สถานการณ์โควิด-19 ที่มาพร้อมกับเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นมากมายในชีวิต ถึงวันนี้เชื่อว่าสภาพจิตใจทุกๆ คนอ่อนล้าอ่อนแรงกันเป็นทิวแถวแล้วล่ะค่ะ
การกินของอร่อยก็ช่วยเยียวยาส่วนหนึ่ง แต่ถ้าได้ออกเดินทางเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็น่าจะทำให้จิตใจที่แห้งเหี่ยวกลับมาฟื้นฟูในเร็ววัน
ก็ในเมื่อสถานการณ์โควิดบ้านเรามันอยู่ในขั้นเอาอยู่แล้ว รัฐบาลประกาศผ่อนปรนให้ห้างร้านโรงแรมแล้ว สองขาและหัวใจที่ร่ำร้องอยู่ทุกวี่วัน ก็ต้องออกเดินทางกันสิคะ
เล็งซักพัก ก็ตัดสินใจลงใต้เที่ยวทะเลกระบี่ เพราะนาทีนี้ร่างกายและจิตใจต้องการฟื้นฟูแบบเร่งด่วนค่ะ
ส่วนที่พักเลือก “โรงแรมเดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท” แบบไม่ต้องลังเลเลย เพราะเป็นโรงแรมที่อยากมาพักนานแล้ว ประจวบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้โรงแรมจากคืนละหมื่นกว่าบาทมาทำโปรโมชั่นลดกระหน่ำ 30-50% ต้องรีบคว้าให้ไวเลย
เดอะทับแขกมีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว เป็นโรงแรมที่ออกแบบโดยทีมสถาปนิกชื่อดัง A49 มีทั้งหมด 59 ห้อง มีให้เลือกถึง 9 แบบ สไตล์โรงแรมจะมีความร่วมสมัยสร้างด้วยไม้เป็นหลักให้ความรู้สึกอบอุ่น ผสานกับธรรมชาติเดิมที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้ใหญ่ให้ความรื่นและผ่อนคลายมากๆ
บริเวณหาดหน้าโรงแรมมียาวกว่า 100 เมตร ทอดสายตาไปข้างหน้าจะเห็นหมู่เกาะกว่าสิบเกาะเรียงรายเป็นแนวยาว เป็นวิวส่วนตัวสุดพิเศษที่มองพระอาทิตย์ตกดินไม่เบื่อซักวัน
ส่วนทีเด็ดที่คาดไม่ถึง คือ อาหาร บอกตรงๆ ไม่คิดว่าโรงแรมหรูระดับนี้จะเสิร์ฟอาหารใต้ได้หรอยถึงใจขนาดนี้ แบบว่ายกอะไรมาก็เจริญอาหารไปหมด
ขอยกตัวอย่างเท่าที่ได้ลองชิมรอบนี้ก่อน
“น้ำพริกตะไคร้” น้ำพริกถ้วยนี้เป็นแบบแห้ง ไม่เผ็ดจัดจ้าน แต่รสชาติกลมกล่อมออกหวานนิดๆ กรรมวิธีการทำนำตะไคร้มาบดกับกะปิและปลาจิ้งจั้งแล้วเอาไปผัดน้ำมันให้หอม ใส่พริกแห้งและปรุงรส โดยมากคนใต้จะกินกับผักต้มกะทิ แต่ที่โรงแรมเสิร์ฟกับผักสดหลายชนิด แต่ถ้าใครอยากกินกับผักลวก หรือผักต้มกะทิก็สามารถบอกพนักงานได้
“แกงไตปลา” ที่เสิร์ฟมามีวัตถุดิบหลากหลาย ทั่วๆ ไปจะเจอใส่แค่หน่อไม้ มะเขือ ถั่วฝักยาว แต่ที่นี่จัดเต็มอุดมสมบูรณ์มาก รสชาติเผ็ดร้อนนิดๆ กินกับข้าวสวยเพลินมาก
“ส้มตำยอดมะพร้าว” รสชาติเปรี้ยวเค็มหวานครบรส เคล็ดลับจานนี้ใช้น้ำตาลมะพร้าวอย่างดี ให้ความหวานละมุนและหอม มะนาวสด ถั่วคั่วใหม่ ที่สำคัญยอดมะพร้าวอ่อนกรอบทุกคำ คอส้มตำที่อาจเบื่อเส้นมะละกอ ต้องจัดค่ะ
“ยำผักกูด” สำหรับคนรักสุขภาพและต้องการความแซ่บ จานนี้เอาอยู่ ยำรสชาติเปรี้ยวหวาน ใส่ส้มโอเพิ่มเทคเจอร์ โรยหอมเจียว กุ้งแห้งป่น มะพร้าวคั่ว ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์มาอีกกำใหญ่ และ ไข่ต้มครึ่งซีก อร่อยเหาะไปเลย
“ใบเหลียงผัดไข่” ให้คะแนนเต็ม ไข่แห้งดี วุ้นเส้นผัดหอมกลิ่นกระทะไหม้ เครื่องปรุงที่ใช้คัดเลือกที่ปลอดสารทั้งหมด เพราะเจ้าของที่นี่ให้ความสำคัญเรื่องรสชาติและความปลอดภัยมาเป็นที่หนึ่ง
