เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน(มติชนอคาเดมี) นางสาวจิรฐา วัฒนประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้จัดการโครงการด้านประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวรศักดิ์ ประยูรศุข บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์มติชน และ นางสกุณา ประยูรศุข ผู้อำนวยการมติชนอคาเดมี พร้อมทีมงาน ร่วมเปิดโครงการ รฟม.ปั้นอาชีพ ทำง่าย ขายดี จัดโดย โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง รฟม. ร่วมกับ มติชนอคาเดมี เป็นการอบรมทาง Live Streaming ในกลุ่มเฟซบุ๊ก รฟม. ปั้นอาชีพ , เฟซบุ๊กมติชนออนไลน์ ,ช่องยูทูบมติชนอคาเดมี รวมถึงแชร์ไปยังสื่อในเครือมติชน อาทิ เฟซบุ๊กข่าวสดออนไลน์ และเฟซบุ๊กมติชนอคาเดมี โดยมีผู้เข้าอบรมกว่า 500 คน
โดยการอบรมแบ่งเป็น 3 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย 1.การสอนการถนอมอาหาร เนื้อแดดเดียว เนื้อฝอย และ สุกี้โรล พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด การขึ้นทะเบียนใบอนุญาตสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย อ.ขนิษฐา ชัยชาญกุล เชฟจากมติชนอคาเดมี 2.สอนเทคนิคการถ่ายภาพด้วยมือถือแบบง่ายๆพร้อมสาธิตการถ่ายภาพ โดย บุญแต่ง ผุสดี เจ้าของช่อง Youtube บุญแต่งสอนแต่งภาพ และ 3.สอนเคล็ดลับการขาย Offline สู่ Online แบบมืออาชีพ โดย ครูบ๊อบบี้ – ณริณฑ์พัฒ อภิวัชรพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการขาย Offline/Online สถาบัน The iCon Group
นางสาวจิรฐา กล่าวว่า โครงการ รฟม.ปั้นอาชีพ ทำง่าย ขายดี ในครั้งนี้ เรามีการปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมจากการเรียนในห้องเรียน มาเป็นรูปแบบออนไลน์ ด้วยวิธี Live Streaming ในกลุ่มเฟซบุ๊ก รฟม. ปั้นอาชีพ เนื้อหาสาระยังอัดแน่นเหมือนเดิม เหมือนเรียนในห้องเรียน ในการอบรมในครั้งนี้จะมีตั้งแต่การสอนทำอาหาร การถ่ายภาพด้วยมือถืออย่างง่ายๆ รวมถึงการทำการตลาดจาก Offline มาสู่ Online โดยวิทยากรมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น อ.ขนิษฐา ชัยชาญกุล เชฟจากมติชนอคาเดมี ที่มาสอนทำอาหาร อ.บุญแต่ง ผุสดี เจ้าของช่อง Youtube บุญแต่งสอนแต่งภาพ มาสอนเรื่องเทคนิคการถ่ายภาพ การใช้แสงอย่างไรถ่ายรูปให้ดูน่ารับประทานและเป็นที่สนใจ และ ครูบ๊อบบี้ – ณริณฑ์พัฒ อภิวัชรพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการขาย Offline/Online สถาบัน The iCon Group มาสอนเรื่องการทำการตลาด จาก Offline มาสู่ Online รับรองว่าผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้จะได้รับความรู้ไปอย่างแน่นๆและสามารถนำไปใช้ได้จริง
