวัติยาวนานหลายชั่วอายุคน โดยจะใช้ใบจากในการห่อขนม นั่นก็เป็นสาเหตุว่าทำไมถึงชื่อว่า ขนมจาก นั่นเอง
ทำไม ต้องขนมจาก
ขนมจาก คือ ขนมหวานสำหรับกินเล่นชนิดหนึ่ง เป็นขนมพื้นบ้านโบราณในย่านจังหวัดสมุทรปราการ (เมืองปากน้ำสมุทรปราการมาก่อน) และบริเวณที่ติดชายฝั่งทะเลอื่นๆ ภายหลังมีขายในระหว่างเทศกาลงานไหว้พระสมุทรเจดีย์ประจำปี แต่ละปีผู้ที่ไปไหว้พระ หรือชมงานออกร้านในเทศกาลดังกล่าวมักซื้อเป็นของติดไม้ติดมือไปฝากญาติ
ขนมจากทำด้วยแป้งข้าวเหนียว ส่วนมากนิยมใช้ข้าวเหนียวดำ มะพร้าวทึนทึกขูดหยาบๆ น้ำตาลมะพร้าว และเกลือเล็กน้อย ที่เรียกว่า ขนมจาก เพราะเป็นขนมที่ห่อด้วยใบจากสดที่ได้จากต้นจาก ซึ่งเป็นพืชในตระกูลปาล์มชนิดขึ้นเป็นกออยู่ตามป่าชายเลนและบริเวณริมน้ำเค็ม ขนมจากนั้นทำให้สุกด้วยการย่างไฟคล้ายการเผาข้าวหลาม แต่ใช้ความร้อนน้อยกว่า และรสชาติของความอร่อยได้มาจากกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบจากที่ห่อขนมปิ้งนั่นเอง!
กินหนมจาก แล้วต้องจากกันจริง
คงเป็นแค่คำพูดที่ชอบพูดกันเล่นๆ จนกลายเป็นกระแสพูดกันจนฮิตติดปาก และพูดต่อๆ กันมาเรื่อยๆ หรือเอามาพูดหยอกล้อกันเล่นๆ เพื่อเพิ่มความสนิทในการพูดเท่านั้น เรียกว่า พูดให้เป็นคำคล้องจองกับชื่อของขนมกันมากกว่า ดังนั้น เพื่อเรียกความมงคลให้กับขนมจาก จึงได้มีแม่ค้าขนมในตลาดอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เปลี่ยนชื่อขนมจาก เป็น ขนมพบรัก ทำให้มียอดขายดีตลอดทั้งปี
หนมจาก หรือ ขนมจาก
วิธีทำ
– แป้งข้าวเหนียวขาว หรือข้าวเหนียวดำ 1/2 กิโลกรัม
– แป้งข้าวเจ้า 1/4 กิโลกรัม
– น้ำตาลปี๊บ 1/3 กิโลกรัม
– น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม
– มะพร้าวขูดๆ ด้วยกระต่าย 2 ผล
– เกลือป่น 1/2 – 1 ช้อนชา
– ใบจากตัดเป็นท่อนยาว 10-12 นิ้ว และไม้กลัด
(สัดส่วนต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรสชาติที่ต้องการ)
วิธีทำขนมจาก
- 1. ผสมแป้งข้าวเหนียว เคล้าให้เข้ากันตามด้วยเนื้อมะพร้าว แล้วนวดพอให้เข้ากัน
- 2. ใส่น้ำตาลปี๊บและน้ำตาลทรายเกลือ นวดให้เข้ากันดีคอยดูลักษณะแป้ง ถ้าข้นมากจึงค่อยเติมน้ำธรรมดา หรือน้ำมะพร้าวอ่อน คือให้มีลักษณะข้นพอประมาณ ไม่ข้นและเหลวเกินไป ถือว่าใช้ได้
- 3. ตักใส่ในทางใบจากที่เตรียมไว้ ตามยาวด้านในของใบจาก และใช้อีกใบปิด กลัดด้วยไม้กลัด หัว-ท้าย กลาง หุ้มปลายเข้าหากันและกลัดไว้ด้วยไม้กลัด
- 4. นำขนมไปย่างด้วยไฟอ่อนหรือไฟปานกลาง(ไม่ควรใช้ไฟร้อนจัด เพราะจะทำให้ใบจากไหม้ก่อนสุก) ย่างขนมให้สุก โดยสังเกตจากการที่ขนมจากจะแข็งตัวขึ้นและมีกลิ่นหอม
หนมจาก หรือ ขนมจาก ที่เราเห็นกันบ่อยๆ นั้น ข้างในจะมีส่วนผสมหลักๆ คือ จะเป็นแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล มะพร้าว จากนั้นนำมาห่อด้วยใบจากแล้วจึงนำไปปิ้ง หรือย่างไฟอ่อนๆ และยังมีบางคนสงสัยว่า หากไม่มีใบจากแล้วเราสามารถจะใช้ใบไม้ชนิดอื่นมาห่อได้ไหม เช่น ใบมะพร้าว ใบตาล ใบลาน ใบพ้อ เป็นต้น และเราอาจได้คำตอบว่าน่าจะได้มั้ง! แต่กลิ่นอาจจะไม่หอมเหมือนใบจาก เพราะใบจากนั้นมีความหอมในตัว เมื่อถูกความร้อน ความหอมของมันจึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นเอง!
แล้วถ้าขนมจากไม่ห่อด้วยใบจาก แล้วเราจะยังเรียกว่าขนมจากอยู่ไหมหนอ และยังไงก็คงต้องยกให้ ต้นจาก รับบทพระเอกตัวจริงในเรื่องของ หนมจาก อยู่นั่นเอง
ที่มา : เทคโนโลยีชาวบ้าน
ผู้เขียน : พิชญาดา เจริญจิต