หลังเสร็จงานแถวรามคำแหง 60 ย่านชุมชนมุสลิมวันก่อน ทีมงานชักชวนหาข้าวหมกกินกัน ตระเวนขับรถส่องหาร้านจนเจอร้าน “บาหลี” ด้วยความบังเอิญ ผลปรากฏว่าเป็นความบังเอิญที่สร้างความเซอร์ไพรส์สุดสุด ไปเลยค่ะ แบบว่าเฮ้ย…ทำไมอร่อยทุกอย่าง อร่อยยกร้านไปเลย
ความมหัศจรรย์ คือ เกือบ 10 ชีวิต ต่างลิ้นต่างความชอบ ทุกคนนั่งกินหมุบหมับกวาดเกลี้ยงทุกจานด้วยความเอร็ดอร่อย
ไล่เรียงจากที่ได้ลองมื้อนั้น ตั้งแต่ ข้าวหมกไก่ ซุปเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวแกงเนื้อ ข้าวไก่อบ สลัดแขก ซุปไก่ ไก่ทอด เครื่องในไก่ผงกะหรี่ บอกเลยว่าตักจานไหนก็กรี๊ดค่ะ
เริ่มจาก ข้าวหมกไก่ หอมเครื่องเทศแบบละมุนละไมตั้งแต่ข้าว 3 สี ที่ใช้เครื่องเทศล้วน หุงจนนุ่มส่งกลิ่นหอม ส่วนน่องไก่ไม่ต้องพูดถึงละมุนลิ้นมากมาย กินกับน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวหวานอร่อยชวนตกตะลึง
ซุปเนื้อ น้ำซุปรสชาตินัวจี๊ดจ๊าด ส่วนเนื้อเปื่อยดี ซดหมดชามคือฟิน สลัดแขก คือ สิ่งที่เหนือความคาดหมาย หน้าตาธรรมดา พอตักเข้าปากไปได้สัมผัสหวานเปรี้ยวสดชื่นได้ใจเหลือเกิน ส่วนไก่ทอดได้กินกับข้าวสวยร้อนๆ เป็นไก่ทอดที่หมักแบบมีรสมีชาติ ทอดกรอบๆ โอ้โห อร่อยมาก ที่ประทับใจเกินคาด คือ เครื่องในไก่ผงกะหรี่ ดีงามสุดในสามโลก กินกับข้าวสวยคุณเอ้ย ใครก็มาหยุดยั้งการกลืนกินของเราไม่ได้
นอกจากที่สั่งก็ยังมีที่น่าสนใจ เช่น ข้าวหมกแพะ แกงแพะ ซุปหางวัว ข้าวเนื้ออบ ก๋วยเตี๋ยวกะทิเนื้อ และอาหารไทยที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปวันละ 1-2 เมนู ส่วนของกินเล่นก็เป็นกะหรี่ปั๊บไก่ กับ ถั่ว ตัวละ 10 บาท อร่อยเริ่ดเหมือนกัน
กินเสร็จรีบไปคว้าตัว คุณสมสุรีย์ ซอหิรัญ หนึ่งในเจ้าของร้านมานั่งพูดคุยกันทันที
คุณสมสุรีย์บอกว่า ต้นตระกูลก็เป็นคนมุสลิมในประเทศไทย มีฝีมือการทำอาหารตั้งแต่รุ่นคุณยายเคยทำอยู่ในวังสระปทุม สมัยสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า โดยมีคุณแม่เป็นลูกมือช่วยคุณยายอีกที ต่อมารุ่นคุณแม่ออกมาเปิดร้านเองขายที่องค์การโทรศัพท์ ที่เพลินจิต เป็นร้านมุสลิมร้านแรก
“แม่ขายข้าวแกงจนส่งลูก 8 คนเรียนจบทั้งหมด ช่วงแรกๆ นั้นขายอาหารหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารมุสลิม ตั้งแต่ข้าวแกง ข้าวคลุกกะปิ ข้าวมัน ส้มตำ ทำหมด ส่วนอาหารพวกข้าวหมกจะเป็นทางพ่อ คือ พ่อเคยไปอยู่ที่คลองบางกอกน้อย เพื่อไปเรียนศาสนาที่นั่น ก็ได้ซึมซับเรื่องการทำอาหารมา”
คุณสมสุรีย์บอกว่า จากขายที่องค์การโทรศัพท์ ก็ย้ายไปขายที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และเคยไปเปิดร้านที่เพชรบุรี ที่หน้าเขาวังเลย มุสลิมประตูเมือง ลูกค้าเป็นกลุ่มข้าราชการจะมารับประทานเยอะ ส่วนร้านปัจจุบันในซอยรามคำแหง 60 ย้ายมาตั้งแต่ปี 40 ตอนนี้ก็ 23 ปีแล้ว