“ในการอบรมครั้งนี้ เนื่องจากเราปรับรูปแบบจากเรียนในห้องเรียน มาเป็นออนไลน์แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้าคุณสนใจเข้าร่วมกิจกรรม แค่มีมือถือก็เข้าร่วมในกลุ่ม รฟม.ปั้นอาชีพ ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ทันที”น.ส.จิรฐากล่าว
ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร รฟม. กล่าวด้วยว่า เราคาดหวังว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะได้รับความรู้และนำไปประกอบอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว และถ้าสามารถแบ่งปันแชร์ความรู้นี้ไปยังเพื่อนบ้านและชุมชน เราก็อาจจะเห็นการพัฒนาเป็นวิสาหกิจชุมชน มีรายได้กลับเข้าสู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน
ด้าน นายสกลธี กล่าวว่า ดีใจที่เห็นทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ร่วมกันช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะช่วงเกิดสถานการณ์โควิด-19แบบนี้ ในการอบรมลักษณะนี้เหมือนกับที่สำนักงานพัฒนาสังคม กทม.ทำ เรามีโรงเรียนฝึกอาชีพ ทางกทม.ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ อย่างวันนี้มีการสอนที่สามารถไปประกอบอาชีพได้จริง รวมถึงการขาย Offline เป็น Online ตรงกับที่เราพยายามปรับอยู่แล้ว เดิม กทม.สอน Offline อย่างเดียว แต่ในช่วงโควิดพบความความนิยมในการเรียน Online มากกว่า อาจจะเป็นเพราะคนไม่สะดวกในการมาเรียนที่ศูนย์ เรามีศูนย์ฝึกอาชีพประมาณ 10 โรงเรียน ยอดผู้สนใจเรียนเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า จาก 1,000 คนเศษ เป็น 3,000-4,000 คนเศษ จึงให้นโยบายสำนักพัฒนาสังคมทำตรงนี้ต่อ ตอนนี้ให้เขาเน้นเรื่องการทำคอนเทนต์เพื่อขายของออนไลน์
นายสกลธี กล่าวต่อว่า ด้านการจราจรในกทม. รถไฟฟ้าช่วยเรื่องแก้ปัญหารถติดได้เยอะ โดยปี 2565 รถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง จะเปิดให้บริการอย่างเปิดทางการ คิดว่าช่วยเรื่องการจราจรได้เยอะ หน้าที่ของกทม. คือ การช่วยเหลือชาวบ้านไปขนส่งสาธารณะให้สะดวกมากขึ้น อย่างที่เราทำคือ ชัทเทิลบัส เพื่อพาคนเข้าระบบขนส่ง รวมถึงโครงการ ล้อ ราง เรือ ที่เรารับมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอนนี้เราทำหลายสาย พยายามเชื่อมให้คนใช้รถส่วนตัวน้อยที่สุด อาทิ เรือคลองผดุงกรุงเกษม ขึ้นจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินลงเรือไปต่อแม่น้ำเจ้าพระยาได้ คลองแสนแสบน่าจะเปิดต้นปี จุดไหนที่เอกชนทำไม่ไหวเราก็เข้าไปทำตรงนั้น โดยจะทำคู่ไปกับเรื่องท่องเที่ยวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอบรม 3 หัวข้อ 1.การสอนการถนอมอาหาร เนื้อแดดเดียว เนื้อฝอย และ สุกี้โรล พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด การขึ้นทะเบียนใบอนุญาตสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย อ.