นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีที่พรรคกล้า และผู้รู้ด้านกฎหมายและการเงินหลายท่าน ได้นำเสนอแนววิธีการแก้ปัญหาวิกฤตการบินไทย โดยเฉพาะช่องทางการฟื้นฟูโดยกระบวนการที่ระบุไว้ในกฎหมายล้มละลาย
“ผมเห็นว่าสังคมมีความเข้าใจในแนวคิดนี้มากขึ้น รวมไปถึงหลายคนในรัฐบาล รวมถึงอาจารย์วิชา มหาคุณ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายมากที่สุดท่านหนึ่งในประเทศ ได้แสดงความเห็นไว้ในเรื่องนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งของบทความล่าสุดของท่านได้กล่าวว่า กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ภายใต้กฎหมายล้มละลายจึงเหมาะอย่างยิ่งกับ บริษัทมหาชนจำกัด อย่างการบินไทย เพราะถือว่าเป็นองค์กรธุรกิจที่ยังสามารถดำเนินกิจการได้ แต่ขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถชำระหนี้ได้”
“ผมจึงขอยํ้าอีกครั้งนะครับว่าในส่วนเรื่องของข้อเสนอค้ำประกันเงินกู้ 50,000 ล้านบาทของรัฐบาลนั้น การบินไทยควรเข้ากระบวนการฟื้นฟูตามกฎหมายล้มละลายก่อน แล้วรัฐบาลค่อยค้ำประกันหนี้ให้นะครับ “เงินใหม่จะมีสิทธิมากกว่า เงินเดิม” เพราะกฎหมายระบุว่าหนี้สินที่มีการกู้ยืม ‘หลัง’ คำสั่งฟื้นฟูของศาล จะมีสิทธิเหนือกว่าหนี้สินที่การบินไทยมีอยู่เดิม (มาตรา 90/62 ทวิ พ.ร.บ. ล้มละลาย)” นายกรณ์กล่าว
แต่หากปล่อยกู้หรือค้ำประกันเงินกู้ก่อนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู หนี้ส่วนนี้จะมีสิทธิเพียงเทียบเท่าหนี้เก่า ทั้งๆ ที่เวลานี้เราควรเจรจาลดภาระหนี้เก่าลงก่อน หนี้ก้อนใหญ่ของการบินไทยเป็นหนี้เช่าซื้อเครื่องบิน เวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเจรจาต่อรองลดหนี้ส่วนนี้ เพราะอุตสาหกรรมการบินยํ่าแย่ทั่วโลก หากเจ้าของเครื่องบินคิดจะยึดไปก็ไม่สามารถจะขายต่อให้ใครได้ สู้ยอมเจรจากับการบินไทยดีกว่า
กระบวนการฟื้นฟูมีไว้เพื่อช่วยให้กิจการสามารถกลับมาเข้มแข็งได้ด้วยเงื่อนไขที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะกลัวเสียหน้าครับ นี่คือโอกาสทองที่จะเริ่มใหม่ ด้วยโครงสร้างและยุทธศาสตร์ที่เป็นไปได้จริง ถือเป็นการล้างบาปความผิดพลาดในการบริหารจัดการการบินไทยมาหลายยุคหลายสมัย
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์