ในบรรดาไก่ย่างที่มีชื่อเสียง มั่นใจว่าไก่ย่างจาก “พระราม 9 ไก่ย่าง” ต้องติดอันดับอยู่ในใจของใครหลายคน ด้วยจุดเด่นเรื่องความหอมของเครื่องเทศ ความหนุบของเนื้อไก่ และหนังบางกรอบ ทำให้ร้านยืนหนึ่งเรื่องไก่มายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว
ทั้งที่เป็นร้านอาหารอีสาน แต่ใช้ชื่อเจาะจงว่า “พระราม 9 ไก่ย่าง” เพราะจุดเริ่มต้นของร้านอาหารอีสานเริ่มจากไก่ย่างแท้ๆ เลยค่ะ
จากเหตุการณ์ฟองสบู่แตก ทำให้ คุณสุเมธ ต่อสหะกุล ปัจจุบันวัย 70 ปี ซึ่งขณะนั้นเป็นชายหนุ่มรับเหมาก่อสร้างที่เคยรุ่งโรจน์กลับล้มไม่เป็นท่า พอดีกับจังหวะมีเพื่อนที่ทำร้านอาหารให้ช่วยหาทำเลแทนที่เก่าที่ขายไม่ดี ระหว่างที่ตระเวนหาที่เพื่อตั้งร้านอาหารก็บังเอิญไปเจอแผงไก่ย่างที่คนมุงแน่น จึงจอดรถไปซื้อมากิน ผลปรากฏว่าไม่อร่อยเลย
จุดนี้เองที่ทำให้ชายหนุ่มหัวการค้าอย่างคุณสุเมธแล่นปรู๊ด คิดย้อนไปไกลถึงตอนเป็นเด็ก บ้านอยู่อุดรธานี จะมีช่วงที่ต้องเดินทางด้วยรถไฟเข้ากรุงเทพฯ จะมีจุดแวะเติมฟืนเติมน้ำที่หมู่บ้านห้วยสามพาด แล้วได้กินไก่ย่างที่ชาวบ้านนำมาขายมีรสชาติอร่อยมาก
เมื่อคิดได้เขากับเพื่อนบึ่งรถไปอุดรฯ เพื่อไปตามหาผู้เฒ่าบ้านห้วยสามพาด ที่เคยขายไก่ย่างแสนอร่อยในอดีต และก็ได้สูตรมาอย่างใจหวัง ผู้เฒ่าไม่หวงสูตรเพราะเลิกขายไปนานแล้ว
เมื่อทดลองหมักไก่ ปรากฏว่าได้รสชาติที่ดีอย่างที่คิด แต่เป็นสไตล์อีสาน จึงเอามาปรับเองอีกนิดเพื่อให้รสเข้ากับปากคนกรุงเทพฯ แล้วใช้พื้นที่ริมถนนพระรามเก้าใต้ต้นไม้ ซึ่งเป็นทำเลอยู่ใกล้บ้านตั้งโต๊ะขายไก่
อาทิตย์แรกขายได้เพียงวันละ 10 กว่าตัว อดทนทำกันไปได้ประมาณ 1 เดือน เพื่อนเกิดคิดท้อขอเลิก คุณสุเมธที่ไปป่าวประกาศกับเพื่อนฝูงมากมายแล้วจำเป็นต้องแบกภาระนี้ต่อไปด้วยตัวเอง
เพื่อนเลิกไปเพียงอาทิตย์เดียว เรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น จากยอดขายวันละ 10 กว่าตัว พุ่งไปถึงวันละ 70 ตัว สเต็ปต่อไปลูกค้าเริ่มเรียกร้องขอโต๊ะเก้าอี้นั่งกินริมทาง จากนั้นเริ่มเรียกร้องเมนูอื่นๆ เริ่มจากส้มตำ ข้าวเหนียว ทำไปมาใหญ่โตเปิดเป็นร้านอาหารอีสานเมนูหลากหลาย โดยสาขาแรกเปิดที่พระราม 9 ในปี 2543