ขนิษฐา ชัยชาญกุล เชฟจากมติชนอคาเดมี สอนขั้นตอนการทำ พื้นฐานการถนอมอาหารให้ยังคงคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด วิธีการต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้สินค้า การเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับอาหาร การเก็บวัตถุดิบในอุณหภูมิที่เหมาะสม การคิดคำนวณต้นทุน และการตั้งราคาขาย
ทั้งนี้ อ.ขนิษฐา คอนเฟิร์มว่า สูตรน้ำจิ้มสุกี้ยากี้ที่สอนในครั้งนี้เด็ดจริง ใครได้สูตรนี้ไป สามารถทำสุกี้ยากี้ขายได้เลย รวมถึงสอนวิธีการบรรจุขวดน้ำจิ้มสุกี้ยากี้ให้เก็บไว้ได้นานเป็นปี พร้อมแนะนำการโปรโมทขายทางเฟซบุ๊กเพื่อขายสินค้าด้วย
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์เรื่องการขอขึ้นทะเบียน อย. มี 2 แบบ 1.แบบเป็นโรงงาน และ 2.ไม่เป็นโรงงาน โดยอ.ขนิษฐา ได้แนะนำทางลัดการขอขึ้นทะเบียน อย.แบบไม่เป็นโรงงาน ว่า เหมาะกับกลุ่มขนาดเล็ก โดยการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน เช่น ตั้งกลุ่มแปรรูปโดยให้เกษตรอำเภอขึ้นทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน วิธีนี้จดทะเบียน อย.ง่ายที่สุด โดยระเบียบในการขอขึ้นทะเบียน อย. แบบไม่เป็นโรงงาน ต้องมีเครื่องจักรไม่เกิน 7 แรงม้า คนไม่เกิน 7 คน มีโซนผลิตอาหาร โซนเก็บอาหาร โซนเอาของออก เรียกว่าไลน์การผลิต ในเรื่องความสะอาดมีความสำคัญ จะมีสาธารณสุขมาดูแล ทั้งนี้ขั้นตอนในการขอ อย.ไม่เยอะ ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน ถ้าเตรียมเอกสารเอาไว้พร้อมแล้ว
หัวข้อที่ 2.สอนเทคนิคการถ่ายภาพด้วยมือถือแบบง่ายๆพร้อมสาธิตการถ่ายภาพ โดย บุญแต่ง ผุสดี เจ้าของช่อง Youtube บุญแต่งสอนแต่งภาพ ในการสอน อ.บุญแต่ง เริ่มตั้งแต่สอนจับโทรศัพท์มือถือเพื่อไม่ให้ตกง่าย การจัดองค์ประกอบภาพ การจัดจานอาหาร การถ่ายรูปอาหารโดยใช้โทรศัพท์มือถือ การสังเกตแสง การใช้แสงในการถ่ายรูป เพื่อนำไปขายใน Shopee Lazada การแต่งภาพ โดยใช้โปรแกรมง่ายๆ และโพสต์ลงสื่อโซเชียลมีเดียได้
“แสงในการถ่ายภาพสำคัญมาก แสงธรรมชาติเราจะสังเกตทิศทางของแสงได้ ง่ายที่สุดคือให้แสงวิ่งเข้าไปตรงๆเลยจะเห็นภาพอาหารชัดเจน แสงเข้าด้านข้างจะทำให้อาหารดูมีมิติ”อ.บุญแต่งกล่าว
นอกจากนี้ อ.บุญแต่ง ยังสอนเทคนิคการถ่ายรูปอาหารให้สวย ตลอดจนลูกค้าต้องเห็นหน้าตาอาหาร และจุดเด่นของอาหาร การทำภาพขนาดต่างๆที่เหมาะสำหรับการโพสต์เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม(ไอจี) นอกจากนี้ได้สอนแต่งภาพโดยใช้ แอพพลิเคชั่น snapseed ด้วย
