การตระเวนชิมอาหารสรรหาของอร่อยยังคงวนเวียนกันอยู่ที่ย่าน ประชานิเวศน์ 1 นะคะ ฉบับนี้มีร้านอาหารเปิดใหม่มาแนะนำกัน
ความรู้สึกแรก คือ แปลกใจนิดๆ นึกไม่ถึงว่าจะมีร้านหาญกล้าเปิดขึ้นมาสวนกระแสเศรษฐกิจในยามนี้ด้วย เลยต้องขอเข้าไปส่องซักหน่อย
ชื่อร้าน Pike/Pine ค่ะ เพิ่งเปิดใหม่ได้เพียง 3 เดือน เป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรปแบบโฮมเมดแท้ๆ ด้วยความที่ยังไม่ค่อยมีร้านแบบนี้ให้เห็นในย่านนี้นัก ทำให้ร้านน้องใหม่ได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดี ฉายแววดาวรุ่งน่าจับตา
Pike/Pine เป็นร้านอาหารสไตล์ Casual Dining กึ่งคาเฟ่ กึ่งร้านอาหาร มีการตกแต่งค่อนข้างเนี้ยบ แต่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย หย่อนก้นลงนั่งแล้วรู้สึกสบายๆ เหมือนอยู่บ้าน
อาหารจะมีเมนูที่ยืนพื้นประจำ กับเมนูพิเศษที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไป เพื่อให้เห็นภาพรวมของอาหาร แฮ่ม..เราต้องจัดเต็มค่ะ
สำหรับเมนูประจำที่ปั๊วะปังสุดสุด ในตอนนี้ แคลร์ บริลเลียนเตส สาวลูกครึ่งไทย-ฟิลิปปินส์ วัย 26 ปี เจ้าของร้าน พ่วงตำแหน่งเชฟ และอีกหลายหน้าที่ในร้าน ภูมิใจนำเสนอ ได้แก่ ปลาแซลมอนทอดบนกระทะ ซอสโรเมสโก้ และมันบด (285 บาท)
แซลมอนชิ้นโตทอดหนังเกรียมกรอบเนื้อสุกพอดีวางบนมันบดที่เชฟตั้งใจทำให้มีความไลท์กว่าปกติเพื่อสุขภาพ คือ ไม่หนักเนยนมมากนัก พอกินผสมกับซอสโรเมสโก้แบบสเปนที่ร้านนำมาพลิกแพลงอีกทอดด้วยการใช้พริกหวานสีแดงก็ทำให้มันบดอร่อยขึ้นเยอะ กินพร้อมกับผักย่างตามฤดูกาลหลากหลาย เป็นจานที่กินเพลิน พอร์ชั่นนี้มาไม่เล็กถือว่าอิ่มกำลังดี
สลัดผักรวมเมล็ดฟาโรห์ (130 บาท) เป็นการรวมมิตรของผักใบเขียวที่สดกรอบหั่นมาเป็นชิ้นเล็กพอดีคำผสมกับผักดองที่ทำเองคลุกเคล้าน้ำสลัดสูตรเฉพาะเป็นเรดไวน์เวเนก้า พระเอก คือ เมล็ดฟาโรห์ ที่ว่ากันว่าเป็นพืชดึกดำบรรพ์อยู่คู่โลกมาเนิ่นนาน เทกเจอร์ของมันจะมีความกรึบหนึบ จานนี้ควรมีติดโต๊ะค่ะ
ต่อด้วยเมนูคนรักเนื้อ สเต๊กเนื้อบาแวต ซอสชิมิชูริ และมันบด (270 บาท) เนื้อย่างแบบมีเดียมฉ่ำๆ วางบนมันบด โรยเกลือ Sea Salt Flakes แบบผลึกแบน กินกับเห็ดย่าง ราดด้วยซอสชิมิชูริรสเปรี้ยวหวานซึ่งเป็นซอสที่ชาวอเมริกาใต้นิยมใช้ก็เข้ากันดีมาก
