เปรี้ยวปากตามแม่การะเกด ตามไปดูสูตรมะม่วงน้ำปลาหวานรสแซ่บ ทำเองได้ไม่ยาก

Content พาเพลิน

เชื่อว่าใครได้ดูละคร “บุพเพสันนิวาส” เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา คงต้องน้ำลายแตกเปรี้ยวปากอยากกิน “มะม่วงน้ำปลาหวาน” แบบแม่การะเกดเป็นแน่แท้

ถึงแม้เดี๋ยวนี้จะหาซื้อได้ตามร้านทั่วไปหรือแม้แต่ในร้านสะดวกซื้อก็ยังมีขาย แต่สำหรับใครที่อยากลองทำน้ำปลาหวานกินเองดูบ้าง ลองมาดูสูตรน้ำปลาหวานแซ่บๆ จากผู้ใช้พันทิปชื่อ @ – ENYA – @ ที่โพสต์สูตรน้ำปลาหวานให้ไปลองทำตามกัน ดังนี้

เครื่องปรุง

– น้ำตาลปี๊บอย่างดี 1 1/2 – 2 ถ้วย
– น้ำปลาอย่างดี 1 1/2 – 2 ทัพพี
– น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
– กุ้งแห้งป่น หรือ ปลาป่น 3/4 ถ้วย
– กุ้งแห้งแบบเป็นตัว ๆ  1/4 ถ้วย
– หอมแดง ปริมาณตามชอบ
– พริกแห้งเม็ดใหญ่  หรือพริกขี้หนูสวนเม็ดเล็ก ปริมาณตามชอบ

 

วิธีทำ

1.กุ้งแห้ง หากไม่ได้ทำการป่นไว้ก่อน จะเอากุ้งแห้งตัวๆ มาทำ ก็ใช้รวมกันทั้งหมดประมาณ 3/4 ถ้วย แล้วก็แบ่งกุ้งแห้ง 1/2 ถ้วยไปป่นหยาบหน่อย ป่นโดยใช้เครื่องปั่นแบบนี้ หรือป่นโดยใช้การโขลกก็ได้ แต่ถ้าโขลก เนื้อกุ้งแห้งที่ได้จะฟูกว่าการปั่นเยอะเลย

 

2.ปั่นให้ออกมาละเอียดประมาณนี้

 

ส่วนใครที่ใช้ปลากรอบป่น (แนะนำปลาสลาด) ก็ทำวิธีเดียวกันค่ะ แต่ให้แกะก้างออกก่อน ก้างเล็กก้างน้อยเอาออกให้หมด ไม่งั้นอาจจะหลงเหลือไปทิ่มคอตอนทานได้

3.พักกุ้งแห้งไว้ก่อน หันมาเริ่มเคี่ยวน้ำปลาหวานกัน โดยเอาน้ำตาลปี๊บเทใส่ลงในหม้อใบเล็กๆ สักใบ แล้วเติมน้ำเปล่าลงไป

ป.ล. น้ำเปล่าจะเติมมากกว่านี้ก็ได้ เพื่อสะดวกในการละลาย แต่สุดท้ายก็เคี่ยวจนเหลือน้ำปริมาณเท่า ๆ กัน

 

4.ยกขึ้นตั้งไฟ พอน้ำตาลละลายดี ยกลงมากรองสักครั้งนึง เพื่อเอาเศษผงออก

 

5.ยกขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง เติมน้ำปลาลงไป ชิมรสตามชอบ เค็มหวานเท่าไหนตามใจเลย แต่รสปกติจะออกหวานนำ เค็มนิดๆ และก็เผ็ดหน่อยๆ

 

ป.ล. รสชาติตอนนี้ยังไม่ต้องพะวงว่าจะอ่อนไปไหม เพราะเดี๋ยวพอเราเคี่ยวไปเรื่อยๆ น้ำแห้งลง รสชาติ ความเค็ม หวาน ก็จะเข้มขึ้นโดยอัตโนมัติ

6.ระหว่างที่เราเคี่ยวน้ำปลาหวานเรื่อยๆ  (ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน) เราก็มาเตรียมเครื่องอย่างอื่นกัน … อย่างหัวหอมเนี่ย ปอกเปลือก แล้วก็ซอยบางๆ อย่างนี้ค่ะ

 

ป.ล. วิธีแก้ตอนหั่นหัวหอมแล้วแสบตา เท่าที่ทราบมามีหลายวิธี ขอยกสัก 2 วิธีล่ะกันค่ะ คือ วิธีของพิม ปอกหอมแล้วแช่น้ำร้อนสักพัก จากนั้นค่อยเอามาซอย/หั่นค่ะ

กับวิธีของคุณ Gain ปอกหอมแล้วเอาไปแช่ตู้เย็นสักแป๊บค่ะ แล้วค่อยเอามาหั่นตามต้องการ

สองวิธีนี้ใครถนัดอย่างไหน ก็เลือกใช้ตามชอบเลย

7.พริกแห้งก็ล้างน้ำให้สะอาดค่ะ แล้วก็สะบัดๆ ผึ่งไว้ให้แห้ง จากนั้นเอามาซอยฝอยๆ เหมือนซอยใบมะกรูด อย่างนี้เลย

 

ป.ล. เม็ดไม่เอานะคะ เอาแต่เนื้อพริกอ่ะค่ะ

8.พอเราเตรียมของเสร็จ ก็ได้เวลาที่น้ำปลาหวานของเราเคี่ยวเสร็จพอดี อ้อๆๆ …. ไม่ต้องเคี่ยวให้เหนียวมากนักนะคะ เอาพอประมาณ เพราะว่าเดี๋ยวพอเย็น จะเหนียวขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ

ป.ล. ความเหนียว ให้น้อยกว่านมข้นหวานนะคะ

 

พอน้ำปลาหวานเคี่ยวได้ที่ก็ปิดไฟค่ะ แล้วก็รอน้ำปลาหวานอุ่นๆ ก็ตักใส่ชามหรือถ้วยใหญ่ๆ อะไรก็ได้ค่ะ … อย่างนี้อ่ะ (เพื่อเตรียมผสมเครื่องอย่างอื่น)

9.เริ่มแรกก็ใส่กุ้งแห้งป่นลงไปเลยค่ะ มีเท่าไหร่ใส่หมดเลยจ้า แต่ถ้าชอบข้นน้อย ๆ จะใส่น้อยกว่านี้ก็ได้นะคะ

 

10.คน ๆ ให้เข้ากัน

 

11.ใส่เครื่องทุกอย่างที่เหลือลงไป รวมถึงกุ้งแห้งตัว ๆ ด้วยค่ะ

 

ป.ล. ใครไม่ชอบพริกแห้ง จะใช้พริกขี้หนูสวนก็ได้ หั่นฝอย ๆ อย่างนี้เหมือนกัน

12.คนให้เข้ากันค่ะ เราก็จะได้น้ำปลาหวานมะม่วงสุดแสนอร่อยไว้จิ้มกันกับมะม่วงเปรี้ยว ๆ แล้ว

ป.ล. ที่เห็นเป็นฟอง ๆ คือฟองจากน้ำตาลนะคะ ทิ้งไว้สักพักก็หายจ้า

 

ที่มา topicstock.pantip.com

ภาพบางส่วนจาก www.ch3thailand.com