และหัวข้อที่ 3.สอนเคล็ดลับการขาย Offline สู่ Online แบบมืออาชีพ โดย ครูบ๊อบบี้ – ณริณฑ์พัฒ อภิวัชรพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการขาย Offline/Online สถาบัน The iCon Group
โดยครูบ๊อบบี้ บรรยายเจาะลึกถึงการโพสต์ขายสินค้าบนหน้าเฟซบุ๊ก รวมถึงวิธีลัดในการโฆษณาสินค้า ว่า ปัจจุบันประชากรไทยที่เล่นโซเชียลมีเดียถึง 80 เปอร์เซ็นต์ หรือ 55 ล้านคน ถ้าขายของออนไลน์แล้วใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวจะมีเพื่อนได้แค่ 5,000 คน เราไม่สามารถทำโฆษณาวงกว้างได้ จึงต้องสร้างเพจ ถ้าเราทำโฆษณาบนโลกออนไลน์เป็น เราจะได้เปรียบคนอื่นเยอะมาก
“ในการโฆษณาบนเพจ ต้องดูก่อนว่าสินค้าของเราขายในพื้นที่ไหนบ้าง เพื่อกำหนดขอบเขต รู้กลุ่มเป้าหมาย อันนี้คือสิ่งที่เราสามารถกดดูคู่แข่งได้เลย คุณมีเวลาแค่ 1.7 วินาทีในการสร้างจุดสนใจของภาพขณะที่คนดูเลื่อนผ่าน ถ้าเราทำรูปภาพซอยรูปย่อยๆในภาพเดียวคนดูจะจำไม่ค่อยได้”ครูบ๊อบบี้กล่าว
นอกจากนี้ ครูบ๊อบบี้ ได้แนะนำแพลตฟอร์มการขายสินค้าออนไลน์ในช่องทางต่างๆ อาทิ ไทม์ไลน์ , ไลน์สตอรี่ , ไลน์กลุ่ม(เพื่อน500คน) , ไลน์โอเพนแชท(เพื่อน5,000คน) โดยข้อดีของไลน์โอเพนแชทเราสามารถลบข้อความ รูปภาพ วิดีโอได้ ถ้ามีข้อมูลไม่พึงประสงค์ , อินสตาแกรม(ไอจี) ลูกค้าในไอจีจะมีรายได้เยอะกว่าคนเล่นเฟซบุ๊ก โดยรูปภาพในไอจีควรจะเป็นจตุรัส และการโพสต์ไอจีสตอรี่ต้องทำรูปภาพให้เป็นแนวตั้งเสมอ , LINE Official Account , ไลน์แอด , ช่องยูทูบ สำหรับคนที่อยากโตในช่องยูทูบ ใครเคยดูพ่อบ้านแม่บ้านอยู่ต่างประเทศ ไลฟ์สดกินส้มตำ ทำอาหาร กินปูอลาสก้า กินหมูยอ 2 กก. ถ้าจะทำร้านหมูฝอย หมูสวรรค์ แล้วอยากมีลูกค้ามาติดตาม ลองใช้วิธีการกินหมูฝอย 2 กก. เชื่อไหมว่ามีคนติดตามรายการแบบนี้เยอะ , ทวิตเตอร์ , Tiktok
จากนั้น ครูบ๊อบบี้ ได้สอนการตั้งชื่อเพจเพื่อให้โลกจำ ว่า การตั้งชื่อเพจที่จะทำให้ค้นหาแล้วเจอง่ายขึ้น คือ ตั้งชื่อแบรนด์ ให้จำไว้เลยว่าตั้งชื่อแล้วให้ตามด้วยคีย์เวิร์ดที่คนค้นหาแล้วเจอ อาทิ ครัวคุณหมู หมูฝอย หมูฝอยกรอบ หมูสวรรค์ ราคาถูก ปลีก-ส่ง หรือ ตั้งชื่อร้าน แล้วใส่ชื่อสถานที่ท่องเที่ยว จังหวัด อำเภอ หรือจุดสำคัญ ที่คนที่มาที่แห่งนั้นเขาค้นหากัน ตลอดจนการตั้งชื่อไอจี ที่ต้องตั้งเป็นภาษาอังกฤษ ไอจีเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลแพลตฟอร์ม ตั้งเป็นภาษาไทยไม่ได้ เพราะค้นหาไม่เจอ
ทั้งนี้ ครูบ๊อบบี้ ได้แนะนำให้ตั้งชื่อแพลตฟอร์มอื่นๆพร้อมๆกันทีเดียว อาทิ อาทิ ช่องยูทูบ , LINE Official Account จากนั้นได้มีการ เวิร์คช็อป การสร้างเพจเฟซบุ๊ก โดยการออกแบบโลโก้ต้องน่าเชื่อถือ การเขียนแคปชั่น การโพสต์ การไลฟ์สด การทำคลิปวิดีโอ มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ทำให้เพจมีชีวิตมากขึ้น