แคลร์บอกว่า ที่เลือกใช้เนื้อบาแวต หรือเนื้อส่วนพื้นท้อง เพราะว่าเป็นทางเลือกที่ 3 รองจาก นิวยอร์ก และริบอาย ด้วยราคาไม่สูงมากแต่หากมีกรรมวิธีการทำที่ถูกต้องก็ให้รสชาติที่น่าประทับใจเช่นกัน ข้อแนะนำควรสั่งแบบมีเดียมจะได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด
ตามด้วย สตูเนื้อไวน์แดง เสิร์ฟพร้อมขนมปังซาวร์โด (220 บาท) จานนี้รสชาติเข้มข้น ใช้เนื้อส่วนเสือร้องไห้โพนยางคำ ทำได้เปื่อยนุ่มดีเพราะมีกระบวนการทำค่อนข้างละเอียด ส่วนขนมปังซาวร์โดเป็นโฮมเมดที่เชฟบอกว่าเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ที่เอาความรักความชอบส่วนตัวทุ่มลงไปในการทำ
ฟักทองญี่ปุ่นอบ (110 บาท) มันมีความหวานอร่อยด้วยคุณภาพของวัตถุดิบ ราดด้วยซอสบัลซามิกรีดักชั่นเพิ่มความจี๊ดจ๊าด
มาถึงเมนูพิเศษไม่ประจำจะมีเป็นช่วงเวลาหนึ่ง สปาเกตตีไส้กรอก (210 บาท) จุดเด่นคือ ทั้งเส้นและไส้กรอกนั้นโฮมเมดทั้งหมด จานนี้ครบรสมีความเค็มนิดๆ สไปซี่หน่อยๆ จากไส้กรอก เปรี้ยวหวานจากมะเขือเทศ เฟตตูชินี่กุ้งขาว (230 บาท) เส้นทำเองสดใหม่เช่นกัน กุ้งขาวไซซ์เบิ้ม ปรุงรสชาติจัดจ้าน หอมจากเลมอน และเผ็ดเล็กๆ ด้วยพริกชี้ฟ้า
ส่วนคนรักเบอร์เกอร์ ที่ร้านก็มี เฮาส์เบอร์เกอร์ (250 บาท) โฮมเมดตั้งแต่บัน ไส้ ผักดอง พริกดอง ซอสอัลยอลี ทำเองทุกกระบวนการ เพราะเป็นอีกเมนูที่เชฟโปรดปรานเป็นการส่วนตัว
ส่วนเครื่องดื่มที่อยากให้ลอง คือ จินเจอร์ เบียร์ หรือ จินเจอร์ เอล (50 บาท) เป็นคราฟต์โซดาที่หมักเอง แซงเกรีย ไวน์แดงผสมผลไม้ เรด โพชั่น (75 บาท) เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นใหม่ แต่ถ้าเป็นชื่อฝรั่งจริงๆ คือ shrub เป็นสไตล์เอาผลไม้หมักกับแอปเปิลไซเดอร์แล้วผสมกับโซดา รสชาติเปรี้ยวสดชื่น สตรอเบอรี่ ลาเต้ (85 บาท) ใช้สตรอเบอรี่ที่กวนเองผสมกับนมสด
สำหรับคอกาแฟที่นี่ก็มีให้บริการเป็นเมล็ดกาแฟอราบิก้าคัดสรรจากภาคเหนือมานั่งจิบไปชิมขนมไปเพลินดีค่ะ ขนมที่นี่โดดเด่นมากคือครัวซองต์แบบฝรั่งเศส อร่อยแค่ไหนต้องลองมาชิมกัน
แอบกระซิบว่าร้านนี้อนุญาตให้นำไวน์มาเปิดได้ จะมานั่งชนแก้วกรุ๊งกริ๊งกันตามสบาย ตราบใดที่สั่งอาหารในร้านก็โอเค
ที่พิเศษอีกอย่าง ร้านจะมีกิจกรรมต้อนรับเทศกาลต่างๆ อยู่เสมอ อาทิ แพคเกจวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ มีอะไรบ้างเข้าไปเช็กในเพจได้
สำหรับ “แคลร์” ในวัยที่เพิ่งจะ 26 ปี ด้วยบุคลิกภายนอกดูเป็นเชฟสาวห้าวเล็กๆ แววตาซนหน่อยๆ มีไฟฝันแรงกล้า ทุ่มเททำงานที่รักเกินร้อย ต้องยอมรับว่าในฐานะที่รับบทบาททั้งเชฟและเจ้าของร้านถือว่ามีความรับผิดชอบเกินวัยจริงๆ
