เกษตรสูงวัยเจ๋ง ปลูก”มะเขือเทศราชินี” 2 เดือน รับเงินแสน ชาวบ้านแห่มาศึกษาฯ(คลิป)
| ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ | วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ.2559 |
บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่เศษ ของลุงสุนันท์ แซ่อื๊อ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/6 หมู่ 10 ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับการปลูกพืชผักมาตั้งแต่เด็กทดลองปลูกผักหลายชนิดหมุนเวียนในพื้นที่ ซึ่งได้มีการปลูกแบบยกร่องสูง มีน้ำขังหล่อเลี้ยงอยู่สม่ำเสมอ มารุ่นนี้ทดลองปลูกมะเขือเทศราชินีที่ได้รับความสนใจ ตลาดมีความต้องการเนื่องจากผู้บริโภคให้ความนิยมรับประทานเพราะอุดมด้วยวิตามินมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ราคาแพง เป็นแปลงตัวอย่างของอำเภอโพธาราม ที่จะให้เกษตรกรมาศึกษาดูงาน หลังจากที่จังหวัดราชบุรีได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 6 จังหวัดของประเทศให้เป็นเมืองเกษตรสีเขียว ที่ผลิตพืชผัก ผลไม้ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เป็นแหล่งปลูกที่สำคัญของประเทศ
ลุงสุนันท์ แซ่อื๊อ เปิดเผยการปลูกมะเขือเทศราชินีว่า เริ่มทำอาชีพการเกษตรมาตั้งแต่อายุ 12 ปี ปลูกหลายอย่างหมุนเวียนกันไป เช่น ถั่วฝักยาว ชุดล่าสุดปลูกผักคะน้า พอชุดนี้จึงเปลี่ยนมาปลูกมะเขือเทศราชินี การดูแลค่อนข้างยากเพราะระบบน้ำยังไม่ค่อยดี จึงต้องใช้ระบบน้ำซึมยกร่อง หากปล่อยน้ำมาแบบลักษณะตรงอาจทำให้น้ำเสีย วิธีการปลูกจะใช้กรอกเมล็ดใส่ขวดแล้วโรยลงดินเป็นแถวยาว หลังโรยปลูกเสร็จแล้วจะใช้น้ำวิดรดทุกวันจนกว่าเมล็ดจะงอกตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงเก็บลูกได้ใช้เวลาประมาณ 75 วัน ขณะนี้กำลังเริ่มเก็บผลผลิตได้แล้ว มีพ่อค้ามารับถึงสวนไปขายที่ตลาดศรีเมืองราชบุรี ส่วนมะเขือเทศราชินีที่ขายส่งอยู่ที่หน้าสวนจะขายอยู่ราคากิโลกรัมละ 40 บาท แต่ถ้าไปถึงพ่อค้า แม่ค้าคนกลางกิโลเท่าไหร่ยังไม่ทราบแล้วแต่จะบวกราคาเพิ่ม
การดูแลค่อนข้างยากต้องเอาใจใส่ ต้องดูเรื่องศัตรูพืช เช่น หนอน โรคใบ ต้องดูแลคลุกคลีต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด ยอมรับว่าใช้สารเคมีบ้าง แต่ใช้อย่างปลอดภัย เพราะการเก็บผลผลิตจะมีการกำหนดวันเก็บ เช่น ฉีดยาก่อนประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นจึงจะเก็บผลผลิตได้
โดยแปลงปลูกมะเขือเทศราชินีที่นี่เป็นแปลงตัวอย่างของเกษตรปลอดสารพิษที่สำนักงานเกษตรคัดเลือกให้เป็นแหล่งศึกษาดูงานของราชบุรี อย่างวันนี้มีนักวิชาการและเกษตรกรจากจังหวัดบุรีรัมย์ จันทบุรี เชียงใหม่ จำนวน 120 คน ได้เดินทางมาศึกษาดูงานการปลูก การเก็บผลผลิต และการจำหน่าย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรได้เข้ามาส่งเสริมหลายเรื่อง เช่น การใช้สารชีวภัณฑ์ในการฉีดพ่นกำจัดหนอนซึ่งอาศัยอยู่ที่ต้นมะเขือเทศราชินี การใช้สารฆ่าเชื้อโรคในดินเป็นต้น สำหรับการปลูกมะเขือเทศราชินีมีการลงทุนปลูกกว่า 1 แสนบาท ซึ่งได้ว่าจ้างคนงานเก็บกิโลกรัมละ 4 บาท เก็บได้วันละประมาณ 400 กิโลกรัม ระยะเวลาการปลูกประมาณจนถึงเวลาเริ่มเก็บ 75 วัน และเก็บผลผลิตหมดรุ่นใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หากราคายังคงสูงอยู่เท่านี้ คาดว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท
นายปัญญา ลูกรักษ์ เกษตรอำเภอโพธาราม เปิดเผยว่า เกษตรกรที่ปลูกพืชผักผลไม้ในตำบลบ้านสิงห์ อย่างที่ดินแปลงนี้เป็นแหล่งศึกษาดูงานแก่เกษตรกรของอำเภอ ส่วนสารชีวภัณฑ์ที่แนะนำให้เกษตรกรใช้ในแปลงปลูกมะเขือเทศราชินีจะเป็นสารไตรโคเดอร์ม่า เพื่อป้องกันโรคโคนเน่า รากเน่าที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเมื่อมะเขือเทศโตแล้ว ส่วนช่วงกำลังเจริญเติบโตจะใช้สารบิวเวอร์เรีย ในการป้องกันกำจัดหนอนและเพลี้ย ไม่ให้มารบกวนที่เกษตรกรปลูก สำหรับพื้นที่ตำบลบ้านสิงห์จะมีบริษัทมาให้เกษตรกรดำเนินการปลูกและจะรับซื้อผลผลิตคืน ซึ่งตรงนี้จะได้ราคาค่อนข้างสูงเพราะว่าเกษตรกรผลิตสินค้าที่ได้คุณภาพดี อย่างมะเขือเทศราชินี ซึ่งกินผลสดแล้วยังสามารถแปรรูปรับประทานได้ เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ส่วนที่เหลือแล้วก็จะนำเข้าโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อนำไปทำแช่อิ่ม หรือ น้ำมะเขือเทศ และอื่นๆได้อีก โดยพื้นที่บริเวณนี้ทางบริษัทจะลงเมล็ดให้เกษตรกรปลูกวางแผนเป็นรุ่นๆไม่ให้ล้นตลาด จะมีตั้งแต่แปลงขนาด 5 -10 ไร่ รวมทั้งหมดประมาณ 200 ไร่ ยังถือว่าเป็นพืชที่ได้รับความนิยมอยู่ในตลาดยังมีความต้องการ
ซึ่งนอกจากเกษตรกรจะนำมะเขือเทศราชินีขายส่งแล้ว อีกส่วนยังนำไปจำหน่ายที่ตลาดนัดเกษตรกรที่หน้าสำนักงานเกษตรอำเภอเมือง ซึ่งจำหน่ายในทุกวันศุกร์ สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง สำหรับตลาดนัดเกษตรกรที่หน้าสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองนี้ ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดได้จัดให้เกษตรกรนำพืชผัก ผลไม้ สินค้าแปรรูป สินค้าโอท็อปต่างๆ หลายชนิดไปวางจำหน่ายแก่ประชาชนในราคาถูก ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยสุ่มตรวจหาสารพิษตกค้าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคด้วย
