คลังคาดตรวจจ่าย เงินเยียวยา 5 พันบาท ล็อตแรก 5 แสนคน ลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com จนถึงเวลา 18.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ยอดกว่า 22.5 ล้านคน คาดตัวเลขน่าจะถึง 23 ล้านคน ยันผ่านเกณฑ์จ่ายทุกคน ล่าสุด ครม.มีมติให้เกลี่ยเงิน 4.5 หมื่นล้านบาทมาจ่ายในเดือนเมษายน เป็นเดือนแรก
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การตรวจสอบข้อมูลของลงทะเบียนรับ เงินเยียวยา จากผลกระทบโควิด-19 เดือนละ 5 พันบาทเป็นเวลา 3 เดือน รวม 1.5 หมื่นบาท เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 1 มีนาคม มียอดผู้ลงทะเบียนกว่า 22.5 ล้านคน คาดว่าตัวเลขน่าจะถึง 23 ล้านคน เพราะกระทรวงการคลังไม่ได้ปิดรับลงทะเบียน ผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com
ทั้งนี้การตรวจสอบผู้ลงทะเบียนในล็อตแรกจะตรวจสอบแล้วเสร็จประมาณ 5 แสนคน หรือจะชัดเจนว่า มีรายใดมีคุณสมบัติครบเร็วที่สุดใน 7-8 วันหลังลงทะเบียน จากนั้นจะทยอยตรวจสอบให้หมด ซึ่งจำนวนที่ลงทะเบียนมามากกว่าที่คาดไว้ ดังนั้น กระบวนการตรวจสอบจะต้องทยอยทำ โดยจะต้องร่วมตรวจกับหน่วยงานอื่นๆด้วย เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน
นายลวรณ กล่าวว่า ในแง่เม็ดเงินที่จะนำมาเงินเยียวยาครั้งนี้ มติครม.ล่าสุดให้ปรับเปลี่ยนวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้สามารถนำเงินมาเกลี่ยจ่ายในแต่ละเดือนหากเดือนแรกมากกว่าที่เคยมีมติไว้ให้จ่ายเดือนละ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยจากเดิมอนุมัติวงเงินไว้ 4.5 หมื่นล้านบาทสำหรับ 3 เดือน หรือ เดือนละ 1.5 หมื่นล้านบาท ดังนั้นตามมติครม.ใหม่ล่าสุด หากในเดือนเมษายนต้องจ่ายเยียวยาสูงกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท จะสามารถนำเงินของเดือนที่ 2 และ 3 มาใช้ก่อนได้ หลังจากนั้นกระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.พิจารณาจัดสรรเงินเพิ่มเติมสำหรับยอดที่ต้องจ่ายของเดือนที่ 2 และ 3 ต่อไป โดยจำนวนผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาจะเป็นเท่าไหร่นั้นอยู่ที่การคัดกรอง ยืนยันว่าทุกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์จะได้รับการเยียวยาครบทุกคน
นายลวรณ กล่าวว่า ทั้งนี้การลงทะเบียนสูงกว่าเคยคาดไว้ เนื่องจากเดิมผลกระทบโควิด-19 รุนแรงขึ้น ขณะนี้หลายจังหวัดประกาศล็อกดาวน์ ปิดร้านค้า ปิดสถานบันเทิง จึงมีผู้มาลงทะเบียนสูงขึ้น นอกจากนี้กระทรวงการคลังต้องดูแลผู้ประกันตนตามมาตรา 39 มาตรา 40 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 5 ล้านคน และกลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จำนวน 7 หมื่นคน ที่ไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ยืนยันว่จะตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ที่มา : มติชนออนไลน์