ลงทุน 20 ล้าน! “แม่นภา” จะพาข้าวต้มมัดไปขาย…ทั่วโลก

Content พาเพลิน

ลงทุน 20 ล้าน! “แม่นภา” จะพาข้าวต้มมัดไปขาย…ทั่วโลก

2.2KSHARES

Facebook

Twitter

Google+

LINE

ไม่นานมานี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม  ได้ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ เพื่อประกาศให้ภูมิปัญญาเหล่านี้เป็นมรดกของชาติ เนื่องจากต้องการให้สังคมรับรู้และช่วยกันปกป้องคุ้มครองมิให้ภูมิปัญญาดังกล่าวสูญหายไป

ซึ่งหนึ่งในนั้น  “ข้าวต้มมัด”รวมอยู่ด้วย

ขนมพื้นบ้านทำจากข้าวเหนียว กะทิ กล้วย และ ถั่วดำ ทำรับประทานกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ รูปร่างหน้าตาออกจะเชย แต่ได้รับการยกย่องอย่างเป็นทางการให้เป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ คงเป็นเครื่องยืนยันได้ ขนมไทยชนิดนี้มี “ข้อดี”ที่ควรอนุรักษ์ไว้…อย่างยิ่ง

บริษัท ทีอาร์ ไทยฟู้ดส์ จำกัด คือ  ผู้ผลิตและจำหน่าย “ข้าวต้มมัด”พร้อมรับประทานรูปแบบใหม่ ติดแบรนด์  “แม่นภา” ซึ่งผ่านการวิจัยและพัฒนามานานนับปี

จนสามารถทำให้ขนมสูตรเก่าแก่ชนิดนี้ มีอายุการเก็บรักษาในอุณหภูมิปกติได้นานถึง 6 เดือน ทั้งที่ผลิตจากวัตถุดิบที่เป็นของสด และไม่มีส่วนประกอบของผงชูรสหรือมีสารกันบูดร้อยเปอร์เซ็นต์  ปัจจุบันมีวางขายแล้วทั่วไปในร้านสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรดชั้นนำ

สำหรับกิจการต้นเรื่องครั้งนี้ อาจไม่ใช่หน้าใหม่ในแวดวงคนทำธุรกิจ เพราะเป็น “บริษัทลูก” แตกไลน์มาจาก บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงระดับ ยี่ห้อ “ข้าวตราไก่แจ้” อายุกิจการยาวนานกว่า 30 ปี ปัจจุบันยอดขายอยู่ในระดับ “ท็อปทรี”ของประเทศ มีผู้บริหาร “เจนฯสอง” อย่าง คุณกอล์ฟ-ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล ดูแล

“การทำข้าวถุงอย่างมากแค่ขัดสีแล้วบรรจุขาย เราทำแบบนั้นมาตลอด  ขณะเดียวกันก็คิดมาตลอดเหมือนกันว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าหลักที่เรามีอยู่ได้อย่างไรบ้าง จนได้ข้อสรุปจะทำสิ่งที่ ถนัด คือ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าว”คุณกอล์ฟ เริ่มต้นอย่างนั้น

ประกอบกับคุณแม่ของเขา ไม่ชอบให้ลูก-หลาน ทาน “ขนมถุง-ถุง” เลยมักทำขนมไทยทานเอง อย่าง ขนมครก ขนมถ้วย ไส่ใส้ ทับทิบกรอบ ลูกชุบ ฯลฯ ครอบครัวของเขาจึงผูกพันกับขนมไทยแทบทุกชนิดมาแต่ไหนแต่ไร

“ทุกวันนี้ถ้าอยากกินข้าวต้มมัดซักชิ้นนึง ไม่รู้จะซื้อที่ไหน  เลยเกิดความคิดอยากทำขนมไทยให้มีแบรนด์สินค้า มีความเป็นสากลมากขึ้น เพื่อสืบสานวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมเดิมๆจะได้ไม่หายไป”คุณกอล์ฟ ว่าอย่างนั้น

ก่อนย้ำถึงข้อเด่นของสินค้าที่คิดจะนำเสนอออกมาว่า คนไทยเก่งเรื่องข้าวไทยที่สุด ข้าวไทยใครลอกเลียนแบบไม่ได้เหมือนกับขนมไทย ฉะนั้นขนมที่จะทำออกมา หากวัตถุดิบทุกอย่างมาจากเมืองไทย รสชาติก็ต้องเป็นแบบไทย คงไม่มีชาติไหนมาแข่งขันได้

“ขนมไทยเจ๋งกว่าขนมเค้ก  ขนาดขนมญี่ปุ่นไม่มีอะไรเลยแต่ขายได้มหาศาล ขณะที่ขนมไทย การทำแต่ละขั้นตอนประณีตทุกอย่าง บางอย่างใช้เครื่องจักรไมได้ต้องใช้คนทำเท่านั้น แต่มูลค่าจิ๊บจ๊อย มากแถมร่อยหรอไปทุกวัน

ปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่ไม่หยิบขนมไทยนะ หยิบแต่ขนมถุง เพราะรู้จักจากโฆษณา กินแล้วเท่-ทันสมัย ใครไปถือขนมใส่ไส้ไปโรงเรียน นี่เชยเลยแถมเลอะเทอะ แต่ถ้าเป็นขนมถุงกินง่าย ฉีกข้างในมีการ์ตูนแถมด้วย”คุณกอล์ฟ เปรยแกมตัดพ้อ

 เห็นชัดเจว่านบรรดา “คู่แข่ง”มีจำนวนมากและเข้มแข็งเหลือหลาย เหตุใดยังกล้าลงทุนทำขนมไทยออกมาจำหน่าย คุณกอล์ฟ แจงชัดถ้อยชัดคำ รู้ว่าเสี่ยงแต่ไม่กลัว เพราะคิดว่าไม่มีธุรกิจไหนเสี่ยงเท่าธุรกิจข้าวแล้ว แต่เขายังกล้าเสี่ยงลงโฆษณา ทั้งที่ไม่มีของขาย กล้าใช้การตลาดนำ เพราะเชื่อมั่นลงทุนก่อนย่อมได้รับก่อน

“ตอนนี้ยังไม่มีใครขนมไทยแนวใหม่ออกมาขาย เพราะกลัวตลาดใหญ่มั๊ย ลูกค้าจะรับได้มั๊ย       จะขายได้มั๊ย แต่ผมคิดต่าง ถ้าทำก่อนได้ก่อน ย่อมกลายเป็นเจ้าตลาดรายแรก ผมไม่กลัวว่าตลาดจะมีมั๊ย  ถ้าไม่มีเชื่อว่าสร้างได้ และมั่นใจขนมไทย ถ้าทำออกมาดี คนกินแน่นอน และไม่ใช่ขายแค่ตลาดในเมืองไทยต้องขายไปได้ทั่วโลก”เอ็มดีหนุ่ม กล่าวอย่างมั่นใจ