ยิ่งโรคโควิด-19 แพร่ระบาดมากขึ้นเท่าไร เราก็ยิ่งกลัวผิวสัมผัสตามที่ต่าง ๆ มากขึ้น กลายเป็นภาพที่เห็นกันปกติในชีวิตประจำวันไปแล้ว เวลาคนพยายามใช้ศอกเปิดประตูแทน หรือพนักงานออฟฟิศที่หมั่นเช็ดโต๊ะทุกเช้า
ในประเทศที่ไวรัสโคโรนาระบาดหนัก มีการส่งเจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันพิเศษไปสเปรย์ฆ่าเชื้อตามที่สาธารณะ
โควิด-19 ก็เหมือนกับโรคที่เกิดจากไวรัสทางระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ที่ติดต่อทาง “ละอองฝอย” (droplets) เมื่อคนไอหรือจาม การไอครั้งเดียวสามารถสร้างละอองฝอยได้ถึง 3 พันหยด ซึ่งจะไปถูกตัวคนอื่น ไปอยู่ตามเสื้อผ้าและพื้นผิวโดยรอบ แต่บางส่วนก็สามารถลอยอยู่ในอากาศได้
ยังมีหลักฐานอีกด้วยว่า ไวรัสในอุจจาระสามารถแพร่เชื้อได้นานกว่า คนที่เข้าห้องน้ำแล้วไม่ล้างมือจึงสามารถนำเชื้อไปแพร่ที่อื่นอีกได้เมื่อไปจับอะไรเข้า
ถึงแม้ว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (CDC) บอกว่า “ไม่ได้คิดกันว่าสาเหตุหลักของการแพร่ไวรัส” มาจากการไปจับพื้นผิวที่มีไว้รัสติดอยู่แล้วมาจับหน้าตัวเอง แต่พวกเขา รวมถึงองค์การอนามัยโลก ก็เชื่อว่าการล้างมือและฆ่าเชื้อไวรัสบริเวณพื้นผิวต่าง ๆ เป็นตัวช่วยสำคัญ
เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ SARS-CoV-2 นี้สามารถอาศัยอยู่นอกร่างกายมนุษย์ได้นานเท่าไร
ที่ผ่านมา งานวิจัยพบว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคซาร์ส (SARS) และโรคเมอร์ส (MERS) สามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวอย่างโลหะ แก้ว และพลาสติก ได้นานถึง 9 วัน เว้นแต่จะถูกฆ่าเชื้ออย่างดี บางกรณีสามารถอยู่ได้นานถึง 28 วันในช่วงที่อุณหภูมิต่ำ
นีลเชอร์ ฟาน ดอรีมาลิน นักไวรัสวิทยาจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ และผู้ร่วมวิจัยของเธอที่ห้องปฏิบัติการวิจัยร็อกกีเมาน์เทน (Rocky Mountain Laboratories) ที่เมืองแฮมิลตัน รัฐมอนทานา ได้ทำการทดลองครั้งแรก ๆ เพื่อหาคำตอบว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถมีชีวิตอยู่พื้นผิวชนิดต่าง ๆ ได้นานเท่าไร
งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (New England Journal of Medicine) พบว่า ไวรัสในละอองฝอยสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 3 ชั่วโมงหลังจากมีคนติดเขื้อไอออกมา ละอองฝอยละเอียดขนาด 1-5 ไมโครเมตร (เล็กกว่าความกว้างเส้นผมมนุษย์ 30 เท่า) สามารถอยู่ในอากาศที่นิ่งสนิทได้หลายชั่วโมง
นั่นหมายความว่าไวรัสที่หมุนเวียนผ่านระบบปรับอากาศที่ไม่มีการกรองอากาศจะลอยอยู่อย่างมากก็ 3 ชั่วโมง ละอองฝอยมักจะตกลงบนพื้นผิวเมื่ออยู่ในที่ที่อากาศไม่นิ่ง นักวิจัยพบว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถมีชีวิตอยู่บนกระดาษลังได้ถึง 24 ชั่วโมง และ 2-3 วัน สำหรับพื้นผิวพลาสติกและสแตนเลส
ผลวิจัยพบว่าไวรัสอาจอยู่ได้นานกว่าบนลูกบิดประตู โต๊ะทำงาน และพื้นผิวแข็งอื่น ๆ แต่พื้นผิวที่เป็นทองแดงจะฆ่าไวรัสภายใน 4 ชั่วโมง
วิธีฆ่าเชื้อที่เร็วที่สุดคือใช้แอลกอฮอล์ 62-71 เปอร์เซ็นต์ หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5 เปอร์เซ็นต์ หรือน้ำยาฟอกขาวโซเดียมไฮเปอร์คลอไรต์ 0.1 เปอร์เซ็นต์
ไวรัสจะตายเร็วขึ้นเมื่ออยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูงและชื้น เราสามารถฆ่าไวรัสที่ทำให้เกิดโรคซาร์สได้ด้วยอุณหภูมิ 56 องศาเซลเซียส โดยอัตรา 10,000 เซลล์ไวรัสทุก 15 นาที
แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลว่ามีอนุภาคไวรัสกี่หน่วยในละอองฝอยที่คนติดเชื้อคนหนึ่งไอออกมา แต่งานวิจัยเรื่องไวรัสไข้หวัดธรรมดาพบว่าละอองฝอยเล็ก ๆ มีอนุภาคไวรัสเป็นหลายหมื่นหน่วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าพบไวรัสนี้ที่ส่วนใดของระบบทางเดินหายใจ และคนไข้ติดเชื้อไปถึงขั้นไหนแล้ว
ยังไม่รู้แน่ชัดว่าบนพื้นผิวที่ทำความสะอาดยากอย่างเสื้อผ้า ไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไร
วินเซนต์ มุนสเตอร์ หัวหน้าฝ่ายนิเวศวิทยาไวรัสของศูนย์ฏิบัติการวิจัยร็อคกี้เมาต์เทน (Rocky Mountain Laboratories) บอกว่า สำหรับกระดาษลัง เยื้อวัสดุที่เป็นธรรมชาติอาจทำให้ไวรัสแห้งตัวเร็วกว่าเวลาอยู่บนพลาสติกและโลหะ
“เราคาดว่าด้วยความที่เป็นวัสดุมีรูพรุน มันแห้งตัวอย่างรวดเร็ว และอาจจะติดอยู่กับเนื้อเยื่อ”
การเปลี่ยนแปลงด้านอุณหภูมิและความชื้นก็อาจจะมีผลด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิจัยกำลังศึกษาต่อ และนี่อาจช่วยอธิบายได้ว่าเหตุใดไวรัสไม่สามารถคงตัวได้ดีเวลาอยู่ในละอองฝอยในอากาศ
มุนสเตอร์บอกว่าความสามารถของไวรัสที่จะมีชีวิตอยู่ได้นานนอกร่างกายมนุษย์ยิ่งย้ำให้เราเข้าใจว่าการล้างมือและเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวเป็นประจำสำคัญแค่ไหน
ที่มา : ข่าวสด