สำหรับข้าวหมกไก่ขวัญใจทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา ขนาดเด็ก 3 ขวบยังปลาบปลื้มนั้น คุณสมสุรีย์บอกว่า ที่คนชอบมาก เพราะข้าวหมกไก่ของเรา เราหมกไก่จริงๆ โดยใส่ไก่ไว้ด้านล่างใส่ข้าวทีหลัง แล้วปิดอบไว้ให้เครื่องเทศหอมขึ้นมา แต่ของที่อื่นส่วนมากจะทำแยกเหมือนหุงข้าวมันไก่ คือ เอาไก่ไปต้มขมิ้นแล้วเอาไก่ขึ้นถึงเอาข้าวลง ไก่ก็จะกระด้างเพราะไม่ได้หมก แถมเครื่องเทศก็ไม่ครบเท่าของเรา ซึ่งเรื่องเครื่องเทศนี้พ่อกำชับไว้ว่าต้องไม่ให้ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งเด็ดขาด
เครื่องเทศสำหรับการหมักไก่ของร้านบาหลีใช้ถึง 14 อย่าง ขณะที่เครื่องสำเร็จที่ขายอยู่แถวตลาดบางกะปิมีแค่ 5 อย่างเท่านั้น
“พ่อเป็นคนเป๊ะมาก บอกว่านิดหนึ่งก็ไม่ได้ ต้องให้ครบ น้องชายเป็นคนคั่วเอง ไปซื้อเครื่องจากพาหุรัด เราทำกันมาอย่างนี้ ขนาดมีวันหนึ่งลูกค้าสั่งเป็นหม้อใหญ่ เครื่องขาดอยู่ไม่ถึงทัพพี เราบอกให้ไปซื้อตลาดมาปนเขาก็ไม่ยอม ต้องคั่วใหม่หมดเลย อย่างลูกเฮลท์นี่แพงมาก เราสั่งจากซาอุดีอาระเบีย กิโลกรัมละ 6,000 บาทเราก็ต้องใส่ โชคดีที่มีญาติอยู่ พอได้เครื่องเทศมาทั้งหมด เราจะเอามาคั่วเองบดเองหมักกับไก่ ใส่นมใส่เนย หมัก 12 ชั่วโมง”
ส่วนข้าว 3 สีที่หอมนุ่มนั้น มาจากสมุนไพรล้วนๆ ไม่มีการใช้สีผสมอาหารเลย อาทิ สีส้มมากจากหญ้าฝรั่นเป็นของตะวันออกกลาง โชคดีที่ได้ญาติส่งมาให้ ส่วนสีเหลืองจะใช้ขมิ้น หรือผงจันทร์ ขณะที่เครื่องเทศสดของไทยก็สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นหอม กระเทียม พริกไทย ทุกอย่างจะถูกคลุกเคล้าอย่างลงตัว
อีกเมนูที่คนนิยมแม้จะราคาสูงซักหน่อย คือ แกงแพะ ชามละ 350 บาท แต่ก็เป็นชามใหญ่รับประทานได้ถึง 3 คน ส่วนมากเป็นคนจีนจะนิยมมาก เพราะถือว่าเป็นยา ซึ่งแพะนี้ที่ร้านได้จากฟาร์มของญาติที่หนองจอกนี่เอง
ส่วนซุปก็ขายดีทุกซุป โดยเฉพาะตอนขายที่จุฬาฯ คุณสมสุรีย์บอกว่าขายดีมาก รสชาติดีถึงขนาดที่อาจารย์มหาวิทยาลัยถึงกับเอาปิ่นโตมาใส่ห่อกลับบ้านกันเลยทีเดียว
ส่วน สลัดแขก ก็ยังเป็นสูตรดั้งเดิมตั้งแต่รุ่นคุณยาย มีรสชาติหวานนำเปรี้ยวเค็มตาม ใครกินก็ติดใจ
กว่าจะสำเร็จเป็นอาหารแต่ละวัน คุณสมสุรีย์บอกว่า ทำงานกันอยู่ 4 คน คือ ตนเอง น้องชาย (มานิต ซอหิรัญ) น้องสะใภ้ (ศศิธร ซอหิรัญ) และหลานชาย ต้องตื่นกันตั้งแต่ตี 4 เพื่อลงมือทำอาหารต่างๆ ด้วยความพิถีพิถัน เพราะมุสลิมทั้งกรุงเทพฯรู้จักเราหมด รู้จักพ่อแม่เรา คนเรียกแม่ว่าป้าบัว พ่อชื่อประสพ ดังนั้นแม้ว่าเราจะเป็นร้านเล็กๆ ก็ต้องไม่ให้เสียชื่อแม่
“เมื่อก่อนแม่รู้จักคนดังๆ เยอะ เชื่อไหมตอนที่แม่เสีย รถจอดตั้งแต่หน้าร้านไปปากซอย คนมาถามว่าแม่เป็นนายกสมาคมเหรอ เราบอกเปล่า แม่เป็นแม่ค้าข้าวแกง(หัวเราะ)”
ใครสนใจลองมานะคะ อาหารราคาไม่แพง ราคาตั้งแต่ 40-50 บาท แต่มีเมนูแพะอาจราคาสูงหน่อย อย่างข้าวหมกแพะ 150 บาท แกงแพะ 350 บาท
มาถึงบทสรุปของการรีวิวร้านนี้ คือ ต้องไปกินค่ะ เดินทางอาจจะรถติดหน่อย เพราะว่ากำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรงอยู่ แต่รับรองว่าคุ้มค่าแก่การเดินทางไปอย่างแน่นอน สนใจสอบถาม โทร 08-6973-2794, 09-0994-5825 และ 0-2374-6603
ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ชม นำพา [email protected] |