“ธนินท์ เจียรวนนท์” ออกโรงกระทุ้งรัฐบาลชี้ต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้เร็วเหมือนแก้โควิด ต้องกล้าตัดสินใจเดินหน้าเปิดประเทศ ดูดเงิน “เศรษฐี-นักลงทุนต่างชาติ” ทุกรูปแบบ
วันนี้รัฐบาลมีแต่ใช้เงิน
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดให้สัมภาษณ์พิเศษ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศว่า แม้ว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ดีจริงๆ วันนี้ไทยเที่ยวไทยเริ่มดีขึ้น การจับจ่ายดีขึ้น แต่มาตรการที่จะออกมาดูแลเศรษฐกิจภาพใหญ่ยังไม่มี ตอนนี้มีแต่มาตรการใช้เงิน แต่ไม่เห็นมาตรการที่จะได้เงิน เงินใช้ไปก็จะหมดกระเป๋า
“วันนี้เรามีรายจ่ายมากกว่ารายได้ ไทยเที่ยวไทยมีจำกัด รัฐบาลทำอย่างนี้ถูกต้องแล้ว ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แต่ยังไม่พอ ซึ่งต่างจากจีนตลาดเขายิ่งใหญ่มาก จีนเที่ยวจีน มหาศาลกว่าไทยเยอะ เพราะที่ผ่านมาคนจีนเที่ยวทั่วโลก วันนี้ไปไม่ได้เลยเที่ยวทั่วประเทศจีน เศรษฐกิจจีนจึงฟื้นอย่างรวดเร็ว สำหรับไทยก็ดีเหมือนกัน เศรษฐีไม่ไปเที่ยวต่างประเทศก็มาเที่ยวไทย ซื้อกระเป๋าหลุยวิตตองในไทย ซื้อของที่มีค่าสูงๆ แทนที่จะไปซื้อต่างประเทศ แต่กำลังซื้อในประเทศไทยไม่เหมือนจีน ”
กระทุ้งนายกฯ เร่งแก้ ศก.
ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์กล่าวว่า ปัญหาประเทศไทยอยู่ที่รัฐบาล วันนี้ถ้านายกฯประยุทธ์บริหารเศรษฐกิจ เหมือนบริหารโควิด19 เมืองไทยก้าวกระโดด เศรษฐกิจต้องจัดการรวดเร็ว ไม่ใช่แค่การเยียวยา กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องหาเงินของโลกมาใช้ด้วย
“วันนี้ต้องไม่คิดเฉพาะเอาเงินไปเยียวยาช่วยเหลือ แต่ต้องคิดว่าเราจะไปหาเงินมายังไง ปัญหาหนักๆ เจอมาแล้ว และผ่านไปแล้ว อย่ารอให้โควิด19เรียบร้อย เพราะจะสายไปแล้ว ”
นายธนินท์กล่าวว่า ในขณะที่ปัญหาโควิด-19 ยังไม่เรียบร้อย ประเทศไทยต้องถือโอกาสโฆษณาว่าเป็นเบอร์หนึ่งของโลก ในเรื่องความปลอดภัย เรื่องรักษาโควิด19 และวันนี้คนไทยไม่ได้ติดกันเลย มีแต่คนไทยหรือต่างประเทศที่มากักตัวแล้วเจอบ้างแต่ก็ไม่ตาย รักษาหายได้หมด โฆษณาโรงพยาบาล หมอไทยยอดเยี่ยม อุปกรณ์ทันสมัยต้องรีบทำ และต้องออกกฎหมายรองรับความต้องการของต่างชาติ
นายกรัฐมนตรีต้องอย่าไปฟังเสียงคนโน้นคนนี้มากเกินไป บางคนก็เห็นแก่ตัว ไม่ได้เป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่
“อีอีซี” ต้องพิเศษจริงๆ
เรื่องสำคัญคือ ต้องทำให้ “อีอีซี” (เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจริงๆ เพราะนายกฯ เป็นประธานเอง แต่จนถึงตอนนี้การลงทุนอีอีซียังไม่เห็นอะไรคืบหน้า ทุกอย่างยังเป็นแบบเก่า การทำงานทุกอย่างยังต้องผ่านบีโอไอ ขณะที่การทำงานของบีโอไอ. เป็นการรออยู่ที่บ้านให้คนมาขอ
เขต ศก. พิเศษ ต้องทำให้เหนือกว่าบีโอไอ มีเป้าหมายจะเอาอุตสาหกรรมอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ไม่ใช่รอให้มาขอ ต้องออกไปแย่ง เพราะวันนี้แย่งกันทุกประเทศ สิงคโปร์ เวียดนาม ตอนนี้ต้องวัดตัวตัดสูท ไม่ใช่ออกกฎหมายแล้วใช้ทั่วไป ต้องการธุรกิจอะไรมาเมืองไทยต้องไปง้อ ยุคนี้้ต้องไปถามเขาว่าต้องการอะไร แล้วออก กม. ให้เอื้อประโยชน์เขา เพราะเอื้อเขาก็เท่ากับเอื้อไทย เราได้ภาษี สร้างงาน สร้างคนไทยให้เก่งขึ้น
นายธนินท์กล่าวว่า การเปิดให้ต่างชาติเข้ามาไม่ต้องกลัวว่าจะมาอแย่งอาชีพคนไทย เพราะธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่เข้ามานั้นจะเข้ามาแข่งกับซีพี , ไทยเบฟ , คิง เพาเวอร์ ,ปูนซิเมนต์ไทย ,ปตท. พวกบริษัทยักษ์ใหญ่เขาต้องมาทำธุรกิจขนาดใหญ่ ไม่ทำจิ๊บจ๊อยแข่งกับธุรกิจกลางหรือเล็ก
เชียร์รองนายกฯสุพัฒนพงษ์
นายธนินท์กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยตอนนี้ยังมืดอยู่ แต่ต้องสว่างแน่นอน จะเร็วหรือช้า จะสว่างแล้วเราได้อะไร เราต้องทำตั้งแต่วันนี้เดี๋ยวนี้ เราต้องเตรียมพร้อม เพราไม่มีที่ไหนพระอาทิตย์ตกแล้วไม่ขึ้น
ส่วนจะเมื่อไหร่ถ้าทำถูกต้อง ปีเดียวก็สามารถพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เอาเศรษฐีต่างชาติ1ล้านคน มาซื้อบ้านเมืองไทยคนละ1 ล้านเหรียญ ก็ได้เงินเข้ามา 1 ล้านล้านเหรียญแล้ว แล้วเสียหายอะไร เขาเอาเงินมาซื้อบ้านเมืองไทย เอากลับไปได้ไหม เอาเรือขนไปได้มั้ย ก็เป็นของไทย อยู่ภายใต้กฎหมายไทย จะเรียกขายชาติได้อย่างไร
“แต่ที่มีการปรับครม.ใหม่ รองนายกฯสุพัฒนพงษ์ (พันธ์มีเชาว์) ไม่ธรรมดา ไม่ใช่นักวิชาการอย่างเดียว รู้จริง ปฏิบัติได้ เข้าใจจริง เพราะเป็นวิศวกร เคยทำงานธนาคาร กลับพัฒนาปตท. ทำปิโตรเคมี ที่มีปัญหาทำจนยิ่งใหญ่ มาเป็นรองนายกเศรษฐกิจ เข้าท่า ผมเชียร์ หวังว่าจะไม่เชียร์ผิดคน”
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์