ทุกคำถาม เกี่ยวกับไผ่ เห็ดเยื่อไผ่ ธนาคารพันธุ์ไผ่ และการแปรรูป ที่นี่มีคำตอบ

Content พาเพลิน

ทุกคำถาม เกี่ยวกับไผ่ เห็ดเยื่อไผ่ ธนาคารพันธุ์ไผ่ และการแปรรูป ที่นี่มีคำตอบ

46SHARES

Facebook

Twitter

Google+

LINE

ไผ่ นอกจากจะเป็นไม้ที่ขึ้นง่าย ตายยาก และอยู่ได้ในพื้นดินทุกชนิดแล้ว ยังมีประโยชน์มากอีกด้วย ทั้งใช้เป็นของประดับตกแต่งสร้างที่อยู่อาศัย หรือข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านต่างๆ ยังสามารถนำหน่อมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย ส่วนการขยายพันธุ์ก็สามารถทำได้ทั้งวิธีการตอนและปักชำ เพราะสามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

คุณโชคดี ปรโลกานนท์ หรือ ลุงโชค เจ้าของสวนลุงโชค อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 6 บ้านคลองทุนเรียน ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่ทำสวนแบบวนเกษตร โดยเน้นการปลูกพืชพรรณหลายชนิดรวมกันในพื้นที่กว่า 100 ไร่ นอกจากนี้ ยังชื่นชอบและเพาะพันธุ์ไผ่หลากหลายสายพันธุ์อีกด้วย

คุณโชคดี ปรโลกานนท์ กับกอพญาไผ่เลี้ยง ซึ่งมีคุณค่าและมูลค่ามหาศาล

คงต้องเกริ่นก่อนว่าการทำสวนแบบวนเกษตรคือ แนวทางการทำเกษตรอย่างยั่งยืนที่เน้นการปลูกไม้ยืนต้นที่ใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้เป็นหลักร่วมกับการปลูกพืชเศรษฐกิจและพืชผักสวนครัว การทำสวนในลักษณะผสมผสาน หรือการทำเกษตรที่มีลักษณะคล้ายกับเลียนแบบระบบนิเวศของธรรมชาตินั่นเอง

 

จากพืชเศรษฐกิจ สู่การทำสวนแบบวนเกษตร

ลุงโชค เล่าถึงการเริ่มทำสวนให้ฟังว่า ก่อนที่จะหันมาทำการเกษตรแบบยั่งยืน หรือวนเกษตรนั้น เริ่มต้นจากการนำความรู้ที่ได้เรียนมาจากสาขาวิชาพืชไร่ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยเน้นการปลูกพืชเศรษฐกิจ อาทิ ปลูกข้าวโพด มันสำปะหลัง เป็นต้น ซึ่งเริ่มแรกก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่หลังจากทำมาระยะหนึ่งก็พบว่าหากยังทำสวนโดยปลูกเพียงแต่พืชเศรษฐกิจอย่างเดียวคงยังไม่พอ เนื่องจากประสบปัญหาทั้งในเรื่องการลงทุน และเรื่องของระบบชลประทาน คล้ายกับเป็นการทำการเกษตรที่ต้องพึ่งพาสภาพดินฟ้าอากาศเพียงอย่างเดียว และยังมองว่าการทำสวนในลักษณะนี้จะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมด้วย จึงเริ่มหันมาสนใจเรื่องการทำวนเกษตร

เมื่อเข้าสู่ปี 2531 ลุงโชค บอกว่า เริ่มทำสวนแบบวนเกษตรโดยเน้นปลูกต้นไม้เป็นหลัก แต่ก็ปลูกพวกพืชผักสวนครัวเอาไว้สำหรับกินเองด้วย ส่วนที่เหลือก็สามารถนำไปจำหน่ายได้

“ตอนนั้นมีที่แค่ 50 ไร่ แต่เราไม่ได้ปลูกทั้งแปลงแต่อาศัยปลูกปนกัน ผสมผสานกันไป เริ่มทำจากเล็กๆ ก่อน เพื่อให้ได้ประสบการณ์ เรื่องการลดต้นทุนและการขยายพันธุ์ไม้ด้วย ยอมรับว่าตอนนั้นเปลี่ยนวิธีคิดไปเลย จากที่เมื่อก่อนเราปลูกเพื่อขาย ตอนหลังเราปลูกเพื่อกินแทนแล้วพอเหลือจากกินก็เอาไปขายได้ หลังจากเริ่มทำก็ใช้เวลา 6-7 ปี ทุกอย่างก็ลงตัว ต่อมาก็เริ่มมีรายได้จากการขายผลผลิต ซึ่งรายได้ที่มีก็มาจากทั้งการขายผลผลิตและการขายพันธุ์พืช” ลุงโชค กล่าว

 

จุดเริ่มต้นอาณาจักรไผ่

สำหรับจุดเริ่มต้นในการหันมาปลูกไผ่นั้น เริ่มในปี 2543 เนื่องจากในสวนจะมีบริเวณหนึ่งที่โครงสร้างดินไม่ค่อยดี ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ประกอบกับตอนนั้นคุณตาของลุงโชค มีไผ่เลี้ยงอยู่กอหนึ่งที่เขาปลูกเอาไว้ จึงขอเอามาลงดินปลูกดูเผื่อว่ามันจะขึ้น ปรากฏว่าปลูกขึ้น ทำให้สนใจการปลูกไผ่ขึ้นมา และเริ่มสะสมไผ่สายพันธุ์ต่างๆ มาเรื่อย จนกลายมาเป็นอาณาจักรไผ่สวนลุงโชคอย่างทุกวันนี้

“ระหว่างที่ทำสวนวนเกษตรตอนนั้นยังมีหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า และฟื้นฟูป่าที่เขาแผงม้า ทำให้ต้องแบ่งเวลาทั้งในการปฏิบัติหน้าที่และการทำสวน แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเรื่องการทำสวนเสียทีเดียว พอถึงปี 2550 บทบาทหน้าที่ในการฟื้นฟูป่าสิ้นสุดลง จึงกลับมาทุ่มเทให้กับการทำสวนที่ตนเองรักอย่างเต็มที่อีกครั้ง และยังเริ่มเปิดสวนให้คนเข้าเยี่ยมชม และให้ความรู้เกี่ยวกับการทำสวนด้วย ต้นไม้ที่ปลูกก็เป็นพวกไม้ยืนต้น เช่น พะยูง ตะเคียนทอง เพราะคิดว่าต่อไปพันธุ์ไม้พวกนี้จะหายากก็เลยปลูกไว้ ส่วนหลักในการเลือกปลูกต้นไม้ส่วนใหญ่มักจะคำถึงถึงเรื่องของถิ่นดั้งเดิมด้วย ทำให้มีพันธุ์ไม้ที่ปลูกกว่า 300 ชนิด” ลุงโชค กล่าว

นอกจากการเพาะพันธุ์ไผ่แล้วสิ่งที่ลุงโชคกำลังให้ความสำคัญคือ เรื่องการแปรรูปและการใช้ประโยชน์จากไผ่