ขนมกวน เป็นประเภทของขนมอีกประเภทหนึ่ง พูดง่ายๆก็คือ ขนมที่มาจากการกวนหรือคนนั่นเอง คำว่า “กวน” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิต ถ้าเป็นคำกริยา หมายถึงการคนให้เข้ากัน เช่น คนสารละลาย, คนให้เข้ากันจนข้น หรืออีกความหมายคือกวนผลไม้กวนขนม “กวน” ยังมีความหมาย ว่า คนจนทั่ว หรือวนไปรอบๆ แต่ก็ยังมีอีกความหมายหนึ่งที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง คือหมายถึงก่อความรำคาญ หรือ ก่อความวุ่นวาย ชวนให้ทำร้าย ชวนให้เกิดความหมั่นไส้ ถ้าเป็นคำนามหมายถึงการเรียกของกินที่ทำด้วยผลไม้สุก เช่น ทุเรียนกวน มะม่วงกวน มะยมกวน เป็นต้น
มีคำถามว่าขนมกวนมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ คำตอบตามหลักฐาน มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ในจดหมายเหตุของฝรั่งเศสได้เล่าถึงเหตุการณ์ตอนเจ้าพระยาวิชเยนทร์ถูกประหารชีวิต ว่า ภรรยาคือท้าวทองกีบม้าถูกส่งไปอยู่ในค่ายของพวกโปรตุเกส และบังคับให้ทำของหวานเครื่องกวนส่งเข้าไปถวายในวัง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเวลานี้ก็ปรากฏชื่อ “บ้านขนมกวน” อยู่แถวปากคลองตะเคียน ซึ่งก็คือย่านที่เคยเป็นค่ายพวกโปรตุเกสมาก่อน แสดงว่าในเขตตำบลนั้นจะต้องทำขนมกวนกันมานานจนเป็นที่รู้จักและเรียกกันติดปาก แต่ไม่รู้ว่าเป็นขนมกวนอะไร
ขนมกวนแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือขนมกวนจากผลไม้ และขนมกวนจากข้าวหรือแป้ง สำหรับขนมกวนจากผลไม้ เป็นการเก็บผลไม้สุกที่กินไม่ทัน ทิ้งไว้ก็จะเสีย จึงเก็บเอามากวน ส่วนขนมกวนที่ได้จากข้าวหรือแป้ง ก็คือขนมกวนที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าและแป้งข้าวเหนียว มีกะทิ น้ำตาล เป็นส่วนผสม ใช้กวนในกระทะทองเหลือง เมื่อกวนได้ที่พอข้นๆไม่เหลวจนเกินไป เทลงในถาดเกลี่ยให้เสมอกัน เวลากินก็ตัดแบ่งเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
ชนิดของขนมกวน มีกาละแม ข้าวเหนียวแดง ข้าวเหนียวแก้ว เผือกกวน ถั่วกวน ขนมเปียกปูน ขนมเปียกอ่อน ตะโก้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นขนมที่ต้องกวนในกระทะเช่นเดียวกัน และใช้รองด้วยใบตองดูสวยงามและน่ากิน ขนมกวนจึงถือเป็นขนมที่ขึ้นหน้าขึ้นตาอีกอย่างหนึ่งในสมัยโบราณ
เพื่อให้ได้ทดลองฝีมือกัน จึงนำสูตรขนมกวนมาให้ลองทำ ดังนี้
ถั่วกวนทำกินเอง
วัตถุดิบ ได้แก่ ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 300 กรัม กะทิ 250 มิลลิกรัม น้ำตาลทราย(ถ้าชอบหวาน) 150 กรัม เกลือ 1/3 ช้อนชา
วิธีทำ แช่ถั่วค้างไว้ 1คืน แล้วนำไปนึ่งให้สุก และบดด้วยเครื่องปั่นหรือครก จากนั้นใส่เครื่องปรุงทุกอย่างลงกวนในกระทะ วิธีกวนให้กวนวนไปทางเดียวกัน และห้ามทิ้งไว้ต้องกวนตลอดเวลา มิฉะนั้นจะไหม้ได้ เมื่อถั่วเริ่มงวดให้เบาไฟ กวนต่อไปจนถั่วเริ่มแห้งไม่เป็นน้ำ เวลากวนเห็นก้นกระทะแสดงว่าเริ่มใช้ได้ ลองปั้นดูถ้าไม่ติดมือแสดงว่าใช้ได้ นำมาปั้นหรือกดใส่ในพิมพ์ จากนั้นนำไปอบควันเทียนหรือไม่อบก็ได้ตามใจชอบ
ขนมเผือกกวนแบบง่ายๆ