“ไข่พะโล้” เมนูง่ายๆ แต่อร่อยชะมัด ถ้วยนี้ไม่ใส่เนื้อสัตว์เลย ใช้เต้าหู้ออร์แกนิคอย่างดีผัดให้หอมด้วย 3 เกลอ รากผักชี กระเทียม พริกไทย ทำน้ำพะโล้สูตรโบราณใส่เห็ดหอมใส่ไข่ต้ม ต้มจนได้ที่ กินตัดกับอาหารรสชาติเผ็ดเข้ากันมาก
ปิดท้ายด้วย “เส้นหมี่น้ำยาปู” จานนี้น้ำยาปูเข้มข้นทั้งรสชาติและเนื้อปู เพิ่มความอลังการด้วยผักสารพัดอย่าง กินกับเส้นหมี่และไข่ต้ม อร่อยจบในจานเดียว
ส่วนขนมหวานที่โรงแรมจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ที่ได้ชิม คือ ข้าวเหนียวทุเรียน และ กะทิสาคู รสชาติหวานมันปิดท้ายมื้อสมบูรณ์แบบมากๆ
ได้คุยกับ คุณวรรณ-วิภาวรรณ เหล่าธนาสิน เจ้าของเดอะทับแขก ที่มาดูแลโรงแรมทุกวันตั้งแต่ปิดตัวไปเพราะสถานการณ์โควิด บอกว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งตนเองและพนักงานดูแลโรงแรมไม่หยุดเลยซักวัน ช่วยกันดูแลให้โรงแรมสะอาดเรียบร้อยพร้อมสำหรับการเปิดรับแขก โดยเฉพาะอาหารแม้ว่าจะยังเปิดไม่เต็มที่แต่ก็ต้องคัดของดีของเด็ดไว้เสิร์ฟลูกค้าเสมอ
“อาหารเราไม่ผ่านการแช่แข็งนะคะ เป็นอาหารธรรมชาติ สมมุติเราซื้อกุ้งเข้ามาล็อตนึง 2-3 กิโลกรัม เราแช่ไว้อีกวันก็หมด เราจะไม่ซื้อไว้เยอะ ไฮไลต์ของเราจะเป็นอาหารใต้ สดใหม่ วัตถุดิบพื้นถิ่น อย่างน้ำพริกตะไคร้ก็สูตรเราเอง เริ่มจากเป็นเมนูยอดนิยมของพนักงาน เราปรับปรุงสูตรจนเอามาขึ้นโต๊ะเสิร์ฟ ลูกค้าติดใจทุกคน”
อีกคนที่มีส่วนสำคัญไม่แพ้กันคือ คุณแจน-รัชกร นันทวิสัย บุตรสาวคุณวรรณ ในฐานะจีเอ็มคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาบริหารงานภาพรวมของโรงแรม บอกว่า ทะเลกระบี่ โดยเฉพาะหาดทับแขกเที่ยวได้ทั้งปี และยิ่งไม่มีคนมา 3-4 เดือน รู้เลยว่าธรรมชาติฟื้นฟูตัวเองอย่างมาก วันไหนอากาศดีๆ มองไปจะเห็นเกาะห้องจะยิ้ม ชายหาดจะยิ้ม ที่รีสอร์ตก็เห็น เราชอบยืนมองประจำ
นอกจากธรรมชาติที่มองไม่เบื่อแล้ว ความแตกต่างของเดอะทับแขก คือ จะเน้นเรื่องของอาหาร
คุณแจนบอกว่า ด้วยความที่คุณแม่เป็นอีกคนที่ไม่ชอบกินอาหารในสไตล์โรงแรม เพราะรู้สึกไม่อร่อย แต่โรงแรมของเราอาหารต้องอร่อย แล้วต้องเป็นอาหารท้องถิ่นมีความเป็นพื้นบ้าน อาหารเราจะต้องไม่ออกมาเป็นอาหารที่ดูประณีตแกะสลักสวยงาม แต่รสชาติไม่อร่อย แต่ต้องผสมผสานความทันสมัยกับรสชาติที่เป็นออริจินัลแท้ๆ นี่คือจุดเด่นของโรงแรม ซึ่งคิดว่านี่คือเสน่ห์
“เราเป็นคนที่ชอบของโลคัล โปรดักต์อยู่แล้ว อะไรที่เราเจอที่ท้องตลาด หรือที่กระบี่ ใครปลูกอะไรได้เราก็ซัพพอร์ต หรือเวลาไปตลาดก็จะไปตลาดชุมชน ชาวบ้านเอาของมาขาย เราจะมีเมนูพื้นบ้านกระบี่ แล้วเพิ่มส่วนผสมเหล่านี้เข้าไป ก็จะได้ประสบการณ์พื้นเมืองที่มีคุณภาพ”
คงเพราะคอนเซ็ปต์ไอเดียนี้เอง ไม่แปลกใจแล้วที่โรงแรมแม้จะลุคแพงแค่ไหน แต่ยังคงรสชาติอาหารพื้นถิ่นใต้ได้อร่อยถึงใจ ได้แรงอกจริงๆ ค่ะ
| ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ชม นำพา [email protected] |
