อาหารการกินและมลภาวะรอบตัวมักทำให้ร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายขจัดออกมา แต่หากได้รับในปริมาณมากเกินไปหรือสะสมเป็นเวลานานระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่สามารถล้างได้หมด
คนรักสุขภาพจึงควรใส่ใจเรื่องอาหารขจัดสารพิษ หรืออาหารล้างพิษด้วย
การล้างพิษ หรือ Detoxification (หลายคนเรียก ทีท็อกซ์ Detox) หมายถึงการล้างพิษหรือท็อกซิน(Toxin) ออกจากร่างกาย เพื่อไม่ให้ตกค้างจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ตัวช่วยในการสลายพิษ มี2ทาง 1.ป้องกันพิษภัยจากภายนอก และ 2.ควบคุมปัจจัยที่จะก่อให้เกิดสารพิษภายในร่างกาย อาทิ
กินล้างพิษ โดยหันมากินผักผลไม้มากขึ้น เพราะเส้นใยจากผักและผลไม้จะทำหน้าที่คล้ายไม้กวาด ทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ และกระตุ้นให้ร่างกายขับถ่าย พร้อมกับควรดื่มน้ำสะอาดให้มากเพื่อป้องกันกากอาหารแข็งตัว
การดื่มน้ำเปล่าช่วยขจัดพิษ ให้ดื่มอย่างน้อยวันละ8-10แก้ว ส่วนวันที่อากาศร้อนจัดควรดื่มวันละ 10-15 แก้ว รวมทั้งแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าหลังตื่นนอน (ก่อนอาบน้ำ) 20-30นาที จะทำให้ร่างกายสดชื่น และระบบขับถ่ายดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ยังมีวีธีล้างพิษด้วย น้ำมันมะพร้าว เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวดีต่อสุขภาพ และมีกรดไขมันอิ่มตัวปานกลาง ร่างกายดึงไปเผาผลาญได้เร็ว มีแร่ธาตุสำคัญและวิตามินละลายในไขมันบางชนิด ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ทันที
การล้างพิษด้วยน้ำมันมะพร้าว มี2วิธี คือ 1.บริโภคน้ำมันมะพร้าว โดยนำมาใช้แทนน้ำมันพืชในการทำอาหาร ทั้งทอด ผัด หรือน้ำสลัด และ2. การกลั้วปากด้วยน้ำมันมะพร้าวหลังจากตื่นนอน โดยใช้ปริมาณ2ช้อนชา ประมาณ15-20 นาที น้ำมันมะพร้าวจะผสมกลมกลืนกับน้ำลาย ช่วยกระตุ้นให้เอนไซม์ดึงสารพิษออกมาจากกระแสเลือด(อย่าลืนลงคอ) ข้อดีคือช่วยฆ่าเชื้อโรค ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ กระตุ้นต่อมไทยรอยด์ ทำลายฤทธิ์ของสารพิษ เพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกัน ต่อต้านการกลายพันธุ์ ปรับปรุงการย่อย ช่วยดูดซึมวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโน
รวมถึง การอดล้างพิษ ผลดีของการอดอาหารอยู่ที่ตับและลำไส้ได้พักผ่อน โดยเฉพาะตับซึ่งทำหน้าที่หนักมากทั้งย่อย กรอง และกำจัดสารพิษในอาหาร คนที่ตับไม่แข็งแรงหรือหย่อนศักยภาพ มักพบว่ามีระดับของการสะสมสารพิษในร่างกายสูง วิธีการอดล้างพิษที่ถูกต้อง คือ งดรับประทานอาหารย่อยยากทุกชนิด อาจเลือกผลไม้มาสัก1ชนิดที่มีรสหวานไม่มาก เพื่อรับประทานทั้งวัน อาทิ กล้วย แตงโม หรือชมพู่
การขับพิษทางเหงื่อ โดยการซาวน่า กระตุ้นให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีทั่วร่างกาย ไขมันใต้ผิวหนังลดลงจากการที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น กระบวนการย่อยและเผาผลาญทำงานดีขึ้น ทำให้ระบบประสาทและต่อมไร้ท่อทั้งหลายถูกกระตุ้น ส่งผลให้เหงื่อออกมาก ซึ่งเท่ากับว่า การขับถ่ายของเสียผ่านเหงื่อก็ถูกกระตุ้นให้ได้ทำงานมากกว่าปกติ
การขับพิษทางลมหายใจ การหายใจของคนเราคือ การสูดออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงร่างกายและดึงคาร์บอนไดออกไซด์กับของเสียอื่นๆออกไป คาร์บอนไดออกไซด์นั้นหากคั่งอยู่ในเซลล์มาก จะทำให้เซลล์อ่อนแอและตายได้ง่าย การฝึกง่ายๆคือให้สูดลมหายในเข้าออกให้เต็มที่คราวละ5 นาที วันละ2ครั้ง ในสถานที่อากาศบริสุทธิ์ จะช่วยให้ขับของเสียออกทางลมหายใจได้ดีขึ้น นอกจากนี้การออกกำลังกายทุกวิธีก็ช่วยให้หายใจได้ลึกและมีคุณภาพดีเช่นกัน
การขับพิษในอารมณ์ ทุกครั้งท่างกายเกิดความวิตกกังวลเคร่งเครียด ระดับของฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนไปจากสภาพปกติสู่ความแปรปรวน ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายสับสน ภูมิต้านทานต่ำ ระบบขับถ่ายผิดปกติ การนั่งสมาธิวันละ 15 นาที หรือการหาวิธีผ่อนคลายอารมณ์ด้วยวิธีการต่างๆ จะช่วยขจัดพิษภัยจากความตึงเครียดได้เช่นกัน