ด้วยความที่เป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์ มีชื่อนามสกุลเป็นฝรั่ง แต่พูดไทยปร๋อ เพราะเกิดและเติบโตในเมืองไทย แคลร์เรียนจบปริญญาตรี นิติศาสตร์ จุฬาฯ แต่เมื่อทบทวนหัวใจตัวเองดูแล้วว่างานกฎหมายไม่น่าจะใช่ชีวิตตัวเอง เลยผันไปเรียนต่อด้านอาหารที่ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา เรียนไปด้วยทำงานร้านอาหารไปด้วย รวมเวลาเกือบ 2 ปี และด้วยความที่ต้องการเปิดร้านอาหารที่มีทั้งคาวหวาน บวกกับมีความสนใจด้านเบเกอรี่อยู่แล้วเลยดั้นด้นไปเทกคอร์สทำขนมอบต่อที่ปารีสอีกราวครึ่งปี กลับมาลับคมฝีมืออยู่อีก 1 ปี จนตัดสินใจเปิดร้านของตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิตเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา
แคลร์ บอกว่า Pike/Pine เป็นย่านการค้า หัวใจของเมืองซีแอตเทิล มีผูกพันกับเมืองนี้เลยมาตั้งชื่อร้าน ถ้าถามว่าในร้านมีอะไรเป็นซีแอตเทิล ก็ต้องบอกว่าเป็นบรรยากาศ คือ มีความชิลไม่เป็นทางการจ๋า คนที่นั่นจะมีความชิลสูงแต่งตัวใส่เสื้อมีฮู้ด อาหารก็เลยมีความ Casual สูงตาม คือ อาหารหน้าตาดีแต่คุณแต่งตัวยังไงก็ได้ไปกิน ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราชอบมาก
“ไอเดียอาหารคือทุกอย่างต้องไปด้วยกัน เป็นสไตล์ที่ดูง่ายทานง่าย เน้นทำเองทุกอย่าง อยากให้คนมาแล้วรู้สึกว่ามาบ้านใครซักคนที่คุณรู้จักแล้วกินอาหารอร่อยๆ เพราะเราทำทุกอย่างเองทั้งหมด ขนมปังทำเอง เบคอนทำเอง ไส้กรอกก็ทำเอง เราพยายามทำทุกอย่างที่เราทำได้จริงๆ”
พิกัดร้าน Pike/Pine อยู่บนถนนเทศบาลสงเคราะห์ ถ้ามาจากทางวัดเสมียนร้านอยู่ซ้ายมือ วิ่งมาเกือบถึงคลองประปาแล้ววกรถกลับไปนิดเดียว ถ้ามาจากถนนประชาชื่นร้านอยู่ซ้ายมือ ตั้งอยู่เยื้องกับสวนป่าน้อยๆ ประชานิเวศน์ 1 หรือจะเข้าตรงซอยเทศบาลรังสรรเหนือ 2 ก็ได้ ร้านไม่มีที่จอดรถต้องหาจอดริมฟุตปาธ หรือจอดที่จอดรถของตลาดประชานิเวศน์ 1 ค่าจอด 10 บาท เดินมานิดเดียว
ร้าน Pike/Pine วันอังคาร-พฤหัสฯ เปิดเวลา 09.00-20.00 น. วันศุกร์-เสาร์ เปิด 09.00-20.30 น.อาทิตย์เปิด 10.00-15.00 น. ปิดวันจันทร์ โทร 09-9287-0660 เฟซบุ๊ก @PikePineBKK หรือเว็บไซต์ www.pikepinebkk.com
ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ชม นำพา [email protected] |