‘ดีป้า’ จัดใหญ่ HACKaTHAILAND 2023 มหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล เดินหน้า แพลตฟอร์ม ‘CONNEXION’ ต่อยอดเปิดตัว eTailligence Platform ศูนย์รวม Big Data ด้าน E-commerce สำหรับวางแผนการตลาดออนไลน์
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa หรือ ดีป้า) แถลงความสำเร็จของโครงการ HACKaTHAILAND 2023: DIGITAL INFINITY จากการเดินหน้าสร้างบุคลากรดิจิทัลผ่านการยกระดับทักษะดิจิทัล ควบคู่กับการส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคประชาชน ภายในงานมหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล HACKaTHAILAND 2023: DIGITAL INFINITY ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 สิงหาคม 2566 ณ Plenary Hall 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานในพิธีเปิด มหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล HACKaTHAILAND 2023: DIGITAL INFINITY โดยมีผู้แทนจากสถานทูต ผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และเครือข่ายเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึง ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานร่วมในพิธี
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวเปิดงาน ว่า ทุกโครงการในกิจกรรมวันนี้ ได้คุยกับผศ.ดร.ณัฐพล มาโดยตลอด จนเกิดเป็นโครงการต่างๆ โดยภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา อาทิ ในเรื่องการท่องเที่ยว มีสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาพูดคุย ในการนำระบบดิจิทัลแฟลตฟอร์มไปใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึง E-Commerce กลุ่มที่ค้าขายออนไลน์ก็มาคุยกับเรา ว่าอยากมีแฟลตฟอร์มมีระบบส่งเสริมการขายออนไลน์ รวมถึง Smart School Bus เรื่องระบบรถโรงเรียน ติดเซนเซอร์เพื่อตรวจสอบเด็กที่ติดอยู่ในรถ เพื่อป้องกันการลืมเด็กทิ้งไว้ในรถ เป็นเรื่องง่ายๆที่เราทำโครงการร่วมกับรถรับส่งนักเรียน 3,000 คัน รวมถึง Smart City พัฒนาระบบโครงการสร้างเมืองอัจฉริยะ รวมทั้งอบรมคนรุ่นใหม่ให้ทำงานร่วมกับท้องถิ่นเพื่อสร้าง Smart City
“ทุกโครงการที่เกิดขึ้น นอกจากเป็นงบประมาณของดีป้าแล้ว ยังได้เงินจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล ตั้งกระทรวงดิจิทัล ทำให้เกิดกองทุนพัฒนาดิจิทัลฯ และดีป้าก็เกิดตามกฎหมายฉบับนี้ ตรงนี้จะทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตต่อไปในอนาคตได้อย่างแน่นอน
“รวมทั้งล่าสุดเรามีเรื่องมาตรการบัญชีดิจิทัล โดยธุรกิจสตาร์ทอัพที่มาขึ้นทะเบียนกับดีป้า อยู่ในบัญชีบริการดิจิทัล จะมีแต้มต่อในการทำธุรกิจกับภาครัฐและเอกชน หาลูกค้าหางานได้ง่ายขึ้น เติบโตได้ดีขึ้น ส่งเสริมเรื่องภาษี รวมทั้งมี พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมออนไลน์ หลักๆคือตรวจสอบบัญชีม้า การโอนเงินที่มีความผิด ติดตามอายัดบัญชีให้เร็ว” รมว.ดีอีเอส กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า จากแผนส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลในการดำเนินงาน ระยะเวลา 12 เดือน ที่ผ่านมา เราได้มุ่งเน้นการส่งเสริมกำลังคน ได้มีการอบรมกำลังคนใน Open Platform ให้คนที่อยู่ในระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษา บุคคลทั่วไป เข้าไปเรียนใน Open Platform ทั้งนี้ยังรวมถึงวิชาชีพใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น Game developer การเพิ่มคนในสายทำงานอุตสาหกรรมดิจิทัล ในการ Reskill จากสายสังคมศาสตร์ มาเป็นสายเทคโนโลยี
“ในโครงการดังกล่าว ยังมีการต่อยอดสู่กลุ่มผู้ประกอบการ กลุ่มคนที่ตกงานและต้องการปรับเปลี่ยนตัวเองมาเป็น คนใช้ดิจิทัลเพื่อมาประกอบธุรกิจ หรือแม้แต่สตาร์อัพรุ่นใหม่ วันนี้ทางดีป้ามีสตาร์ทอัพที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรา ประมาณ 150 ราย คิดเป็นมูลค่า 5 พันล้านบาท และมีอยู่ 5 ราย ที่เข้าไปอยู่ในกลุ่ม selling A มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านบาท
“การพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดใหม่ นั่นคือ อุตสาหกรรมเกม มีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเกิดจาก Game developer ในเมืองไทย ประมาณ 30% ที่เหลือเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงเกิดคำถามว่า จะทำอย่างไรให้อุตสหกรรมเกมเติบโตขึ้นเป็น 5 หมื่นล้านบาท และ 1 แสนล้านบาท ในอนาคต โดยการขยายผู้สร้าง Game developer และ Eco System ในเมืองไทย”ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว และว่า
ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวต่อว่า การจัดมหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล HACKaTHAILAND 2023: DIGITAL INFINITY เป็นกิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการ HACKaTHAILAND ในปีนี้ได้มีการรวบรวมเทคโนโลยีรอบตัว เพื่อเปิดประสบการณ์ด้านดิจิทัลให้แก่ภาคประชาชน บนพื้นที่จัดแสดงรวมกว่า 6,400 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 5 โซน ประกอบด้วย ได้แก่ ZONE FUTURE , ZONE COMMERCE , ZONE TOURISM , ZONE CONTENT และ ZONE WELL-BEING
“สำหรับใน ZONE COMMERCE ได้มีกิจกรรมต่อยอดโครงการ “แพลตฟอร์ม CONNEXION” หนึ่งในโครงการสำคัญประจำปี 2566 ของ ดีป้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับองค์ความรู้ พัฒนาทักษะชุดใหม่ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลแก่ประชาชนไทย โดยเฉพาะผู้ว่างงานและนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังหางานให้มีความพร้อมต่อการประกอบอาชีพใหม่ในยุคดิจิทัลที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรม E-commerce ไทย อย่างดิจิทัลคอนเทนต์ครีเอเตอร์ และดิจิทัลอินฟลูเอนเซอร์ผ่านการเรียนการสอนบนแพลตฟอร์ม CONNEXION (www.depaconnexion.com) โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 60,000 ราย
“ในส่วนของกิจกรรมต่อยอดดังกล่าว ได้จัดเวทีให้กับผู้เข้าร่วมโครงการได้แสดงศักยภาพทางความคิด และผลงานอันโดดเด่นด้วยการจัดแข่งขันสำหรับอินฟลูเอนเซอร์และดิจิทัลคอนเทนต์ ครีเอเตอร์หน้าใหม่ของไทย ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 280,000 บาท และต่อยอดสู่การจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการกว่า 50 ราย ภายใต้ความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายของดีป้า” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
ทั้งนี้ องค์กรที่เป็นภาคเครือข่ายของดีป้า อาทิ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน), บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จํากัด (มหาชน), บริษัท เทลสกอร์ จำกัด และ บริษัท เทค อี-บิสสิเนส เซ็นเตอร์ จำกัด ฯลฯ เพื่อเฟ้นหาตำแหน่งงานสาย Influencer และ Content Creator ภายในโซน Job Village
โดยภายในพื้นที่เดียวกันนี้ CONNEXION ได้ขนทัพเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นัท นิสามณี เลิศวรพงศ์ ช่อง Nut nisamanee , เอิ้ก ชาลิสา โชติจิรสถิตย์ ช่อง ChrrissaChotijirasathit , เบเบ้ ธันย์ชนก ฤทธินาคา ช่อง BEBE FIT ROUTINE , คิว เตมี คุปต์ธนโรจน์ ช่อง Q TAYMEE , ชีสเค้ก จริยา ราโชมาศ ช่อง Cheezecake Jariya , ดาว วิภา อาทิตย์อุไร ช่อง Fit Kab Dao , ปั้น ชัชพงศ์ – โป้ง ชูพัฒน์ หาญหฤหรรษ์ ช่อง TheFadd , นุ่น นพลักษณ์ กุลธวัชชัย ช่อง Nune NOBLUK, แก้มบุ๋ม ปรียาดา – แม่ลี ศริญญา สิทธาไชย อีกทั้งเข้าร่วมกิจกรรม A Future of E-commecer โดย ปู สุวิตา จรัญวงศ์ , ซ้ง ทรงพล ชัญมาตรกิจ , ไว ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา , มิ้นท์ กุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ และฟังบรรยายเรื่องกฎหมาย ภาษี กับธุรกิจดิจิทัล โดย มิกกี้-ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ iTAX ที่จะมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การทำงานในอุตสาหกรรม E-Commerce
นอกจากนี้พบกับการเปิดตัว “eTailligence Platform” ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการ CONNEXION โดยดีป้า เป็นการรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data ของด้าน E-commerce แห่งแรกของไทย ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการหรือแบรนด์สินค้าที่ขายบนโลกออนไลน์ สามารถวิเคราะห์ความสนใจ ความรู้สึก และความพึงพอใจของผู้บริโภคจากเครื่องมือบนแพลตฟอร์ม ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ และตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น
ซึ่งบนแพลตฟอร์มนี้จะมีเครื่องมือให้ใช้งานอยู่ 3 ตัว ได้แก่ 1. Market Analysis: ข้อมูลภาพรวมตลาด E-Commerce แบ่งตาม Category ของสินค้าที่ขายในช่องทางออนไลน์โดยเก็บข้อมูลจาก Marketplace Platform ในประเทศไทย 2. Shop Analysis: ข้อมูลของร้านค้าออนไลน์ที่รวบรวมจาก Marketplace Platform ต่างๆ ที่ร้านค้าใช้รวบรวมและวิเคราะห์เอาไว้ในที่เดียว และ 3. Competitive Analysis: ข้อมูลการวิเคราะห์คู่แข่งในกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกัน
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจใช้แพลตฟอร์ม eTailligence ในการเป็นเครื่องมือเพื่อวางแผนการตลาดออนไลน์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและขอทดลองใช้งานได้ที่ www.etailligence.com หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อผ่านทาง LINE Offical account ที่ @etailligence
ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดของโครงการ CONNEXION ได้ใน 3 ช่องทางคือWebsite: www.depaconnexion.com , Facebook : depaCONNEXION , LINE OA : @depaconnexion