ส่วนผสม ประกอบด้วยเผือก 1/2 กิโลกรัม หัวกะทิ 2 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ เนื้อมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 ขีด น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ นำเนื้อมะพร้าวขูดไปนึ่งให้สุก จากนั้นนำมาพักไว้ เตรียมเผือก โดยปอกเปลือกเผือก นำเผือกไปแช่น้ำให้อิ่มตัว นำไปนึ่งในหม้อนึ่งให้สุก นึ่งประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนำเนื้อเผือกมาบดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
ตั้งกระทะ นำหัวกะทิไปต้มในไฟอ่อนๆ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือ ผสมให้เข้ากัน ได้รสชาติของกะทิหวานๆ จากนั้นนำเผือกบดและเนื้อมะพร้าวขูดลงไปผสมกับน้ำกะทิ แล้วกวนไปเรื่อยๆ จนเผือกเริ่มงวดแห้งเหนียว นำเผือกกวนไปกดลงในพิมพ์ขนม หรือ แต่งให้เป็นรูปทรงตามใจชอบ
เคล็ดลับการทำเผือกกวน ให้เลือกใช้เผือกที่ขนาดหัวใหญ่ๆ เนื่องจากได้เนื้อเผือกมาก ก่อนนึ่งให้นำเผือกไปแช่น้ำไว้ก่อน เพื่อให้เผือกอมน้ำ เวลานำไปนึ่งจะได้เนื้อเผือกที่นุ่มและสุกง่าย ส่วนน้ำตาลที่เหมาะในการทำเผือกกวนให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ และกะทิต้องเป็นกะทิคั้นสดกรองด้วยผ้าขาวบาง อย่าให้มีเศษสกปรก การปรุงรสกะทิ ให้นำกะทิไปเคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บใส่เกลือเล็กน้อย เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม ขนมเผือกกวน หากโดนลมจะแข็งและกระด้าง เวลาเก็บให้เก็บใส่กล่อง อย่าให้โดนลม หรือ ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ วางคลุมเอาไว้ เพื่อรักษาความชื้นของขนม
ข้าวโพดกวนอย่างโบราณ
วัตถุดิบ ข้าวโพด ใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือ ข้าวโพดหวาน โดยเลือกเอาข้าวโพดอ่อนที่เป็นเม็ดช่วงกำลังสร้างแป้ง ไม่อ่อนเกินไป และไม่แก่จนเม็ดแข็งเป็นไต น้ำตาล เกลือ มะพร้าวสำหรับแต่งหน้า
วิธีทำ ปอกเปลือกจากฝักข้าวโพด เก็บไหมออกให้หมด แล้วก็ใช้มีดฝานเม็ดข้าวโพดออกจากฝัก จากนั้นนำไปตำหรือใช้เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด ใส่ข้าวโพดแค่ครึ่งโถปั่นแล้วใส่น้ำแค่พอท่วมสูงกว่าข้าวโพดหนึ่งข้อนิ้วมือ หลังจากปั่นจนละเอียดแล้วให้นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง หรือจะใช้ที่สำหรับกรองกะทิก็ได้ แต่ผ้าขาวบางจะละเอียดกว่าทำให้เนื้อขนมเหนียว เนียนสวย เมื่อได้น้ำข้าวโพดแล้วให้เทใส่หม้อตั้งไฟอ่อนๆ ค่อยๆ กวนไปเรื่อยๆ จนมีเนื้อขนมเริ่มเข้าที่ เติมเกลือ 1 ช้อนชาหรือกะเอา จากนั้นเติมน้ำตาลทราย ใครชอบหวานก็เติมมากหน่อย แล้วกวนต่อไปเรื่อยๆ อย่าหยุด เพราะจะไหม้ได้
สังเกตขนมจะใสขึ้นเรื่อยๆกวนต่อจนเนื้อขนมเนียนงามและได้กลิ่นหอมของขนม สีขนมจะออกเป็นสีเหลืองทอง และเนื้อเป็นครีมข้น หนืดมาก ต้องเพิ่มความเร็วในการกวน อย่าให้ไหม้ พอขนมสีเหลืองสวยงามจับกันดีแล้ว นำมาเทลงถาดทิ้งไว้ให้เย็นหรือรอให้ขนมเซ็ตตัว จากนั้นขูดมะพร้าวคลุกกับเกลือนิดหน่อย นำไปนึ่ง 1 นาที แล้วใช้แต่งหน้าขนม เวลารับประทานตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ จัดใส่จาน แต่งหน้าด้วยมะพร้าวขูด