ทุกวันนี้ “พระราม 9 ไก่ย่าง” ขยายออกไปรวม 5 สาขา ได้แก่ สาขาพระราม 9 ปากซอย 39 อยู่ห่างจากแยกรามคำแหง 300 เมตร สาขา เดอะแจ๊ส ชั้น 1 ลาดปลาเค้า สาขา เดอะ พรอมานาด ชั้น 3 รามอินทรา สาขา เดอะมาร์เก็ต แบงคอก ชั้น 3 ติดบิ๊กซีราชดำริ และสาขาโลตัส เอ็กซ์ตร้า เลียบด่วนรามอินทรา โดย มีครัวกลางอยู่ที่สาขาพระราม 9 กระจายเครื่องปรุงต่างๆ ออกไป ทำให้ไม่ว่าสาขาไหนก็มีรสชาติเดียวกันเป็นมาตรฐาน
เมนูที่มาแล้วห้ามพลาด แน่นอนว่าคือ “ไก่ย่าง” 160 บาท รสชาติหอมอร่อย เนื้อหนุบหนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบ คือ แบบเผ็ดและหวาน
ไก่ย่างที่นี่คัดไก่ที่ผสม 3 สายพันธุ์ อายุ 3 เดือน หมักด้วยสูตรที่โดดเด่นด้วยเครื่องเทศและเครื่องปรุงอย่างดี หมักไว้จนข้ามคืนเพื่อให้เครื่องเข้าเนื้อ แล้วนำไปย่างด้วยเตาย่างไร้ควันที่อุณหภูมิ 250 องศา ทำให้ไก่ย่างที่ได้สุกเสมอทั่วกัน เนื้อมีความหนุบและนุ่ม หนังกรอบอร่อยไม่มีรอยไหม้แม้แต่น้อย
คุณสุเมธบอกว่า เดิมทีย่างไก่ด้วยเตาถ่าน จนเกิดเรื่องไข้หวัดนก เลยคิดหาวิธีสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า ไปตามหาเครื่องย่างไก่ตามสเปกที่ สวทช.แนะนำ เพื่อนที่ได้ฟังบอกว่ามีเครื่องสเปกแบบที่บอกอยู่ เป็นเครื่องจากอเมริกา ความร้อนคงที่ 250 องศา จึงปลอดภัยจากไข้หวัดนกแน่นอน
“วันแรกลองย่างก็รู้ว่าได้ แต่คุณภาพยังไม่ได้ เนื้อไก่ออกมาแข็ง วันต่อมาเราลองปรับความเร็วสายพาน ปรับไฟ ขยับไปขยับมาจนได้ แล้วเครื่องนี้มีข้อดีคือ ปลอดภัย อุณหภูมิคงที่ ไม่มีควันเลย ไก่ที่ได้ไม่มีรอยไหม้แม้แต่น้อย และหนังกรอบ แล้วทุกตัวสุกเท่ากันหมด”
จานต่อมา “ตำหลวงพระบางกุ้งสด” 105 บาท เป็นส้มตำเส้นใหญ่บาง หอมปลาร้าอย่างดี ชูรสเด่นด้วยกะปิจากระยอง ทำให้รสชาตินัวเข้มข้น ใส่กุ้งสดตัวอวบๆ แซ่บถึงใจ
“ตำไทยถั่วกระจก” 55 บาท จานนี้เป็นอีกหนึ่งความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ใช้ถั่วกระจกสินค้าชื่อดังจากขอนแก่นมาตำใส่แทนถั่วลิสงคั่ว รสชาติหวานนำ เปรี้ยวตาม อร่อยเพลินไปอีกแบบ
เรื่องส้มตำ มะละกอ คือ สิ่งที่ร้านภูมิใจนำเสนอ เพราะเส้นมะละกอที่นี่ใช้เครื่องตัดทำให้ได้ขนาดมาตรฐานเท่ากัน เน้นเส้นเล็กบาง แต่กรอบอร่อยมาก
