เรียกได้ว่า“โควิด”เปลี่ยนโลกกันเลยทีเดียว เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างต้องกระโจนเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าที่ตอนนี้คร่าชีวิตของพลเมืองโลกไปถึง 500,000 กว่าคนแล้ว หนึ่งในการนำเนื้อหาเรื่องราวเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์กับเขาด้วยเหมือนกัน ก็คือ ” 3 พิพิธภัณฑ์ระดับโลก” ได้แก่ พิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา (Smithsonian National Museum of Natural History), พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (The Louvre) และ พิพิธภัณท์แห่งวาติกัน (The Vatican Museum)
เริ่มต้นกันที่แห่งแรก “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งชาติสมิธโซเนียน” หรือ Smithsonian National Museum of Natural History หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สุดยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกาสร้างโดย เจมส์ สมิธสัน และเปิดในปีค.ศ. 1910 ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เชื่อแน่ว่าหลายคนต้องคุ้นตากับภาพช้างแอฟริกาตัวใหญ่มีงายาวทิ่มแทงไปข้างหน้า ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างใน
คนไหนที่ชื่นชอบและสนใจประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ในอดีต การสำรวจสัตว์ดึกดำบรรพ์อย่างไดโนเสาร์ วาฬ รวมไปจนถึงสัตว์โลกใต้ท้องทะเลอื่นๆ และอีกสารพัดเรื่องราวของสัตว์แบบเจาะลึกที่ไม่ใช่เพียงแค่ในตำรา และยังนำโครงกระดูกมาให้เห็นภาพจริงอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณีต่างๆ มากมาย เป็นแหล่งความรู้และสถานที่น่าไปเยี่ยมชมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กๆ ส่วนสถานที่จริงของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียน มีขนาดใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอล 18 สนาม และมีพนักงานกว่า 1,000 คน ใครสนใจเข้าไปเยี่ยมชม เวลานี้สามารถเข้าไปในเว็บไซต์ ไม่ว่าจะผ่านทางมือถือ หรือ คอมพิวเตอร์ก็ได้ทั้งนั้น จะมีทั้งนิทรรศการถาวร ที่มีการจัดแสดงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รวมถึงวิวัฒนาการของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นอกจากนี้ยังเปิดให้เข้าชมนิทรรศการที่เคยจัดแล้วในอดีต เรียกได้ว่าท่องอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้อย่างเพลิดเพลิน สามารถเข้าชมได้ที่ : Smithsonian National Museum of Natural History
อันดับถัดมา “พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์” The Louvre หรือชื่อทางการ ว่า the Grand Louvre ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต้องบอกว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งนี้ของโลก พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เปิดให้ประชาชนเข้าชมในปี ค.ศ.1793 หรือ พ.ศ.2336 ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะอันทรงคุณค่าระดับโลก จำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น จากตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 19 อย่างเช่นภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo รูปประติมากรรมหินอ่อนวีนัส ของอเล็กซานดรอส แห่งแอนทีออก สำหรับใครที่ชื่นชอบหรือหลงใหลงานอียิปต์ งานสมัยกรีก-โรมัน งานจากฝั่งโลกตะวันออกก็ต้องไปเยือนที่นี่
จุดเด่นอย่างยิ่งของลูฟวร์ก็คือ พีระมิดแก้ว ที่ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ.1988 เป็นหนึ่งในโครงการที่ริเริ่มของประธานาธิบดีฟร็องซัว มีแตร็อง เพื่อใช้เป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์ โดยผู้เข้าชมจะต้องเข้าผ่านล็อบบี้ใต้ดินที่อยู่ใต้ฐานพีระมิด ส่วนพีระมิดจะอยู่บนพื้นผิวระดับถนน ถึงแม้ช่วงนี้ทางพิพิธภัณฑ์จะไม่ได้เปิดให้คนเข้าชม แต่สามารถเยี่ยมชมผลงานที่จัดแสดงผ่านทางเว็บไซต์ได้ : The Louvre
สุดท้ายเป็น “พิพิธภัณฑ์แห่งวาติกัน” The Vatican Museum ตั้งอยู่นครรัฐวาติกัน ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ส่วนใหญ่จะเป็นผลงานทางศิลปะด้านศาสนจักรคาทอลิกที่มีอายุมากกว่าร้อยปี นอกจากนี้ภายนอกหรือการตกแต่งพิพิธภัณฑ์ยังมีความสวยงามด้วยโครงสร้างของสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง รวมถึงรูปปั้นแกะสลักอันสวยงาม หลายคนคงชื่นชอบผลงานอันโด่งดังอย่าง The creation of Adam เชื่อได้ว่าสาวๆ คงอยากมาเห็นภาพนี้ด้วยตาของตัวเองกันสักครั้ง และอีกหนึ่งไฮไลต์คือ บันไดวน ที่เรียงด้วยความสวยงาม เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างมาก สถานการณ์ตอนนี้ทางพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมในรูปแบบออนไลน์ ทั้งหมด 7 ห้อง และสามารถชมเป็นภาพ 360 องศา เรียกได้ว่าดูกันทุกซอกทุกมุม อย่างนี้อย่ารอช้ารีบเข้าไปท่องเที่ยวได้เลยที่ : The Vatican Museum
อ้อ ! ทั้งหมดนี้ก่อนจะเข้าชมทางออนไลน์ อย่าลืมซื้อตั๋วก่อนล่ะ