“ผมเคยสงสัยว่าทำไมมะละกออย่างขูดกับสับมันถึงได้แตกต่างกัน อย่างสับจะกรอบ อย่างขูดไม่ค่อยกรอบ ผมเลยเอาเส้นมะละกอทั้ง 2 แบบ มางอแล้วใช้กล้องส่องพระส่องดูรายละเอียด ทำให้เห็นว่าอย่างขูดนั้นจะมีเทกเจอร์ร้าวๆ เลยรู้ว่าตรงนี้เองที่ทำให้เส้นไม่กรอบ ผิดกับสับที่ความคมของมีดตัดเนื้อฉับเส้นจึงกรอบ ผมเลยใช้เครื่องที่เป็นใบมีดทำให้เส้นของเรามีขนาดเท่ากัน และมีความกรอบอร่อย” คุณสุเมธเผยเคล็ดลับ
ต่อมา “คอหมูย่าง” 80 บาท เนื้อคอหมูแท้ หมักด้วย 3 สหาย รากผักชี กระเทียม พริกไทย เสริมด้วยเครื่องปรุงรสสูตรเฉพาะ ทำให้เนื้อคอหมูนุ่มและชุ่มมาก มีน้ำจิ้มแจ่วซอสมะขามรสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว
“ลาบปลาดุก” 70 บาท อีกหนึ่งจานเด็ด มีความแห้งสไตล์อีสานแท้ และอุดมด้วยสมุนไพร “ลาบเป็ด อุดรฯ” 75 บาท เด็ดขาดเช่นเดียวกัน
“ต้มแซ่บกระดูกอ่อน” 80 บาท ถ้วยนี้รสชาติเข้มข้น แต่ไม่จัดเกินไป เปรี้ยวกำลังดี ซดน้ำซุปได้ทั้งถ้วย กระดูกอ่อนต้มจนเปื่อยนุ่มเคี้ยวกินได้ทั้งคำ ได้ยินว่าเป็นถ้วยโปรดของอดีตนายกฯ สมัคร สุนทรเวช เลยทีเดียว
สุดท้าย “ยำนัวหมูยอไข่แดง” 119 บาท จานนี้เด่นทั้งหมูยอ และน้ำยำ รับประกันความแซ่บ
อ้อ…เครื่องดื่ม ไม่พูดไม่ได้ “น้ำผึ้งมะนาวโซดา” ช่วงนี้ราคาแนะนำแก้วละ 45 บาท รสชาติดีมากแบบเกินคาด ดีกว่าในคาเฟ่เก๋ๆ หลายแห่งเลยค่ะ ไม่เชื่อต้องลอง
ล่าสุดมิชลินร่วมการันตีความอร่อยอีกเสียง มอบรางวัลมิชลิน บีบ กูร์มองต์ หน้าใหม่ประจำปี 2020 ถึง 4 เมนู ได้แก่ ไก่ย่าง ส้มตำกระจก คอหมูย่าง และลาบเป็ด อีกด้วย
และในโอกาสที่ร้านพระราม 9 ไก่ย่าง ก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 คุณสุเมธเลยตั้งใจคืนกำไรให้ลูกค้า จัดแคมเปญ “10 เดือน 9 วันไก่บ้านย่างฟีเวอร์” คือ ในวันที่ 10 กันยายนนี้ ทุกบิลอาหารที่ใช้จ่ายถึง 300 บาท ทุกสาขา ไม่ว่าจะนั่งกินที่ร้านหรือสั่งดิลิเวอรี จะได้รับไก่ย่างสุญญากาศ ซึ่งเป็นไก่ที่ปรุงสุกแล้วสามารถนำไปเข้าเตาอบ หรือ ไมโครเวฟได้ทันที มูลค่า 170 บาทฟรี 1 ตัว เวลาตั้งแต่ร้านเปิดยันร้านปิด 10.00-21.00 น. ยกเว้นสาขาพระราม 9 ปิด 20.00 น.
ส่วนตัวขอคอนเฟิร์มอีกเสียงว่า “พระราม 9 ไก่ย่าง” คืออีกหนึ่งร้านที่คนรักอาหารอีสานต้องประทับใจค่ะ
ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ชม นำพา [email protected] |